Comedy

Me Time (2022)

เรื่องนี้เปิดดูแบบเอาฮาระหว่างทำงานครับ กะดูแบบไม่เน้นเนื้อหาสาระ ครั้นพอดูแล้วก็พบว่าหนังฮาน้อยกว่าที่คิดครับ

ตัวเอกคือ ซันนี่ (Kevin Hart) และฮัค (Mark Wahlberg) ที่เป็นเพื่อนซี้กันมานานปี แต่ทีนี้พอเวลาผ่านไป พอซันนี่มีครอบครัวเขาก็เริ่มอยู่ในคอมฟอร์ทโซน ชอบที่จะอยู่กับบ้านและไม่ได้อยากออกไปตะลอนกับเพื่อนอย่างฮัคสักเท่าไรนัก แต่แล้วในเรื่องก็มีเหตุให้ซันนี่ต้องไปแจมกับฮัคจนได้ครับ แล้วก็ตามคาดนั่นแหละ มันย่อมมีเรื่องป่วนๆ ปั่นๆ ตามมาอย่างแน่นอน

ตอนแรกผมนึกว่าหนังจะเน้นให้ซันนี่กับฮัคร่วมเดินทางแล้วก็เจอเรื่องป่วนๆ แต่ไปๆ มาๆ กว่าหนังจะเข้าเรื่องโซนนั้นก็ปาไปครึ่งเรื่องน่ะครับ ครึ่งแรกหนังเน้นเล่าไปที่ชีวิตของซันนี่มากกว่า ซึ่งครึ่งแรกนี้ผมว่าพอได้นะ หนังแซวชีวิตคนมีครอบครัวได้ไม่เลว และ Hart เองก็เล่นได้โอเค พี่แกดูเป็นคนเยอะและพล่ามได้ตลอดๆ ยอมรับว่าแอบฮาตอนที่ซันนี่คิดจะทำ “อะไรๆ” ตอนที่ลูกเมียไม่อยู่น่ะครับ ก็เป็นอะไรที่ฮาดี

ในขณะที่ครึ่งหลังก็จะเป็นการจับคู่ป่วนระหว่างซันนี่และฮัค ซึ่งช่วงที่ว่าหนังออกมาเรื่อยๆ ครับ แต่ดีกรีความฮาไม่มากสักเท่าไร จริงๆ ต้องขอบคุณการแสดงทั้งของ Hart และ Wahlberg เลยครับ เพราะมันช่วยแบกหนังเยอะอยู่เหมือนกัน อย่าง Hart นี่ก็ออกลีลาช่างพล่ามช่างโวยวายไป ส่วน Wahlberg ก็มาในมาดบ้องแบ๊ว พาซื่อหน้าตายไปเรื่อยๆ ผมว่าครึ่งหลังนี่มันพอดูต่อได้ก็เพราะพวกเขานี่แหละ ในขณะที่ตัวเรื่องและเหตุการณ์ต่างๆ มันไม่ได้น่าสนใจอะไรนัก ในแง่ฮาก็ไม่ฮาเท่าไร

หนังกำกับโดย John Hamburg ที่สร้างชื่อมาจากงานเกลาบทให้ Meet the Parents และ Meet the Fockers ก่อนจะโดดมากำกับ Along Came Polly ที่ก็พอดูได้เพลินๆ ในขณะที่เรื่องนี้นี่จริงๆ ประเด็นหลายอย่างที่หนังจับมาเล่นมันก็โอเคครับ เพียงแต่การเล่าเรื่องและเหตุการณ์ทั้งหลายมันยังไม่น่าสนใจนัก อย่างที่บอกน่ะครับว่าหนังมันเอาตัวรอดมาได้ก็เพราะ Hart และ Wahlberg นี่แหละ

สรุปว่าเป็นหนังเอาฮาที่ไม่ได้น่าจดจำอะไรนัก เหมาะสำหรับคนที่ชอบ 2 ดารานำน่ะครับ และเหมาะแก่การดูแบบไม่คิดมาก – แต่เอาจริงๆ ผมก็ดูแบบไม่คิดมากนะ ยังเฉยๆ เลยแฮะ

ไม่ถึงสองดาวครับ

(5.5/10)