เรือตรีหม่ายู่หลง (เฉินหลง, Jackie Chan) หลังเสร็จศึกถล่มโจรสลัดแล้ว ก็ได้รับภารกิจใหม่ให้ย้ายไปประจำเขตซีหวนเพื่อปราบจอมอิทธิพลอย่าง โอซันหู่ (เฉินฮุ่ยหมิ่น, Michael Wai-Man Chan) แล้วก็มีพล็อตรองอีกหลายอันครับไม่ว่าจะเหล่าโจรสลัดที่ยังหลงเหลือก็เดินทางมากะจะเล่นงานยู่หลง ไหนจะภายในกรมตำรวจก็ดูจะมีตำรวจที่โกงกิน แล้วยังมีนักปฏิวัติมายังเขตนี้ด้วยจุดประสงค์บางอย่าง เรียกว่างานนี้ยู่หลงเจอเรื่องรุมล้อมไม่น้อยเลยจริง

ภาคนี้หงจินเป่ากับหยวนเปียวไม่ได้มาแสดงด้วยครับ เพราะทั้งสองกำลังถ่ายทำหนังเรื่อง ดิบ (Eastern Condors) อยู่ จุดนี้ก็ยอมรับเลยครับว่าหนังก็ดูดร็อปลงไปเหมือนกันพอขาด 2 คนนี้ไป

ว่ากันโดยรวมๆ แล้วผมออกจะชอบภาคแรกมากกว่าด้วย 2 เหตุผล ข้อแรกคือ 3 พี่น้องมาแสดงร่วมกันมันเลยไหลลื่นทั้งในเรื่องคิวบู๊และบทสนทนา (โดยเฉพาะเฮียหงที่บทพูดส่วนใหญ่จะเฉียบๆ ทั้งนั้น) ส่วนข้อ 2 คือเนื้อเรื่องภาคแรกมันดูกลมกล่อม สัดส่วนระหว่างการเดินเรื่องกับคิวบู๊มันกำลังพอดี ในขณะที่ภาคนี้พล็อตมีหลายเส้น เรื่องมันเลยยังไม่กลมกล่อมเข้ากันนัก บางฉากดูแล้วก็เหมือนใส่ลงมาเพื่อยืดเวลาออกไปให้ครบๆ และคิวบู๊ก็ถือว่ามีปริมาณน้อยลงกว่าภาคแรก

แต่ยอมรับครับว่าภาคนี้ดารามากันเยอะ เริ่มกันที่ดาราจากภาคแรกก่อน ไท่โป (Tai-Bo) กลับมาเป็นลูกน้องยู่หลงเหมือนเดิม, กวนไห่ซัน (Kwan Hoi-San) กลับมารับบทผู้การฉี ที่หนนี้ดูจะกลมเกลียวกับยู่หลงมากกว่าคราวก่อน

ส่วนหน้าใหม่นี่มากันเยอะครับ ไม่ว่าจะ เหอเจียจิ้ง (Kenny Ho) มาเป็นตำรวจตงฉินคนเดียวในเขตซีหวนที่ไม่กินตามน้ำ ตอนแรกผมก็นึกว่าพี่แกจะมาประกบเฮียเฉินนะ แต่กลายเป็นว่าประกบแค่ช่วงแรกๆ พอถึงครึ่งหลังบทก็หายไปแล้ว, Wong Sun มาเป็นตำรวจอาวุโสในเขตซีหวน, ตงเปียว (Bill Tung) เป็นผู้บัญชาการตำรวจ, David Lam มาเป็นสารวัตรเจิ้นซันหวน นายตำรวจที่ดูมีแววในการโกงกิน และ หลอฮุยกวง (Lo Wai-Kwong) ก็มาเป็นลูกน้องของสารวัตรเจิ้น คอยช่วยลูกพี่ทำเรื่องร้ายๆ

จางม่านอวี้ (Maggie Cheung) มาเป็นซานซานเพื่อนของชิวหลิง ส่วนชิวหลิงก็แสดงโดย หลิวเจียหลิง (Carina Lau) รายนี้ก็มาเป็น สาวขายดอกไม้ที่เรี่ยไรเงินเพื่อการปฏิวัติ, กวนจื่อหลิน (Rosamund Kwan) กับ หลี่เหลียงเหว่ย (Ray Lui) มาเป็น 2 นักปฏิวัติที่มายังเขตซีหวนเพื่อปฏิบัติภารกิจ และ เข็นเหว่ยหลิง (Regina Kent) ดาราสาวผู้ล่วงลับมารับบทเป็น เรจิน่า ลูกสาวท่านผู้ว่า (Bozidar Smiljanic)

ฟ่านเหมยเซิง (Fan Mei Sheng) มาเป็นหนึ่งในลูกน้องของโอซันหู่, หวังหลงเหว่ย (Wang Lung-Wei) ก็มาเป็นลูกน้องของโอซันหู่ คนที่ร่วมฉะกับยู่หลงพร้อมกับโอซันหู่ (ที่ยู่หลงท้าว่าถ้าพวกคุณหนีไปได้ต่อหน้าต่อตาผม ผมจะปล่อยคุณ), ริคกี้ ฮุย (Ricky Hui) เป็นตำรวจหน้าห้องที่วางก้ามใส่พวกยู่หลง, หลิวเส้าหมิง (Lau Siu-Ming) เป็นท่านอ๋องที่มาเพื่อไล่จัดการพวกปฏิวัติ และ จูเถี่ยเหอ (Chu Tiet Wo) กับ หลี่ไห่เซิง (Lee Hoi-Sang) มาเป็นองครักษ์ราชวงศ์แมนจูที่คอยทำงานให้ท่านอ๋อง

เนี่ยครับ ดารามากันอย่างเยอะ ในแง่หนึ่งก็มีส่วนทำให้หนังน่าดูไปเรื่อยๆ เหมือนกัน ซึ่งจริงๆ ผมก็ว่าหนังยังสนุกอยู่ล่ะครับ เพียงแต่พล็อตที่มีหลายอันเรื่องมันเลยดูไปทางโน้นทีทางนี้ที โฟกัสมันไม่ชัดเท่าภาคแรก ส่วนคิวบู๊แม้จะน้อยลง แต่ก็ยังพอได้ครับเฮียเฉินยังโชว์ของให้เราเห็นในระดับที่น่าพอใจอยู่ เพียงแต่ถ้าเทียบกับภาคแรกแล้ว ภาคแรกจะถึงรสกว่าครับ

แล้วก็เหมือนเคยครับ หนังเฮียเฉินมักมีประเด็นสอดแทรกผ่านคำพูดที่ดูคล้ายจะเป็นการพูดกับคนดูตรงๆ อย่างฉากที่ยู่หลงมีโอกาสได้คุยกับ 2 นักปฏิวัติเพื่อชาติจีนนั้นเป็นต้น สรุปใจความเลยก็คือ 2 นักปฏิวัติชวนให้ยู่หลงมาร่วมงานกัน แต่ยู่หลงปฏิเสธ เหตุผลก็คือเขาไม่ใช่คนที่มีอุดมการณ์ยิ่งใหญ่อะไร และจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าหลังจากปฏิวัติเเสร็จแล้ว ประชาชนจะได้ประโยชน์จริงๆ หรือไม่ แต่การที่ในตอนนี้เขาเป็นตำรวจนั้น เขารู้ว่า ณ ที่นี่และเดี๋ยวนี้เขากำลังทำอะไรอยู่ และสิ่งที่ประชาชนจะได้จากเขาในตอนนี้เลย ก็คือความสงบสุขจากการทำงานแบบทุ่มเทของเขา

“ประเทศจีนมีคน 400 ล้านคน และทุกคนต่างก็มีหน้าที่ซึ่งกันและกัน ถ้าผมยังทำหน้าที่ตัวเองให้ดีไม่ได้ แล้วยังจะมีหน้าบอกว่าผมมีความรับผิดชอบต่อบ้านเมืองได้ยังไงกัน?”

สรุปว่านี่ก็ยังเป็นหนังของเฮียเฉินที่น่าดูครับ ขอเพียงทำใจล่วงหน้า อย่าคาดหวังจนเกินไป ผมว่าท่านก็ยังน่าจะเพลิดเพลินกับหนังได้สบายๆ

สองดาวครึ่ง ยังได้อยู่ครับ

(7/10)