มาอีกหนึ่งแล้วครับ สำหรับเรื่องราวลำดับที่ 7 ของหนังชุดนี้ ซึ่งก็แบ่งเป็น 6 เรื่องสั้นครับ โดยมีตอนหลักที่จะเล่าคั่นแต่ละตอน บวกกับอีก 5 ตอนสั้น ซึ่งก็มีดังนี้
ตอนที่ 1 Stork
เกิดเหตุการณ์ลักพาตัวเด็กทารกไปเป็นจำนวนมาก จนตำรวจหน่วย W.A.R.D.E.N. ตัดสินใจบุกบ้านหลังหนึ่งด้วยความหวังว่าจะหยุดยั้งการลักพานี้ แล้วที่นั่นพวกเขาก็ได้พบกับศพเดินได้คล้ายซอมบี้เดินกันให้ควั่กครับ พวกเขาก็เลยต้องหาทางสู้… แต่ที่นั่นไม่ได้มีแค่ซอมบี้หรอกครับ…
ตอนที่ 2 Dream Girl
ปาปารัซซี่ 2 หนุ่มในมุมไบกำลังตามติดชีวิตของทาร่า ดาราสาวที่กำลังโด่งดังในบอลลีวู้ด แล้วหนึ่งในนั้นก็แอบย่องเข้าไปในรถเทรลเลอร์ของเธอ ก่อนจะซ่อนตัวในตู้ แล้วเขาก็ได้เห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นเข้าจนได้…
ตอนที่ 3 Live and Let Dive
วัยรุถ่นกลุ่มใหญ่กำลังเริงรื่นกับงานฉลองวันเกิดอายุ 30 ปีของแซค (Bobby Slaski) โดยพวกเขาอยู่บนเครื่องบินครับ แล้วก็กำลังจะกระโดดร่มลงมาเพื่อความบันเทิง แต่ระหว่างนั้นดันมีเหตุเอเลี่ยนบุกโลกขึ้นมา พวกเขาทั้งหมดเลยต้องพากันหาทางรอดแทน…
ตอนที่ 4 Fur Babies
กลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสัตว์กำลังสืบสวนเรื่องของเบ็คกี้ (Libby Letlow) เจ้าของศูนย์รับดูแลสัตว์เลี้ยงที่มีบางอย่างไม่ชอบมาพากล สจ๊วต (Matthew Layton) กับแองเจล่า (Braedyn Bruner) เลยถูกส่งเข้าไปเพื่อตรวจสอบ… แล้วเรื่องสยองก็เริ่มต้นตรงนั้น
ตอนที่ 5 Stowaway
ฮอลลี่ย์ (Alanah Pearce) ตัดสินใจทิ้งครอบครัวไว้เบื้องหลัง แล้วก็เดินทางมายังทะเลทรายโมฮาวีเพื่อสืบหาร่องรอยของมนุษย์ต่างดาวที่ว่ากันว่าชอบมาปรากฏตัวที่นี่… แล้วในค่ำคืนหนึ่ง เธอก็ได้เจอสิ่งที่ตามหาแบบเต็มๆ ครับ
ส่วนอีก 1 ตอนที่ฉายคั่นตอนอื่นๆ ก็คือตอน Abduction/Adduction ซึ่งจะออกแนวสารคดีว่าด้วยการวิเคราะห์พิสูจน์ว่าฟุตเตจที่พวกเขาพบนั้น มันคือของจริงหรือไม่ และภาพในวีดีโอนั้นก็ว่าด้วยเรื่องของ…
… การดูหนัง V/H/S ภาคนี้ของผมมันบังเกิดความรู้สึกบางอย่าง คล้ายๆ กับว่าบางสิ่งมันหายไป – คือถ้าถามว่าดูเพลินไหม จริงๆ ผมว่าก็ยังดูเพลินอยู่นะ ดูได้เรื่อยๆ ตามสไตล์หนังสยองรวมเรื่องสั้นนั่นแหละ แต่ระหว่างดูมันเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง ซึ่งมันก็ตะหงิดๆ ในใจจนผมถามตัวเองหลังดูจบอีกพักใหญ่ๆ เลยล่ะครับ ว่าอะไรที่มันหายไป อะไรที่ทำให้ผมยังรู้สึกเพลินแบบไม่สุดสักเท่าไร… แล้วในที่สุดก็นึกออกครับ เดาว่าน่าจะเป็นอันนี้แหละ…
สิ่งที่หายไปคือความรู้สึกเซอร์ไพรส์ครับ
โอเค จริงๆ ด้วยความที่ผมดูหนังสยอง ระทึก แล้วก็หักมุมมาเยอะ มันเลยพอจะเดาโน่นนี่นั่นได้ระหว่างการดู แต่คำว่า “เซอร์ไพรส์” ในความหมายตรงนี้ไม่ใช่อันนั้นครับ มันจะประมาณว่าปกติแล้วเวลาดูหนังสยองรวมเรื่องสั้นแบบนี้ ตัวอย่างเช่น V/H/S ภาคก่อนๆ ก็ได้ คือแม้ผมจะเดาทางเดาเรื่องได้แค่ไหนก็ตาม แต่ ณ โมเมนต์หนึ่งตอนที่ยังเดาไม่ได้นี่มันจะมีความรู้สึกสนใจใคร่รู้ มันจะแอบเดาในใจว่าตอนนี้จะว่าด้วยเรื่องแบบไหนน้า มันจะเป็นผีหรือเปล่า หรือจะเป็นเรื่องคนโรคจิต หรือจะเป็นสัตว์ประหลาด หรือจะแหวกไปเรื่องปีศาจนรกแตก คือมันจะสนุกตอนกำลังเดาน่ะครับว่าตอนนี้จะมาไม้ไหน ซึ่งบางทีมันก็เซอร์ไพรส์นะเวลาที่จุดหักมุมมันเป็นอะไรที่ไม่ได้คาดไว้เลยน่ะ
แต่กับภาคนี้ ที่เขามีการกำหนดธีมไว้ชัดเจนว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ “ไซไฟ” มันเลยเหมือนว่าแต่ละตอนถูกเฉลยไปแล้วครึ่งหนึ่งแล้วน่ะครับ เพราะพอบอกว่าไซไฟแล้ว มันตัดตัวเดาไปได้เยอะเลย เช่นว่า มันจะต้องไม่ใช่เรื่องผี, ไม่ใช่แม่มด, ไม่ใช่ปีศาจ, ไม่ใช่คนโรคจิต, ไม่ใช่นรกสวรรค์ ฯลฯ อารมณ์มันเหมือนเราได้ตัวช่วยโดยที่ไม่ได้อยากจะได้น่ะครับ ทำให้การเดามันง่ายขึ้น ความเซอร์ไพรส์แบบ “ตอนแรกคิดว่าผี แต่พอดูไปกลายเป็นอย่างอื่น” มันเลยหายไป – ที่บรรยายนี่คือความรู้สึกของผมน่ะนะครับ ท่านอื่นอาจไม่รู้สึกก็ได้ แต่พอดีผมรู้สึกเลยขอบันทึกแล้วก็เอามาแชร์กัน
ครับ ความเซอร์ไพรส์บางอย่างมันหายไป เลยลดทอนความอร่อยบางประการไปบ้าง แต่กระนั้นหนังก็ยังดูเพลินๆ ได้อยู่ครับ แต่ละตอนก็ทำออกมาได้สนุกในแบบของมัน ถ้าถามว่าชอบตอนไหนสุดนี่ ผมว่าคงเป็นตอนที่ 3 น่ะครับ ทางของเรื่องอาจเดาได้ไม่ยาก แต่เหตุการณ์มันวุ่นวายโกลาหล แล้วก็จัดเต็มจัดครบทั้งความระทึก ความสยอง ความแหวะ ความไซไฟ ถือเป็นตอนที่ใช้ได้ทีเดียว
ส่วนตอนที่ 2 ก็แหวะดีครับ สยองเอาเรื่อง ในขณะที่ตอนที่ 1 นี่ให้อารมณ์เหมือนเล่นเกมลุยซอมบี้อะไรเทือกนั้น ส่วนตอนที่ 4 ก็จัดว่าเดาได้ง่ายสุดแล้วล่ะ และตอนที่ 5 จริงๆ ตอนนี้ก็เดาได้ไม่ยาก แต่อย่างน้อยการนำเสนอและชะตากรรมที่ตัวละครต้องเจอมันก็ชวนให้หลอนและสยองอยู่ – ส่วนตอนหลักที่เชื่อมตอนอื่นๆ นั้นก็มาใช้ได้จริงๆ จังๆ เอาตอนช็อตก่อนจบนะครับ งานภาพและเหตุการณ์มันชวนหลอนแบบมืดๆ ดี
ส่วนตัวผมว่า V/H/S มันมีมาตรฐานในตัวเองอยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้วครับ อย่างน้อยก็จะดูเพลินๆ ดูเอามันส์ได้สำหรับแนวสยองเรื่องสั้นแบบนี้ ถ้ามีอีกผมก็พร้อมตามดูอีกครับ – สำหรับภาคนี้สรุปอีกทีก็คือสนุกใช้ได้ครับ ถ้าไม่นับเจ้าความเซอร์ไพรส์ที่ผมบอกว่าหายไปแล้วว่ากันที่ตัวหนังล้วนๆ ผมว่าเข้าท่าอยู่ครับ
สองดาวหน่อยๆ ครับ
(6/10)












