ได้ยินกิตติศัพท์ร่ำลือมานานสำหรับภาคต่อของ Escape Plan น่ะนะครับ แต่ยังไงก็ต้องดูตามหน้าที่ ครั้นดูแล้วก็พอเข้าใจว่าทำไมหลายคนบ่น เพราะผมเองก็ยังอดบ่นไม่ได้เลย 555

จริงๆ ผมว่าองค์ประกอบหลายอย่างของหนังไม่ได้แย่นะ เริ่มจากโครงเรื่องนี่ผมว่าก็ไม่เลว มันดูมีอะไรในตัวอยู่เหมือนกัน แล้วก็มีการหักมุม มีจุดพลิกผันถือว่าใช้ได้อยู่ ซึ่งบทนี้ก็เขียนโดย Miles Chapman ที่เขียนบทภาคแรกด้วยนั่นเอง

แต่ทีนี้ผมว่ามันมาพลาดต้องการเล่าเรื่องที่ไม่ค่อยชวนติดตาม บางช่วงก็เรื่อยๆ บางช่วงก็เร็วๆ แบบงงๆ และการลำดับอะไรต่างๆ มันก็ยังไม่ค่อยกลมกล่อม เหมือนโฟกัสมันสะเปะสะปะและไม่สามารถรวมศูนย์เรื่องราวให้เกิดพลังขึ้นมาได้ ซึ่งอันนี้ก็ไม่แน่ใจว่ามันพลาดที่ตรงบทที่ยังไม่ลงตัว หรือเป็นที่ตัวผู้กำกับอย่าง Steven C. Miller กันแน่

แต่ทีแน่ๆ คือ Miller โดนไล่ออกจากตำแหน่งผู้กำกับระหว่างทาง ส่วนใครเป็นคนมาตัดต่อหนังในฉบับสุดท้ายนั้นก็ไม่มีการบอกแน่ชัด มีแต่คำบอกเล่าจากปากของ Sylvester Stallone ที่บอกว่ากระบวนการทำหนังภาคนี้จัดว่าเลวร้ายมาก จนเขารู้สึกว่าตนเองโชคร้ายเหลือเกินที่ดันมามีส่วนร่วมกับหนังเรื่องนี้

แต่จริงๆ นะครับ ผมว่าโครงเรื่องน่ะไม่แย่ และดาราก็ไม่แย่เหมือนกัน เพียงแต่หลายคนอาจผิดหวังที่ตัวนำของเรื่องกลายเป็น หวงเสี่ยวหมิง (Huang Xiao Ming) แทนที่จะเป็นพี่สไล (ซึ่งว่ากันว่าพี่สไลก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกันที่ชื่อพี่แกนำหน้า แต่ดันมีบทน้อยมากๆ) แต่อาจจะเป็นเพราะผมคุ้นเคยกับพี่หวงน่ะครับ เลยไม่รู้สึกแย่อะไร อีกอย่างคือพี่แกก็เล่นได้โอเคด้วย ไม่ว่าจะบทตอนแสดงอารมณ์หรือตอนออกบู๊พี่เขาก็โอเคอยู่

หรือดาราที่มาสมทบอย่าง Jesse Metcalfe หรือ Wes Chatham ผมว่าพวกเขาก็โอเคนะ ส่วน Dave Bautista สมัยนั้นก็อาจจะยังแข็งๆ อยู่บ้าง แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะบทแกก็ไม่เยอะ ส่วน Jaime King (Bulletproof Monk) ก็บทน้อยพอกัน แต่ในแง่การแสดงแต่ละคนก็ถือว่าพอได้ ไม่ถึงกับแย่

สรุปคือการเล่าเรื่องและเรียบเรียงที่ไม่ชวนติดตามนี่แหละครับที่ดร็อปความน่าสนใจของหนังลง ก็น่าเสียดายอยู่ ถ้าให้พูดแบบตรงๆ เลยก็คือ พลาดไปก็ไม่น่าเสียดายครับเรื่องนี้ แต่ถามว่าเสียดายไหม? ก็ตอบได้ว่าเสียดายครับที่จริงๆ หนังน่าจะออกมาโอเคกว่านี้ เพราะบทและโครงสร้างมันก็ได้อยู่ แต่ดันออกมาแบบนี้ ก็ได้แต่เสียดายครับ

ดาวกว่าๆ ครับ

(4.5/10)