Action

Super Eruption (2011) ซูเปอร์ลาวา เดือดล้างโลก

ภูเขาไฟที่เยลโลว์สโตนกำลังจะปะทุครับ ชาร์ลี (Richard Burgi) เจ้าหน้าที่ที่ดูแลอยู่ที่นั่นจึงต้องรีบอพยพผู้คนโดยเร็ว ส่วนเคท (Juliet Aubrey) เพื่อนร่วมงานของชาร์ลีก็ต้องหาทางวางแผนหยุดยั้งการปะทุครั้งนี้ ส่วนเธอจะทำอย่างไรบ้างนั้นต้องไปดูในหนังครับ

ก็เป็นอีกหนึ่งหนังภัยพิบัติเกรดรองๆ สำหรับฉายทีวีน่ะนะครับ แน่นอนว่าก่อนดูผมก็ไม่คาดหวังอยู่แล้ว เพราะถ้าหนังออกมาเห่ยก็จะได้ดูเอาฮา แต่หากออกมาแล้วมีอะไรมากกว่าที่คิดก็จะได้มองหนังในเชิงบวก ซึ่งเรื่องนี้ก็ถือว่าไม่เลวครับ หมายถึงว่าไม่เลวสำหรับหนังเกรดนี้น่ะนะครับ คือดูได้ เพลินดี โดยหนังเหมือนจะแยกออกเป็นสองส่วนครับ ส่วนแรกก็คือฉายให้เห็นภาพภัยพิบัติ ตัวเอกของเราก็ต้องหาทางช่วยคน ซึ่งงานภาพงาน CG มันก็ดูตลๆ อยู่บ้าง แต่ถ้ามองกันที่ตัวสถานการณ์ก็ถือว่าไม่แย่นะ คือมันไม่ได้ดูแล้วตลกเกินไป ว่าง่ายๆ คือดูแล้วพอจะมีลุ้น พอจะมีความตื่นเต้นบ้างในบางฉาก

แต่ฉากที่ดูแล้วชวนให้ขำมันก็มีบ้างล่ะครับ โดยเฉพาะฉากที่ตัวละครต้องมาตาย ด้วยความที่เทคนิคมันไม่เลิศ บางทีมันเลยดูขำเพราะความไม่สมจริง อย่างคนโดนน้ำพุร้อนพุ่งใส่จนกระเด็นยังเงี้ย คือมันดูเหมือนหนังการ์ตูนน่ะครับ พอน้ำพุ่งปุ๊บ ภาพตัวละครกระเด็นมันไม่เนียนอย่างแรง จนถ้ามีเสียง “ปิ้วววววว” ดังขึ้นนี่ผมคงปล่อยก๊ากเลยล่ะ เพราะมันทำให้นึกถึงการ์ตูนจริงๆ (พวกบั๊กส์ บันนี่หรือโร้ด รันเนอร์อะไรเทือกนั้นน่ะครับ)

อีกส่วนหนึ่งก็จะเป็นฉากที่เคทพยายามแก้ปัญหา ซึ่งมันจะมีรายละเอียดอยู่ครับ หากผมเล่ามันก็คือสปอยล์ เอาเป็นว่าส่วนตรงเนี้ยก็แอบเกินคาดอยู่เหมือนกัน คือไม่นึกว่าจะเจออะไรแบบนี้ในหนังภัยพิบัติเกรดบี ซึ่งอันนี้มันก็มีผลทำให้ผมมองในเรื่องนี้ในเชิงบวกอยู่ เพราะมันแอบสร้างสรรค์ครับ

โดยรวมแล้วผมเลยดูหนังเรื่องนี้แบบเรื่อยๆ คือไม่ได้ชอบ ไม่ได้ปลื้มอะไร แต่ก็ดูได้เพลินๆ ฉากไหนที่ไม่เนียนก็ดูเอาขำๆ – เอางี้เดี๋ยวผมสปอยล์หน่อยแล้วกันครับ เผื่อมันจะทำให้บางท่านสนใจจะดูหนังเรื่องนี้

==== สปอยล์นะครับ ====

คือกลายเป็นว่าหนังเรื่องนี้ออกแนวไซไฟเต็มขั้นครับ นอกจากจะไซไฟด้วยเรื่องภัยพิบัติแล้ว มันยังมีอีกหนึ่งไซไฟ นั่นคือเรื่องการข้ามเวลา ประมาณว่าเคทจากอนาคตได้ส่งคลื่นติดต่อมายังเคทในยุคปัจจุบันเพื่อช่วยในการยับยั้งภัยที่เยลโลว์สโตนแห่งนี้ – นี่แหละครับที่ผมเซอร์ไพรส์ ก็ใครจะไปนึกล่ะครับว่าหนังภัยพิบัติเกรดรองแบบนี้จะแอบสร้างสรรค์กับเขาด้วย

หนังมันเลยดูมีอะไรน่ะครับ ฉากหนีภัยพิบัติก็หนีกันไป ฉากแก้ปัญหาหยุดภูเขาไฟระเบิดก็แก้กันไป มันเลยดูไม่เลื่อนเปื้อนเรื่อยเปื่อยแบบหนังแนวนี้เรื่องอื่นๆ ที่มักจะใส่ฉากโน้นฉากนี้ (ที่ CG ไม่เนียน) ลงมาให้ครบเวลา แต่กับเรื่องนี้ โอเคครับ CG มันก็ยังไม่เนียนอยู่นั่นแหละ แต่มันมีพล็อต มีเนื้อเรื่องให้ตาม มันเลยดูโอเคกว่าหนังแนวนี้เกรดนี้ทั่วๆ ไป

===== หมดสปอยล์ครับ =====

ก็แล้วแต่ล่ะนะครับ ถ้าท่านเข็ดขยาดกับหนังภัยพิบัติเกรดรองๆ ก็ข้ามเรื่องนี้ไปได้เลย แต่หากท่านพอจะโอเคกับหนังเกรดนี้ (แบบผม) หรือชอบที่จะดูเอาฮา (แบบผม) ก็ลองดูได้ครับ ผมว่ามันก็พอเพลินนะ – แต่ถ้าอยากดูหนังภูเขาไฟที่มันส์จริงอะไรจริง ต้องจัด Dante’s Peak และ Volcano ครับ

ดาวครึ่งครับ

(5/10)