Action

K.O. (2025) น็อกเอาท์

สารภาพนะว่าก่อนดูผมแอบหวัง เพราะภาพตัวอย่างหนังใน Netflix มันเป็นรูปตัวเอกยืนหันหลังให้กล้อง แล้วกำลังหันหน้าไปเผชิญกับกลุ่มคนสวมหน้ากาก คือดูจากทรงนี่ก็เหมือนว่าพวกเขาจะต้องมีเรื่องกันแน่ๆ ไอ้เราก็คิดว่าหนังมันน่าจะเดือดอยู่ – แต่ครั้นพอได้ดู มันก็ไม่ได้เดือดอย่างที่คิดแฮะ

ตัวเอกคือ บาสเตียง (Ciryl Gane) นักสู้ที่เผอิญมือหนักเลยทำให้คู่ชกในสังเวียนถึงแก่ความตาย แล้วมันก็เป็นบาดแผลในใจเขาเรื่อยมา ทีนี้อยู่มาวันหนึ่ง เลโอ (Maleaume Paquin) ลูกชายของคู่ชกที่ตายนั่นเกิดหายตัวไป เอ็มม่า (Anne Azoulay) แม่ของเลโอเลยมาขอให้เขาข่วยตามหาลูก แล้วเขาก็ตามสืบไปจนพบว่าเลโอกำลังตกอยู่ในอันตราย และเขาก็ต้องฝ่าดงทีนไปช่วยเด็กคนนี้ออกมา

โอเค ในแง่ความเดือด จะว่าไปหนังมีฉากบู๊ฉะกันใหญ่ๆ แค่ 2 ช่วงครับ ช่วงแรกคือในผับที่บาสเตียงกับเคนซ่า (Alice Belaïdi) ตำรวจหญิงแกร่งพยายามจะไปตามรอยของเลโอ ฉากนั้นผมว่าเดือดสุดแล้วล่ะ ซึ่งก็ตีกันได้มันส์จริงครับ ทั้งเดือดทั้งหนักแน่น จนอดคาดหวังไม่ได้ว่าหลังจากนั้นน่าจะมีอะไรเดือดๆ ตามมา ยิ่งหนังมีการพูดโหมโรงประมาณว่า “เดี๋ยววันรุ่งขึ้นพวกเขาก็จะต้องไปบุกช่วยเลโอ ซึ่งสุดท้ายแล้วพวกเขาอาจไม่รอดกลับมาก็ได้” – เล่นบิ้วซะขนาดนี้ มันเลยอดไม่ได้ที่จะคาดหวัง

และพอถึงสถานที่ที่พวกเขาต้องช่วยเลโอ หนังก็บิ้วครับว่าเดี๋ยวต้องเดือดแน่ บาสเตียงต้องเจอชุดใหญ่แน่นอน แล้วในขณะที่พวกผู้ร้ายมากันเยอะขึ้น เยอะขึ้น เยอะขึ้นจนผมคิดเลยไปถึง Kill Bill Vol. 1 หรือ The Raid: Redemption ฉากนั้นกลับมีการหักมุมครับ – กลายเป็นว่าไม่มีการตีใดๆ เกิดขึ้นเลย…

อารมณ์ผมเหมือนโดนเบรคหัวทิ่มครับ และไม่ใช่ทิ่มธรรมดานะ แต่มันทิ่มแบบทะลุกระจก แล้วกลิ้ง 7 ตลบครึ่งไปกองกับพื้นถนนน่ะครับ – แหม อุตส่าห์วาดภาพไว้ซะมันส์ (แล้วอย่าลืมครับว่าภาพตัวอย่างในหน้า Netflix มันก็ขึ้นภาพนั้นไว้) พอเจอแบบนี้ก็เลยหัวทิ่มกันไป 555

แล้วตอนท้ายก็มีฉากบู๊อีกหนึ่งรอบครับ อารมณ์ประมาณ Assault on Precinct 13 ซึ่งก็ถือว่าพอได้ แต่มันก็ยังไม่มันส์ถึงจะระดับที่อยากให้เป็น – สรุปตรงนี้ก่อนเลยว่า ผมผิดเองแหละครับ 555 ดันไปหวังซะขนาดนั้น

แต่ผมก็ไม่ผิดหวังนะ เพราะอย่างน้อยฉากบู๊ที่มีในหนังมันก็มันส์พอได้ ไม่ถึงกับเสียดายเวลาดู และอีกอย่างคือผมว่าส่วนอื่นๆ ของหนังมันใช้ได้ด้วยนะครับ ไม่ว่าจะการเล่าเรื่องที่ถือว่าเล่าได้ลื่น ชวนตามดูไปเรื่อยๆ หรือการแทรกประเด็นดราม่าหรือปมของตัวละครลงมาเป็นพักๆ ซึ่งก็ช่วยให้หนังเรื่องนี้ดูไม่โล่งโถงจนเกินไป ดูแล้วสัมผัสได้ว่าแต่ละตัวละครมีเลือดเนื้อ มีอารมณ์และความรู้สึก

ที่ชอบมากหน่อยคือปมระหว่างเลโอกับบาสเตียงครับ ตอนแรกเลโอโกรธและเกลียดบาสเตียงมาก แต่พอเวลาผ่านไป พอพวกเขาได้คุยกัน บรรยากาศก็ดีขึ้น ซึ่งหนังร้อยเรียงเล่าเรื่องส่วนตรงนี้ได้น่าพอใจ

สรุปว่าหนังใช้ได้ครับ ดูเพลินๆ ได้เรื่อยๆ ส่วนฉากแอ็คชั่นก็ถือว่าพอมันส์ แต่เพื่ออรรถรสนี่ขอแนะนำเลยนะครับว่าอย่าคาดหวังเยอะ พยายามลดเพดานความคาดหวังลงมา ยิ่งคนที่ดูเรื่องนี้เพราะภาพตัวอย่างใน Netflix นี่ต้องปรับลดด่วนครับ มันไม่ได้ระห่ำเดือดแรงจัดมากมาย – แต่อย่างน้อยก็ไม่ผิดหวังครับ มันก็ใช้ได้อยู่นั่นแหละ

สองดาวหน่อยๆ ครับ

(6/10)