ดูแบบไม่คาดหวัง แล้วก็เพลินแบบพอดีๆ ครับ สำหรับเรื่องนี้

แฮโรลด์ (Zachary Levi) คือตัวการ์ตูนในหนังสือครับ เขามีเพื่อนคือกวางมูส (Lil Rel Howery) และเม่น (Tanya Reynolds) ในแต่ละวันพวกเขาก็จะผจญภัยไปด้วยกันโดยแฮโรลด์มีของวิเศษอย่างสีเทียนวิเศษที่สามารถเนรมิตได้ทุกสิ่งที่เขาวาด แล้ววันหนึ่งเขาก็เกิดอยากเจอกับผู้ให้กำเนิดที่เขาชอบเรียกว่าตาแก่ เขาเลยแหวกมิติมาสู่โลกแห่งความจริงเพื่อตามหาตาแก่ให้พบ แล้วนั่นล่ะครับคือจุดเริ่มของการผจญภัยครั้งสำคัญ

เอาจริงๆ คือผมว่าหนังไม่มีอะไรเลยครับ พล็อตไม่ได้ซับซ้อน หลักๆ คือแฮโรลด์กับเพื่อนผจญภัยแบบด้นไปเรื่อยๆ จากเหตุการณ์หนึ่งไปสู่อีกเหตุการณ์หนึ่ง แล้วก็ได้เจอกับเพื่อนมนุษย์อย่างหนุ่มน้อยเมลวิน (Benjamin Bottani) และแม่ของเขา (Zooey Deschanel) พูดตรงๆ ก็คือเหมือนเราดูหนังสำหรับเด็ก หรือดูการ์ตูนเบาๆ สักเรื่องน่ะครับ คือเน้นความบันเทิง เพลิดเพลินและไม่มีพิษภัย

พลังสำคัญของหนังผมยกให้ Levi เลยครับ ความร่าเริงสดใสและเปี่ยมเอนเนอจี้ของเขาทำให้ผมสนใจตามหนังไปเรื่อยๆ คือถ้าขาดเขาไปนี่หนังคงจืดเลยล่ะ ส่วน Howery และ Reynolds ก็ถือเป็นส่วนเสริมที่ดี พอๆ กับ Bottani ที่ถือว่าเล่นได้ไม่เลว ในขณะที่ Deschanel นี่ออกแนวบทสมทบมากกว่าที่คาดครับ แม้จะมีพื้นที่บนจอเยอะแต่ก็ไม่ค่อยเด่นสักเท่าไร

จุดเด่นอีกอย่างคืองานเทคนิคที่ทำออกมาได้เนียนครับ แต่ละสิ่งที่แฮโรลด์วาด เวลาลายเส้นเริ่มปรากฏ มันได้อารมณ์แฟนตาซีดี และถ้าพิจารณาจากทุน $40 ล้านแล้วก็ถือว่าหนังใช้ทุนไปคุ้มทีเดียว

โดยรวมผมว่าหนังเพลินดีครับ ดูได้เรื่อยๆ อาจเพราะผมไม่คาดหวังน่ะนะครับ เลยรู้สึกโอเค ดังนั้นผมว่าถ้าใครจะดูเรื่องนี้ก็ต้องลดความคาดหวังครับ อย่าคิดว่ามันจะออกมาว้าวหรือล้ำจินตนาการจัดๆ หรือมีประเด็นคมๆ แทรก และที่สำคัญคืออย่าเอาไปเทียบกับ Barbie เป็นอันขาดครับ เพราะเรื่องนั้นถือว่าไปได้ไกลกว่าเรื่องนี้พอสมควร (ทั้งความเพลินและสาระที่แทรกลงมา)

ผมว่าหนังออกมากลางๆ น่ะครับ ดูเอาสนุกได้แบบไม่ต้องคิดมาก แต่ก็น่าเห็นใจที่รายได้ไม่สวยเท่าไร ทำไปแค่ $32 ล้าน ก็นับว่าเข้าเนื้อครับ

หนังเหมาะที่จะดูกับเด็กๆ แบบเบาๆ ครับ ดูเอาเพลินในวันว่างๆ หรือถ้าใครชอบ Levi นี่ผมแนะนำเลยครับ เพราะเขาช่วยหนังเรื่องนี้ไว้เยอะจริงๆ

สองดาวครับ

(6/10)