Comedy

When Harry Met Sally… (1989) เพื่อนรักเพื่อน

หนังรอมคอมในตำนานที่ดูสนุกและเพลินมากๆ ครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใครเคยมีประสบการณ์เรื่องความรักมาแล้วนี่ก็น่าจะฮาไปกับหนังได้ไม่น้อยเลยล่ะ

หนังไม่ได้เดินเรื่องแบบหญิงจีบชายหรือชายจีบหญิงแบบหนังรักทั่วๆ ไปครับ แต่บอกเล่าให้เรารู้จัก 2 ตัวเอก แฮร์รี่ เบิร์นส์ (Billy Crystal) และแซลลี่ อัลไบรท์ (Meg Ryan) ที่มีโอกาสได้รู้จักกันหลังทั้งคู่เรียนจบ แต่ทั้งคู่ก็ดูจะๆไม่ค่อยถูกกันนัก แล้วหลังจากนั้นทั้งคู่ก็ต่างคนต่างไป จนหลายปีต่อมาก็ได้กลับมาเจอกันอีกหน แล้วก็ห่างกันไปอีก แล้วก็ได้กลับมาเจอกันอีก เรียกว่าชีวิตพวกเขานี่มีเหตุให้ได้มาเจอกันเป็นพักๆ จนไปๆ มาๆ ทั้งสองก็เป็นเพื่อนสนิทกัน ไปไหนไปกัน พบปะพูดคุยกันบ่อยๆ

แล้วพอถึงจุดหนึ่งพวกเขาก็เริ่มรู้สึกบางอย่างต่อกัน… ที่เหลือก็ไปชมกันต่อนะครับ หรือจริงๆ ผมไม่ต้องเล่าท่านก็น่าจะพอเดาได้ล่ะนะครับ 555

ผมดูหนังเรื่องนี้อย่างเพลินครับ เคยดูรอบแรกเมื่อหลายสิบปีก่อน ครั้นพอมาดูซ้ำนี่ผมว่าผมชอบหนักกว่าเก่าอีกนะ ส่วนหนึ่งก็อาจเพราะตอนนี้ผมก็วัยกลางคนแล้ว ผ่านชีวิตมาพอประมาณเลยเก็ทกับสารพัดสิ่งที่แฮร์รี่และแซลลี่คุยกัน อันนี้ต้องบอกก่อนว่าหนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยบทสนทนาครับ ไม่ได้มีฉากหวานๆ กุ๊กกิ๊กๆ อะไร หลักๆ ที่เราจะได้เห็นคือการสนทนากันระหว่างพวกเขา แต่ความสนุกมันอยู่ตรงนี้ล่ะครับ เพราะสิ่งที่พวกเขาคุยกันมันทั้งฮา ทั้งสะท้อนค่านิยมด้านความรักของคน รวมถึงสะท้อนความคิดและตัวตนของพวกเขาอีกด้วย

เรียกได้ว่าระหว่างดูนี่เราจะได้ทั้งความฮา ความเพลิน ได้แง่คิดจากสิ่งที่พวกเขาคุยกัน และได้รู้สึกผูกพันกับพวกเขาทั้งสองไปทีละนิดๆ – ซึ่งผมบอกเลยครับว่าหนังที่ทำได้เบอร์นี้ไม่ได้มีมาบ่อยๆ

สำหรับผม การดูหนังเรื่องนี้เหมือนได้ฟังเพื่อนคุยกันน่ะครับ และแม้เราจะไม่ได้ร่วมวงคุยกับเขาด้วย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเหมือนได้เป็นเพื่อนกับพวกเขาไปโดยปริยาย

แน่นอนว่าของดีแบบสุดๆ คือการแสดงแบบโคตรลื่นของ Crystal และ Ryan พวกเขาดูเป็นธรรมชาติสุดๆ จนถ้าคุณรู้สึกเสมือนหนึ่งว่าตัวละครที่เราเห็นมีตัวตนจริงๆ นี่ก็ไม่แปลกล่ะครับ เพราะผมก็รู้สึกแบบนั้น ส่วนดาราสมทบอย่าง Carrie Fisher และ Bruno Kirby ก็เป็นส่วนเสริมที่ดีครับ มีส่วนช่วยเพิ่มความน่าดูให้กับหนังเหมือนกัน

แต่คนที่ต้องปรบมือให้หนักๆ เลยคือ Nora Ephron ครับ เธอเขียนบทหนังเรื่องนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม บทสนทนามันดูคมคาย ชวนขำ และให้แง่คิด และว่ากันว่าคาแรคเตอร์แฮร์รี่นั้น จริงๆ ก็อิงมาจาก Rob Reiner ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ (โดยเฉพาะเรื่องส่วนที่เกี่ยวกับชีวิตหลังหย่านั่นก็อิงจากชีวิตจริงของเขา) ในขณะที่คาแรคเตอร์แซลลี่นั้นก็อิงจากตัว Ephron นั่นเอง

นอกจากนี้บางบทนั้น Crystal ก็มีส่วนช่วยเติมเข้าไปด้วย และฉากที่แซลลีแกล้งทำท่าถึงจุดสุดยอดนั้น จริงๆ ก็เป็นไอเดียของ Ryan เอง เรียกว่าเรื่องบทนี่ถือเป็นการแท็คทีมกันอย่างยอดเยี่ยมระหว่างผู้กำกับ, คนเขียนบท และนักแสดงนำเลยครับ

และเรื่องฮาๆ ที่อยากเล่าก็คือ ในหนังนั้นตัวแซลลี่จะมีพฤติกรรมที่ชอบสั่งอาหารแบบมีรายละเอียดใช่ไหมครับ ประมาณว่าอันนั้นต้องใส่ถ้วย อันนี้ต้องใส่แก้ว หรือเครื่องดื่มก็ต้องผสมอันนี้เท่านั้น อันนั้นเท่านี้ ซึ่งพฤติกรรมเนี้ยจริงๆ คือพฤติกรรมของ Ephron แล้วเธอก็ใส่มันลงไปในหนัง แล้วกลายเป็นว่าประมาณหนึ่งปีหลังจากที่หนังออกฉาย เธอก็มีโอกาสขึ้นเครื่องบิน แล้วก็สั่งเครื่องดื่มแบบที่มีรายละเอียดตามสไตล์ของเธอ

แล้วแอร์โฮสเตสก็เลยถามว่า “คุณดูหนังเรื่อง When Harry Met Sally มาหรือเปล่าคะ?” หารู้ไม่ว่า เธอนี่แหละคือต้นตำรับตัวแม่ของหนังเลย 555

หนังจัดว่ากลมกล่อมดูสนุก แน่นอนว่าก็ต้องชม Rob Reiner ที่กำกับหนังเรื่องนี้ได้อย่างลงตัว ดูแล้วลื่นไหลคล่องคอ ทุกอย่างพอดีพอเหมาะ ซึ่งช่วงนั้นนี่เขาทำหนังเรื่องไหนก็เข้าเป้าไปหมด แล้วที่สำคัญคือพี่เขาทำได้ทุกแนวเลยนะครับ จะแนวชีวิตก็ได้ (Stand By Me) จะแนวเทพนิยายแฟนตาซีก็ได้ (The Princess Bride) ครั้นมาแนวรอมคอมแบบเรื่องนี้ก็ดูสนุกอย่างยิ่ง แล้วถัดจากเรื่องนี้พี่เขาก็ไปต่อกับหนังสยองอย่าง Misery และหนังสืบสวนวงการทหารอย่าง A Few Good Men… แต่ละเรื่องนี่ของดีทั้งนั้นจริงๆ

และถึงแม้ว่าหนังจะไม่ได้เน้นความโรแมนติกแบบพิมพ์นิยม แต่บางฉากนี่ก็ถ่ายบรรยากาศออกมาอย่างสวยเลยนะครับ โดยเฉพาะสารพัดซีนที่มีภาพต้นไม้กำลังเปลี่ยนสีเป็นฉากหลัง ซึ่งคนกำกับภาพก็ไม่ใช่ใคร เขาคือ Barry Sonnenfeld ที่ไม่กี่ปีต่อมาก็จะดังไปกับหนังอย่าง The Addams Family, Get Shorty และ Men in Black ครับ

ไม่แปลกใจเลยครับที่หนังจะประสบความสำเร็จแบบสุดๆ ทำเงินไประดับ $93 ล้าน (จากทุนราวๆ $16 ล้าน) และติดอันดับหนังดีในหลายทำเนียบ ซึ่งผมก็ขอเป็นอีกแรงครับที่เชียร์ให้ท่านดูหนังเรื่องนี้ ถ้าชอบรอมคอมคือต้องดู ของเขาดีมากๆ จริงๆ

สามดาวเต็มครับ

(8/10)

ปล. หนังมีชื่อไทยหลายชื่อครับ ออกวีดีโอทีก็เปลี่ยนที นอกจาก “เพื่อนรักเพื่อน” แล้วก็ยังมี “รักเอย… พิลึกกึกกือ” ด้วยครับ