
ว่าแบบไม่อ้อมค้อม หนังดูได้เรื่อยๆ ครับ แต่ดูจบแล้วก็จบกัน ไม่ได้ถึงกับชอบอะไร
เรื่องราวว่าด้วยไมค์ (Mark Wahlberg) หนุ่มชาวบ้านธรรมดาที่โดนลากเข้าสู่โลกแห่งแอ็คชั่นและสายลับครับ ประมาณว่าแฟนเก่าอย่างร็อกแซนน์ (Halle Berry) เธอเป็นสายลับทำงานให้กับองค์กรยูเนี่ยน แล้วเธอก็เลือกไมค์มาเทรนเพื่อร่วมปฏิบัติการกู้โลกตามสไตล์ของหนังแนวนี้
ผมมองว่าหนังกลางๆ ครับ คือมันมาตามสูตรนั่นแหละ แต่ก็ไม่ได้เด็ดอะไรมาก ข้อดีคือได้ดาราระดับอาชีพที่รู้งานมาแสดงนำ ไม่ว่าจะ Wahlberg, Berry หรือ J.K. Simmons ซึ่งแต่ละคนก็พอจะดึงความสนใจเราได้ แต่ถ้าให้ว่ากันตรงๆ คือพวกเขาเคยฝากฝีมือไว้กับบทที่น่าสนใจกว่านี้ครับ โดยเฉพาะ Simmons นี่บทบาทน้อยจนแอบเสียดายเลย
การเดินเรื่องก็เรื่อยๆ อีกเช่นกัน คือมันไม่ได้น่าสนใจหรือชวนติดตามอะไรมาก อย่างตอนร็อกแซนน์เทรนไมค์จริงๆ มันคือโอกาสที่จะใส่อะไรฮาๆ ลงไป แต่กับที่หนังเป็นมันก็แค่เรื่อยๆ ไม่ได้ฮา ไม่ได้สนุก หรือสารพัดฉากแอ็คชันก็ถือว่าเรื่อยๆ ไม่ได้มันส์สะใจเต็มขั้น – และสารภาพอย่างหนึ่งว่าเดาได้ตั้งแต่ต้นเรื่องว่าใครจะเป็นตัวร้ายครับ อันนี้ยอมรับว่าผมนิสัยเสียเอง ช่วยไม่ได้ 555
ของดีอื่นๆ ที่ประคองหนังไว้ ก็ต้องยกให้ดนตรีของ Rupert Gregson-Williams (Wonder Woman, Aquaman และ Murder Mystery ทั้ง 2 ภาค) ที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้หนังได้พอตัว กับงานภาพดีๆ ของ Alan Stewart (Aladdin, The Gentlemen และ Wrath of Man) ที่จับภาพสวยๆ ของโลเคชั่นต่างๆ มาได้ค่อนข้างดี
โดยส่วนตัวผมว่าองค์ประกอบในหนังน่ะใช้ของดีนะครับ ดาราก็ดี ทีมงานส่วนต่างๆ ก็ดี แต่หนังกลับออกมาเรื่อยๆ ไม่เด่น ซึ่งผมก็มองไปที่ผู้กำกับ Julian Farino ที่จริงๆ ไม่ใช่มือใหม่นะครับ เขาทำงานกำกับซีรี่ส์มาตั้งแต่ยุค 90 เพียงแต่ยังไม่มีงานเด่นๆ แจ้งเกิดแบบเต็มตัว และกับเรื่องนี้ก็เหมือนกันครับ รสชาติความกลมกล่อมยังไม่มาก สีสันลูกเล่นไม่ค่อยมี และจุดเด่นจุดเร้าใจก็ยังไม่เยอะ – ออกมาธรรมดาน่ะครับ ว่างั้นแล้วกัน
โดยส่วนตัวผมว่าหนังยังเล่นกับอะไรได้อีกเยอะครับ เพราะหลายประเด็นก็อุตส่าห์เปิดไว้ อย่างเรื่องถ่านไฟเก่าระหว่างไมค์กับร็อกแซนน์ที่มีพูดถึง แต่ก็ไม่ได้เอามาใช้มากนัก หรือมุกอย่างเอาความต่างระหว่างกันมาเล่น เช่นการที่ไมค์เป็นหนุ่มบ้านๆ ส่วนร็อกแซนน์เป็นสาวสายลับ จริงๆ จะเอา 2 โลกของ 2 คนนี้มาแซวใส่กันและกันก็ได้ หรือไม่ก็ให้ไมค์เอามุมมองแบบหนุ่มบ้านๆ มาใช้ประโยชน์ระหว่างภารกิจ ให้พี่แกใช้ทริคบ้านๆ ที่สายลับคาดไม่ถึงมาแก้ปัญหาอะไรยังเงี้ย ก็น่าจะโอเคอยู่ – แต่ก็เปล่าครับ หนังไม่ได้เล่นกับอะไรที่ผมว่ามาเลย
ยอมรับว่าระหว่างดูนี่ก็นึกถึง Jackpot! ครับ เพราะลงสตรีมไล่ๆ กัน แต่ผมว่าเรื่องนั้นบ้าบอเฮฮาและเมามันส์กว่ากันเยอะ ทั้งที่เรื่องนั้นบทไม่ได้แน่นอะไร แต่มันลื่นไหลและตอบโจทย์บันเทิงได้เวิร์กกว่าครับ
สองดาวแบบเกือบไม่ได้ครับ
(6/10)

หมวดหมู่:Action, Comedy, Movie Reviews, Thriller










