Action

ใหญ่สั่งมาเกิด 2 ตอน อินทรีทะเลทราย (1991) Armour of God II: Operation Condor

ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 จะสิ้นสุด ทหารนาซีได้นำทองคำ 240 ตันไปซ่อนไว้ที่กลางทะเลทรายในแอฟริกา ท่านบารอนเจ้าเก่า (Bozidar Smiljanic) เลยติดต่อให้แจ็คกี้ (เฉินหลง, Jackie Chan) เหยี่ยวเอเชียนักล่าสมบัติให้มาสืบความจริงของเรื่องทองคำนี้ โดยมีเพื่อนร่วมทางอย่าง เอด้า (เจิ้งอวี้หลิง, Carol Cheng) อาจารย์มหาวิทยาลัยผู้เชี่ยวชาญภูมิประเทศเขตทะเลทราย และเอลซ่า (Eva Cobo) หลานสาวของหนึ่งในทหารที่หายสาบสูญไปพร้อมกับทองคำ

ภาคนี้เฮียเฉินกำกับเองเช่นเคยครับ และในแง่ความสนุกนี่ผมว่ามากกว่าภาคแรกอีกนะ คือมันลื่นไหลลงตัวมากขึ้น ที่แน่ๆ เลยคือฉากแอ็คชั่นที่จัดหนักจัดเต็มมากกว่าเดิม มาครบทั้งฉากฟัดมันส์ฮาไตล์เฮียเฉิน ไหนจะฉากไล่ล่าถล่มเมือง และฉากไคลแม็กซ์ในตอนท้ายก็นับว่ายิ่งใหญ่อลังการพอดู จนไม่แปลกใจเลยครับที่หนังเรื่องนี้จะลงทุนไปกว่า 115 ล้านเหรียญฮ่องกง ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนังฮ่องกงที่ลงทุนสูงที่สุดในขณะนั้น

ในแง่ความเป็นหนังผจญภัยก็ได้ใจมากขึ้นครับ ได้กลิ่นอายความเป็นหนัง Indiana Jones มากขึ้นกว่าภาคแรก ตามด้วยอารมณ์ขันแบบเพียบๆ ฮาในระดับพอเหมาะไม่เลอะเทอะ หลายมุกก็ขยี้จนได้ที่ โดยเฉพาะเจ๊เอลซ่าที่แตะปืนทีไรเป็นได้เรื่องทุกที หรืออย่างฉากตอนท้ายที่ระเบิดเกิดหล่นและกลิ้งไปตามห้อง ทำเอาฝ่ายดีและฝ่ายร้ายที่กำลังตีกันอยู่เมื่อครู่พร้อมใจกันนิ่งและเกร็ง (เพราะไม่รู้ว่ามันจะระเบิดหรือเปล่า) ฉากนี้ถือว่าฮาแบบน่ารักกำลังดี

ในแง่ตัวละครก็ถือว่าลงตัวขึ้นเช่นกันครับ เพราะแต่ละคนมีคาแรคเตอร์ประจำ มีความเด่นและความฮาในแบบของตัวเอง เฮียเฉินนี่ลอยลำอยู่แล้วครับ ส่วน 2 สาวอย่างเจิ้งอวี้หลิงและ Cobo ก็ผลัดกันน่ารัก ผลัดกันสวย ผลัดกันแสบ ช่วยชูรสความสนุกให้หนังได้อย่างเยอะ เอาแค่ฉากในโรงแรมนั่นก็โคตรจะวุ่นและโคตรจะฮา บวกด้วยคิวบู๊ที่แทรกมาเป็นพักๆ เป็นอะไรที่สนุกอย่างยิ่งเลยล่ะครับ

หนังยังได้ Aldo Sambrell ดารารุ่นเก๋าที่เล่นหนังมาแล้วสารพัดประเทศ เขาเคยร่วมแสดงในผลงานของ Sergio Leone แต่เรื่องที่คนน่าจะจำได้มากสุดคือบทนำใน Navajo Joe ส่วนเรื่องนี้เขามารับบทเป็น อดอล์ฟ ตัวละครที่มีบทบาทสำคัญในตอนท้าย ซึ่งสำหรับผม บทนี้ก็นับว่าน่าจดจำอยู่เหมือนกันครับ (เพียงแต่ความลึกอาจยังไม่มากนัก – ถ้ามากกว่านี้อีกนิดก็น่าจะดี)

นอกจากนี้ยังมี Shôko Ikeda มารับบทโมโมโกะ สาวน้อยที่แจ็คกี้ไปช่วยขายของตอนต้นเรื่อง แล้วเธอก็มาคอยช่วยเขาในช่วงหลัง และอีกคนที่เห็นหน้าปั๊บก็จำได้ก็คือ หลอฮุยกวง (Lo Wai-Kwong) ขาบู๊ขาประจำของหนังฮ่องกงที่มาเป็นหนึ่งในลูกสมุนของตัวร้ายที่ซัดกับแจ็คกี้ในตอนท้าย

และผมชอบแนวคิดตอนต้นเรื่อง ที่แจ็คกี้จะไปชิงหยกในถ้ำนั่น แต่กลายเป็นว่าคนที่เฝ้าถ้ำอยู่นั้น “ขโมยหยกไม่ว่า แต่ขโมยน้ำเอ็งตาย” คือมันเป็นมุมที่น่าสนใจดีน่ะครับ คือสำหรับชาวเผ่าในถ้ำนั้นแล้ว หยกไม่ใช่ของมีค่าสำหรับพวกเขา แต่น้ำต่างหากที่ถือว่าศักดิ์สิทธิ์ อันนี้มันก็สะท้อนให้เห็นนะว่าโลกนี้กว้างใหญ่ พวกมุมมอง ความคิด ความเชื่อของคนแต่ละมุมโลกก็ต่างกันไป บางคนอาจเห็นอัญมณีเป็นของมีค่า แต่สำหรับบางคนอาจมองว่าพวกมันเป็นแค่ก้อนหินธรรมดาทั่วไป การให้ค่าและความหมายมันก็สุดแท้แต่คนแต่ละถิ่นจะกำหนด – มันคือมิติของคนที่จัดว่าน่าศึกษาครับ

ตัวหนังจัดว่าประสบความสำเร็จเช่นเคยครับ ทำเงินไปกว่า 39 ล้านเหรียญฮ่องกง ทำเงินสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในฮ่องกงปีนั้น

ผมชอบกว่าภาคแรกครับ รู้สึกมันลื่นและมันส์ขึ้น เป็นอีกหนึ่งหนังเจ๋งๆ ของเฮียเฉินที่อยากให้ดูกัน

สองดาวครึ่งบวกๆ ครับ

(7.5/10)