
หนังรักวันคริสต์มาสจาก Netflix ครับ เรื่องของ แอชลี่ย์ จีน เดวิส (Britt Robertson) สาวนักเต้นที่จู่ๆ ก็โดนให้ออกจากงานเต้นที่เธอรัก เธอเลยกลับไปพักใจที่บ้านพ่อแม่ในไซคามอร์ ครีก แล้วเธอก็ได้เจอกับ ลุค (Chad Michael Murray) หนุ่มหล่อล่ำโดยบังเอิญ ซึ่งก็คงเดาได้ไม่ยากล่ะครับว่าคู่นี้ต้องปิ๊งกันแน่นอน และสื่อสายใยที่จะเชื่อมสัมพันธ์คนทั้งสอง ก็เนื่องมาจากเหตุว่าตอนนี้ร้านริธึมรูมของพ่อแม่เธอนั้นเป็นหนี้อยู่ 30,000 เหรียญ ดังนั้นหากพวกเขาไม่สามารถหาเงินมาจ่ายได้ทัน ร้านก็จะต้องตกเป็นของคนอื่น
แล้วแอชลี่ย์เลยได้ไอเดียที่จะให้ลุคและหนุ่มๆ ในร้านเปิดแสดงเต้นแบบโชว์หุ่นล่ำเพื่อเรียกลูกค้า แล้วเรื่องจะลงเอยอย่างไรจริงๆ ไม่ทันดูก็เดาได้แล้วน่ะนะครับ หนังมันต้องจบแบบแฮปปี้ตามสูตรอยู่แล้วแหละ
ผมดูหนังเรื่องนี้แบบไม่รู้อะไรเลยครับ รู้แค่ Murray แสดงนำแต่ไม่รู้ว่าใครเป็นนางเอก ครั้นพอเห็นหน้าก็ดีใจครับ เพราะผมน่ะชอบ Robertson มานานตั้งแต่ Avalon High แล้ว ก็ให้เสียดายครับที่เธอไม่ดังเท่าที่ควร แล้วระหว่างดูนี่ก็อดคิดไม่ได้ว่าระหว่างที่เธอแสดงนี่เธอจะรู้สึกอย่างไรนะ เพราะตัวละครแอชลี่ย์นี่คือคนที่รักในงานเต้นงานแสดงเป็นชีวิตจิตใจ แต่ที่เธอโดนให้ออกก็เนื่องจากในสายตาผู้ว่าจ้างนั้นมองว่าเธออายุมากเกินไป ก็เหมือนเป็นการสะท้อนชีวิตของเธอเหมือนกันน่ะครับ ตอนช่วงอายุ 20 งานก็มาเรื่อยๆ ได้เล่นหนังดังอยู่ไม่น้อย แต่มาตอนนี้อายุเธอ 30 อัพแล้ว ปริมาณงานก็ไม่เหมือนเก่า – ก็เรียกว่าแอบเห็นใจทั้งตัวละครที่เธอแสดงและตัวเธอน่ะครับ
ได้แต่หวังว่าเธอจะมีโอกาสดีๆ ที่เหมาะกับเธอ แวะเวียนเข้ามาในชีวิตอีกน่ะนะครับ ในขณะที่เรื่องนี้ก็ถือว่าแสดงแบบฆ่าเวลาไปก่อนแล้วกัน
ว่าแบบตรงๆ พลังสำคัญที่แบกให้หนังยังดูได้เรื่อยๆ ก็คือการแสดงของ Robertson และ Murray ซึ่งผมว่าพวกเขาก็พยายามนะ ใช้ทั้งหน้าตา ความหล่อความสวย และเสน่ห์ผสมเอกลักษณ์เฉพาะตัวช่วยพยุงหนังไว้ แต่ตัวหนังจริงๆ น่ะไม่ค่อยมีอะไร เหมือนมัวแต่เน้นโชว์หุ่นล่ำๆ ของหนุ่มๆ ในเรื่อง จนไม่ค่อยมีพื้นที่ให้กับประเด็นอื่นๆ เช่น เรื่องสายสัมพันธ์ระหว่างแอชลี่ย์กับพ่อแม่ หรือประเด็นชวนประทับใจอื่นๆ ในช่วงวันคริสต์มาส

จริงๆ การที่หนังลงสูตรนั้นไม่ใช่ปัญหาครับ เพราะหนังที่เดินตามสูตรแล้วดูสนุกก็มีเยอะแยะไป แต่กับเรื่องนี้หนังค่อนข้างเรื่อยๆ บทไม่มีอะไรมาก ปมไม่มีอะไร ลูกเล่นระหว่างทางก็ไม่ค่อยมี ซึ่งผู้กำกับก็คือ Peter Sullivan ที่ผมเคยดูงานของเขามาแล้วประมาณ 6 เรื่อง – และกำลังจะได้ดูอีกเพราะ Netflix เพิ่งเอามาลง – ก็จากงานที่ผ่านมา หนังของเขาก็จะประมาณนี้น่ะครับ คือดูได้ แต่ไม่เด่น ลีลาการเล่าเรื่องและรสมือของเขายังไม่น่าจดจำนัก และกับเรื่องนี้นี่ผมว่าหนังมันชืดกว่าผลงานชิ้นก่อนๆ ของเขาซะอีก คือเหมือนยกหน้าที่ให้เหล่าดาราสำแดงกันเป็นหลัก แต่องค์ประกอบอื่นๆ มันจืดเกินคาดน่ะครับ
และปกติผมจะชอบดูบรรยากาศหนังวันคริสต์มาส ดูวิว ดูการจัดไฟ หรืออะไรต่างๆ แต่กับเรื่องนี้นี่อะไรเหล่านั้นกลับไม่เด่นเท่าไร หลายฉากดูแล้วเหมือนถูกเซ็ตขึ้น ขนาดซีนเวลาตัวละครนั่งในรถนี่ ภาพวิวในกระจกมันดูออกเลยน่ะครับว่าไม่ใช่ของจริง – ระหว่างดูเลยเข้าใจน่ะครับว่าทำไมอารมณ์หนังคริสต์มาสมันถึงไม่ค่อยมาเท่าไร เพราะฉากก็ยังดีได้อีก การตกแต่งก็ยังดีได้อีก ยิ่งเรื่องบทนี่ยังดีได้อีกเยอะเลยล่ะครับ
อีกอย่างที่เสียดายคือ Michael Gross ที่มารับบทเป็น สแตน พ่อของแอชลี่ย์ รายนี้แฟนๆ หนังชุด Tremors หรือ ทูตนรกล้านปี น่าจะจำได้ เพราะพี่ท่านคือเดอะแบกที่ทำให้หนังชุดนั้นมีตอนต่อยาวนานมาตั้งหลายภาค ในแง่การแสดงนี่พี่เขาทำได้ดีเสมอครับ แต่กับเรื่องนี้บทกลับไม่ค่อยมีโอกาสได้ทำอะไรเท่าไร – ใช้บุคลากรยังไม่คุ้มค่าครับ ว่าอย่างนั้นแล้วกัน
ก็คงไม่ร่ายยาวกว่านี้น่ะนะครับ เอาเป็นว่านี่เป็นหนังคริสต์มาสของ Netflix ที่ออกมาเรื่อยๆ ไม่ได้ดีถึงขนาดต้องดู ยกเว้นถ้าท่านรัก 2 ดารานำ (แบบผมที่ส่วนหนึ่งก็ดูจนจบเพราะ Robertson) หรือไล่ตามดูหนังคริสต์มาสเป็นกิจวัตรอยู่แล้ว (แบบที่ผมทำเป็นประจำ) หากจะลองดูก็ได้ครับ แต่ต้องไม่คาดหวัง
อันนี้ย้ำเลยว่าไม่ใช่ “ลดความคาดหวัง” นะครับ แต่ผมอยากให้ “ไม่คาดหวัง” เลย จะดีที่สุด
ไม่ถึงสองดาวครับ
![]()
(5.5/10)










