นี่คือสารคดีที่คนรักพี่สไล หรือ Sylvester Stallone ควรได้ชมครับ หรือใครก็ตามที่อยากรู้จักดาราขาบู๊ระดับตำนานคนนี้ให้มากขึ้น นี่ก็เป็นสารคดีที่ตอบโจทย์ได้โอเคเลย
ออกตัวว่าติดตามพี่เขามานานครับ ดังนั้นรายละเอียดที่สารคดีนำเสนอส่วนใหญ่ผมก็จะพอรู้มาบ้างแล้ว แต่การได้รู้ซ้ำก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกเบื่อแต่อย่างใด ไม่รู้นะครับ สำหรับผมมันทำให้ผมรู้จักเขามากขึ้น บางอันก็ทำให้สัมผัสถึงห้วงอารมณ์บางอย่างที่เขามีต่อเรื่องนั้นๆ ซึ่งบางครั้งการอ่านเกร็ดอ่านประวัติของเขาจากตัวหนังสือมันก็จะไม่ได้เห็นห้วงอารมณ์เหล่านี้ แต่กับในสารคดีนี่เราจะได้เห็นมันสื่อออกมาทางแววตาและท่าทาง โดยเฉพาะเรื่องพ่อและเรื่องลูกชายของเขา บางซีนนี่เขาแทบไม่ต้องพูดอะไรครับ แค่เห็นห้วงอารมณ์บนใบหน้ามันก็สื่ออะไรได้หลายร้อยคำแล้วล่ะ
สารคดีก็จะเล่าถึงเรื่องราวของเขาตั้งแต่เด็ก เรื่องในครอบครัวที่อาจไม่สวยงามนัก แล้วก็เรื่องระหองระแหงที่เขามีกับพ่อบังเกิดเกล้า จากนั้นเราก็จะได้รู้ถึงก้าวย่างบนเส้นทางบันเทิง ได้เห็นว่าก่อนที่เขาจะมาเกิดเต็มๆ กับหนัง Rocky นั้นเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง และกว่าที่เขาจะได้แสดงเป็นร็อคกี้นั้นเขาก็ต้องเจออะไรมาเยอะเหมือนกัน – เพราะสตูดิโอชอบบท Rocky แต่เห็นว่าพี่สไลแกไม่ดัง เลยอยากได้ดาราดังๆ มาแสดงมากกว่า แต่ที่สไลก็ยืนกรานจนถึงขั้นปฏิเสธเงินแสนที่สตูดิโอเสนอให้เพื่อให้เขาเปิดทางให้ดาราคนอื่นมาเล่น แต่เขาก็ยังยืนกรานว่าถ้าจะเอาบทนี้ไปสร้างเป็นหนัง ก็ต้องมีเขาเท่านั้นที่จะเล่นเป็นร็อคกี้
ในแง่รายละเอียดก็ถือว่าหนังเล่าได้ค่อนข้างครอบคลุมครับ ทำให้เราเห็นว่าพอเขาประสบความสำเร็จกับ Rocky แล้ว ชีวิตเขาเป็นอย่างไรต่อ ผลงานชิ้นต่อมาเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งก็มีเรื่องล้มลุกคลุกคลานตามประสา หรือหนังแต่ละเรื่องที่เขาทำออกมานั้น บางครั้งมันก็สะท้อนอะไรในใจเขาที่กำลังคิดกำลังรู้สึกอยู่ในขณะนั้น เช่น ใน Rocky III ตอนที่ร็อคกี้พูดกับเอเดรียนที่ชายหาดว่าเขารู้สึกกลัวนั้น จริงๆ พี่สไลก็นำเอาสิ่งที่เขารู้สึกจริงๆ ใส่ลงไปในหนัง อันนี้เราจะได้เห็นหลายช่วงเลยครับ ว่าหนังบางฉากบางตอนนั้นก็มีแรงบันดาลใจมาจากความรู้สึกนึกคิดของเขาเองนั่นแหละ
ผมชอบตอนที่เขาบรรยายถึงฉากใน Rocky ภาคแรก ตอนที่ตาเฒ่ามิคกี้บากหน้าเดินมาหาร็อคกี้ถึงห้องเพื่อเสนอตัวจะเป็นโค้ชให้ แต่เนื่องจากร็อคกี้รู้สึกน้อยใจที่ก่อนหน้านี้มิคกี้ไม่เคยสนใจเขาเลย ไม่เคยจะแยแสเขาสักนิด แต่พอตอนนี้เขาได้รับโอกาสในการชกกับนักมวยดังอย่างอพอลโล ทีแบบนี้ล่ะมิคกี้ก็เดินมาหาเชียว ฉากนี้ร็อคกี้จะต้องมีการระบายอารมณ์ฟาดงวงฟาดงาว่าเขารู้สึกน้อยใจแค่ไหน แต่พี่สไลแกก็คิดครับ ว่าถ้าจะให้เหมาะ ร็อคกี้จะต้องฟาดงวงฟาดงากับประตู กับกำแพง ประมาณว่าระบายอารมณ์ออกมาด้วยเสียงอันดัง แต่จะไม่ใช่ไปฟาดใส่มิคกี้โดยตรงแบบต่อหน้า เพราะถ้าทำแบบนั้นก็จะเท่ากับไม่ให้เกียรติมิคกี้ พี่สไลไม่ให้อยากให้ภาพร็อคกี้ออกมาแบบนั้น – เนี่ยครับ ใส่ใจรายละเอียดถึงขนาดนี้เลย
ในสารคดีมีอะไรแบบนี้อยู่เยอะครับ ผมเลยดูด้วยความสนุกเพราะหนังแต่ละเรื่องของพี่เขาผมดูมาเกือบหมดแล้ว มันจึงอ๋อเป็นฉากๆ และทำให้เราเข้าถึงหนังมากขึ้น รวมถึงเข้าถึงพี่สไลเขาด้วย ผมจึงค่อนข้างชอบสารคดีนี้ครับ มันไม่ใช่แค่สารคดีที่บอกเล่าเรื่องราวของชีวิตคน และมันไม่ใช่แค่สารคดีที่เล่าถึงเบื้องหลังการสร้างหนัง แต่มันมีพลังบวกอยู่ในนั้น มันมีแรงบันดาลใจอยู่ระหว่างทาง และนั่นล่ะครับคือของดีของสารคดีนี้
แต่ก็ต้องบอกแบบกลางๆ ครับ ว่าแม้รายละเอียดจะค่อนข้างดี แต่การร้อยเรียงบางทีก็ยังไม่ลื่นนัก มีบ้างบางจังหวะที่เรื่องถูกเล่าแบบโดดไปโดดมา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคนทำเขาตั้งใจไหมน่ะนะครับ แต่สำหรับผมคือมันทำให้สะดุดหน่อยๆ แต่ก็ไม่มากครับ แต่พอรู้สึกน่ะ แต่ก็ไม่ลดทอนความชอบของผมลงหรอก
สรุปว่าถ้าท่านชื่นชอบพี่สไล นี่คือสารคดีที่ต้องจัดครับ แล้วสำหรับผมสารคดีชิ้นนี้ยิ่งมีความหมายมากขึ้นไปอีกเพราะผมดูแบบพากย์ไทย และคนที่ให้เสียงไทยของพี่จักรกฤษณ์ หาญวิชัย เสียงพระเอกตลอดกาลในใจผม แล้วในสารคดีนี้เราจะได้เห็นพี่บึ้ก Arnold Schwarzenegger มาให้สัมภาษณ์ด้วย แล้วพี่จักรกฤษณ์ก็ให้เสียงเช่นกัน สำหรับผมนี่มันเป็นอะไรที่ฟินในฟินเลยครับ คือมันใช่น่ะ การที่สองคนนี้โผล่มาแล้วได้เสียงพี่จักรกฤษณ์ทั้งคู่นี่มันคือ A Must เลย มันถูกต้องสุดๆ แล้วล่ะ
อาจไม่ใช่สารคดีที่สมบูรณ์แบบ แต่ถ้าท่านชอบพี่สไล ผมว่าสารคดีนี้มีดีมากพอที่จะลองรับชมสักครั้งครับ
สองดาวครึ่งครับ
(7/10)
หมวดหมู่:Biography, Documentary, Movie Reviews, Recommended Movies












