ไห่เกาฟง (หยางฉีอิง, Yang Chi Ching) ตัดสินใจลาออกจากราชสำนักและเดินทางกลับบ้าน แล้วก็มีข่าวลือแพร่สะพัดว่าขบวนของใต้เท้าไห่มีสมบัติล้ำค่ามากมาย เมื่อเรื่องรู้ถึงหูผู้คนก็เลยมีโจรกลุ่มต่างๆ หมายจะมาดักปล้น
โจรร้ายแห่งยุทธจักรอย่างเจิ้งโซ่วซัน (กุ๊ฟง, Ku Feng) ก็ได้พาลูกศิษย์นามว่าจิงลู่ (Kong Ling) และสมุนคู่ใจอย่างจิงหู่ (Barry Chan) ตรงมายังโรงเตี๊ยมเกาเจียที่ซึ่งคาดหมายกันว่าใต้เท้าไห่จะต้องผ่านเส้นทางนี้ โดยระหว่างทางเจิ้งโซ่วซันก็ได้เจอกับ จาเสี่ยวอี่ (กังหัว, Tung Li) จอมยุทธมากฝีมือที่ขอมีเอี่ยวในการปล้นครั้งนี้ด้วย – แล้วเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร คำตอบมีอยู่ในหนังแล้วครับ
หนังเรื่องนี้อายุ 50 กว่าปีเข้าไปแล้ว หากดูเผินๆ จากสายตาของคนยุคนี้ก็อาจรู้สึกว่างานสร้างไม่ได้ดูยิ่งใหญ่ เทคนิคตัดต่อก็ไม่ได้พิเศษอะไร หรือตัวพล็อตเองก็ดูธรรมดาจนหลายคนอาจมองข้าม แต่ขอบอกเลยครับว่าหนังเรื่องนี้เข้าข่ายสนุกและชวนติดตามไม่ใช่น้อยเลยล่ะ
โอเคครับ งานสร้างหรือเทคนิคอาจดูธรรมดาหากเทียบกับโลกสมัยนี้ แต่สำหรับสมัยนั้นถือว่ามีฟอร์มพอตัว และพล็อตเรื่องที่ว่าธรรมดานั้น จริงๆ ผมก็ว่าธรรมดานะ แต่การเล่าเรื่องมันสนุก มันชวนให้อยากรู้ต่อว่าจะเกิดอะไรขึ้น และที่สำคัญคือคิวบู๊นี่จัดว่าเวิร์คเลยล่ะครับ ผมไม่เถียงว่าบางช่วงบางตอนมันอาจดูเป็นสเต็ปอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่ถือว่าบู๊กันลื่นไหล งัดวิชามาสู้กันอย่างมันส์ ยิ่งคู่หลังๆ นี่สู้กันแบบชวนให้ลุ้นว่าฝ่ายไหนจะปราชัย และจะปราชัยด้วยวิธีใด
ผมว่าข้อดีอย่างหนึ่งของหนังคือการเล่าเรื่องที่ตรงจุดครับ คือหนังไม่พยายามขยายขอบเขตเรื่องราวให้ใหญ่โต ไม่พยายามใส่ความซับซ้อนลงไป (คือบทน่ะมีความซับซ้อนบ้างครับ แต่ไม่ได้เยอะเกินจำเป็น) เหตุการณ์ดำเนินไปอย่างพอดีและชวนให้ติดตาม สลับกับคิวบู๊ที่มาเรื่อยๆ หนังเลยดูเพลินตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ
ดาราในเรื่องนอกจากที่กล่าวไปแล้วก็ยังมี ซือซือ (Shih Szu) รับบท จางไฉ่ผิง เจ้าของฉายาเสี่ยวจงขุย (จงขุยหญิง) รายนี้ตอนออกแรงบู๊ก็ดูลื่นไหลและบู๊ได้สะใจเอาเรื่องโดยเฉพาะตอนท้ายๆ, ซื่อเทียน (Shih Tien) มาเป็นหลวงจีนขอทานที่ขโมยซีนเป็นพักๆ, Li Hao มาเป็นจอมยุทธแขนเหล็กหลิวทง ที่หมายจะมาชิงทรัพย์กับเขาด้วย
และสำหรับผมแล้ว ความสนุกในการดูหนังเก่าๆ คือการได้เห็นหน้าค่าตาดาราที่อาจจะยังไม่ดังในตอนนั้น แต่มาตอนนี้กลายเป็นตำนานไปแล้ว ไม่ว่าจะ อู๋หม่า (Wu Ma) มาในบทหัวหน้า 5 ผีเซียงซี, หยวนหัว (Yuen Wah) เป็นหนึ่งใน 5 ผีเซียงซี (รายที่แลบลิ้นปลิ้นตาหลอกหลวงจีนขอทานน่ะครับ), หยางเจ๋อหลิน (Yeung Chak Lam) มาเป็นอีกหนึ่งโจรที่แวะเวียนมาหาทางปล้นคนมีเงินที่ผ่านมาในเขตนี้ และเฮียเฉินหลง (Jackie Chan) ก็มาโผล่ครับ เป็นหนึ่งในผู้ติดตามของใต้เท้าไห่ รายนี้ต้องจับตาดีๆ หน่อยเพราะพี่แกไม่เด่น พูดตรงๆ คือมาเพื่อเป็นตัวประกอบ มีไว้ช้งเช้งต่อสู้เป็นฉากหลังอะไรประมาณนั้น
ผมว่าส่วนหนึ่งที่หนังดูได้อย่างลื่นไหล นอกจากการเล่าเรื่องที่ตรงประเด็นไม่เฉออกนอกทางและคิวบู๊ที่แน่นๆ เน้นๆ แล้ว อีกอย่างที่เสริมความสนุกคือลูกเล่นครับ ไม่ว่าจะลูกเล่นระหว่างฉากต่อสู้ที่แต่ละคู่ไม่ได้สู้กันแบบทื่อๆ บางจังหวะบางตอนก็มีการออกลีลาแบบที่คาดไม่ถึง หรือไม่ก็มีกิมมิคแทรกลงมา อย่างมุก “แส้ซ่อนแส้” นี่ผมชอบมากครับ มันสะท้อนถึงตัวตนเจ้าของอาวุธชนิดนี้ได้อย่างดีจริงๆ
ในแง่การแสดงแต่ละคนก็ถือว่าลื่นครับ คนที่ผมชอบสุดก็หนีไม่พ้นกุ๊ฟงผู้ล่วงลับ รายนี้ถ้าเล่นบทร้ายเมื่อไหร่ก็ไว้ใจได้เสมอครับ ทั้งสีหน้าท่าทางช่างดูเหลี่ยมจัดอย่างแท้จริง ว่ากันจริงๆ คือเด่นกว่าพระเอกนางเอกซะอีก – ซึ่งเรื่องนี้ตัวละครพระเอกนางเอกจะบทไม่เยอะครับ ส่วนใหญ่จะเทน้ำหนักไปเทเหล่าโจรน้อยใหญ่ที่บุกมาปล้นชิงมากกว่า
สรุปเลยครับว่าหนังจีนกำลังภายในเรื่องนี้ดูง่าย ดูสนุก ดูเพลิน มีชั้นเชิงทั้งในเรื่องการเล่าและฉากต่อสู้ต่างๆ คอหนังแนวนี้ไม่ควรพลาดครับ
และชื่อตอนลงแผ่นก็คือ นางพญาตะลุยนรก ครับ
สองดาวครึ่งบวกๆ ครับ
(7.5/10)












