Adventure

Vera Cruz (1954) สองเสือกระหน่ำแหลก

ถือเป็นหนังแนวคาวบอยที่ประสบความสำเร็จมากๆ เรื่องหนึ่งครับ และยังกล่าวกันว่าเรื่องนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้กำกับอย่าง Sam Peckinpah และ Sergio Leone รวมถึงหนังคาวบอยระดับตำนานอย่าง The Magnificent Seven และ The Professionals ด้วย

ตัวเอกของเรื่องคือ 2 สิงห์แห่งแดนตะวันตกอย่าง เบนจามิน เทรน (Gary Cooper) อดีตทหารหาญ กับโจ เอริน (Burt Lancaster) มือปืนรับจ้างมากฝีมือ ที่มีโอกาสได้มาเจอกันและในเวลาต่อมาพวกเขาก็ได้รับการทาบทามจาก มาร์กี อองรี แห่งลาบอร์แดร์ (Cesar Romero) ผู้ช่วยจักรพรรดิแม็กซิมิเลียน (George Macready) แห่งเม็กซิโก โดยจักรพรรดิทรงเสนอให้พวกเขาคุ้มกันขบวน พาเคาน์เตสมารี ดูแวร์ (Denise Darcel) ไปส่งให้ถึงยังท่าเรือเวร่าครูซ

แต่ทีนี้ระหว่างทาง 2 สิงห์ของเราก็พบว่าขบวนรถนี้มีของมีค่าซ่อนมาด้วย พวกเขาเลยคิดจะฮุบสมบัติเหล่านี้เสีย และไม่ได้มีแค่พวกเขาด้วยครับที่มุ่งหมายจะชิงสมบัติ งานนี้พวกเขาเลยต้องรับมือฝ่ายตรงข้ามที่พยายามจะบุกเข้ามาชิง อีกทั้งยังต้องระแวงกันเองด้วย

หนังมาตามสูตรคาวบอยสายแอ็คชั่นครับ ตั้งแต่ให้ 2 สิงห์รูัจักกัน หยั่งเชิงกัน แล้วก็สำแดงฝีมือให้คนดูประจักษ์ว่าพวกเขาแน่แค่ไหน บวกด้วยการแสดงให้เห็นไหวพริบของสิงห์แต่ละตน อย่างการประเมินน้ำหนักสิ่งของที่ขนไปด้วยการดูความลึกของรอยล้อเกวียน – อันทำให้พวกเขารู้ได้ว่ารถขบวนนี้ไม่ได้ขนมาแค่คน

หนังน่าติดตามไปตลอดตั้งแต่ต้นจนจบครับ พลังของหนังก็มาจากหลายทาง ไม่ว่าจะการแสดงระดับมืออาชีพของ Cooper และ Lancaster ที่ว่ากันว่าก่อนที่หนังจะเปิดกล้อง Clark Gable เคยเตือน Cooper ว่าอย่าเล่นหนังกับ Lancaster จะดีกว่า เพราะอาจถูก Lancaster ขโมยซีนก็ได้

แต่ด้วยความเก๋าของ Cooper ก็ทำให้บทเบน เทรนของเขาดูมีรัศมี และน่าจดจำ ส่วน Lancaster ก็สามารถถ่ายทอดบทมือปืนเปี่ยมไหวพริบได้อย่างน่าชื่นชม เรียกว่า 2 คนนี้เล่นดีทั้งคู่ กินกันไม่ลงครับ (แล้ว 4 ปีต่อมา Gable ก็ได้เล่นหนังกับ Lancaster ใน Run Silent Run Deep) ส่วน Cesar Romero แม้บทจะไม่เด่นเท่า 2 ดารานำ แต่ยามที่เขาขึ้นจอก็สามารถแผ่บารมีความเป็นขุนนางของตัวละครได้ไม่น้อย และเรายังได้เจอกับ Ernest Borgnine และ Charles Bronson มาในบทสมทบด้วยครับ

ตัวหนังถือว่าเล่าเรื่องได้สนุกครับ อันนี้ก็ต้องชมเจ้าของเรื่องอย่าง Borden Chase (Red River) และ Roland Kibbee กับ James R. Webb ที่เกลาเรื่องให้กลมกล่อมลงตัว ตัวหนังก็ยาวแค่ 90 นาทีนิดๆ มันเลยค่อนข้างกระชับครับ แล้วก็แน่นอนว่าผู้กำกับ Robert Aldrich ก็สามารถคุมหนังได้อย่างพอเหมาะ ตัวละครหลักแต่ละคนมีโมเมนต์ของตัวเอง ผสมกับฉากบู๊ที่แทรกลงมาเป็นพักๆ จนบอกได้เลยครับว่าผมชอบเรื่องนี้มากกว่า Apache (ผลงานเรื่องก่อนที่เขาร่วมงานกับ Lancaster)

หนังลงทุนไปราว $1.7 ล้าน แล้วก็สามารถทำเงินคืนกลับมาได้กว่า $11 ล้านครับ เรียกว่าประสบความสำเร็จอย่างดี และด้วยความสำเร็จทั้งของเรื่องนี้และของ Apache ก็เลยส่งผลให้ค่าย United Artists ตกลงที่จะร่วมงานกับ Lancaster และผู้อำนวยการสร้าง Harold Hecht ต่ออีกเป็นเวลา 2 ปีครับ

แล้วยังมีเรื่องเล่าจากกองถ่ายอีก ว่ากันว่าครั้งหนึ่ง Lancaster เคยพาลูกๆ ของเขามายังกองถ่าย แล้วพวกเขาก็หัวเราะเยาะใส่ Jack Elam ที่ตาซ้ายของเขาเสียเนื่องจากการชกต่อยเมื่อสมัยเด็กๆ นั่นเลยทำให้ Elam ไม่พอใจและมีเรื่องชกต่อยกับ Lancaster กลางกองถ่าย ก็ทำเอาวันนั้นวุ่นกันไปทั้งกองเหมือนกัน

สรุปว่านี่เป็นหนังคาวบอยอีกเรื่องที่น่าจดจำครับ ทำออกมากลมกล่อม ดูสนุก ครบรสทั้งในเชิงดราม่าและแอ็คชั่น ดังนั้นถ้าท่านใดเป็นคอหนังแนวนี้ก็อยากให้ลองลิ้มกันสักครั้งคราครับ เชื่อว่าท่านจะไม่ผิดหวัง

สองดาวครึ่งสวยๆ ครับ

(7/10)