
สารภาพว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมชอบจำสับกันระหว่างเรื่องนี้กับ มังกรหนวดทอง (Dragons Forever) อาจเพราะทั้ง 2 เรื่องนำแสดงโดย 3 หน่อ เฉินหลง, หยวนเปียว และหงจินเป่าน่ะครับ แล้วโครงสร้างบางอย่างก็คล้ายกัน เช่นช่วงต้นๆ ไปจนถึงกลางๆ ก็จะว่าด้วยเรื่องกุ๊กกิ๊กหญิงชาย มีแอ็คชั่นประปราย ก่อนจะลงท้ายด้วยการฟัดกันแบบเต็มๆ
ครั้นพอได้ดูแบบจริงๆ จังๆ ผมก็แยก 2 เรื่องนี้ออกซะทีครับ โดยถ้าว่าตามใจคิดตรงๆ เลยก็คือ ผมออกจะชอบ มังกรหนวดทอง มากกว่า ขา ตั้ง สู้ ครับ
อย่างแรกเลยคือคิวบู๊ของ ขา ตั้ง สู้ จัดว่าเรื่อยๆ ครับ แต่ยังไม่ถึงขั้นมันส์ และมีไม่เยอะในช่วงแรกๆ ช่วงที่โอเคหน่อยคือตอนท้ายที่ไปบู๊กันในปราสาท ก็ถือว่ามันส์ขึ้น แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นเด็ดแบบสุดๆ – แต่หนังจะเน้นไปโชว์ฉากเสี่ยงตายมากกว่า อย่างตอนที่เฮียเฉินปืนกำแพงขึ้นปราสาทนั่นเป็นต้น ก็ต้องยอมรับว่าพี่แกเก่งเรื่องปีนเรื่องไต่แบบนี้จริงๆ ล่ะครับ
และครึ่งแรกหนังก็เน้นไปที่เรื่องความกุ๊กกิ๊ก ประมาณว่าโธมัส (เฉินหลง, Jackie Chan) กับเดวิด (หยวนเปียว, Yuen Biao) เป็นเพื่อนกัน แล้วก็เปิดฟู้ดทรัคขายอาหารอยู่ แล้วพวกเขาก็ได้เจอกับ ซิลเวีย (Lola Forner) นักล้วงกระเป๋าสุดสวยที่เดวิดรู้สึกชอบในทันที แล้วหนังครึ่งแรกก็จะให้พื้นที่ไปกับการผูกสัมพันธ์ระหว่างเดวิดกับซิลเวีย โดยที่โธมัสเองก็ทำท่าคล้ายๆ จะชอบซิลเวียเหมือนกัน แต่การเล่าเรื่องช่วงนี้มันออกแนวเรื่อยๆ ไม่ได้ออกรสออกชาติเท่ามังกรหนวดทองที่ครึ่งเรื่องแรกก็ว่าด้วยความกุ๊กกิ๊กเหมือนกัน แต่เรื่องนั้นมันจะกลมกล่อมได้ใจกว่า
อีกส่วนหนึ่งที่ทำให้รู้สึกว่าหนังดูพร่องๆ ไปก็คงเป็นบทของหงจินเป่าน่ะครับ ผมว่าเรื่องนี้ตัวละครของเขาค่อนข้างแยกตัวออกไป ไม่ค่อยได้มาเข้าพวกร่วมก๊กกับอีก 2 หน่อสักเท่าไร โดยเฮียหงของเราก็รับบทเป็นนักสืบเอกชนที่กำลังสืบคดี แต่ว่ากันตรงๆ แล้วการสืบคดีของเขาในตอนต้นๆ มันก็ไม่ค่อยมีอะไรสักเท่าไร โดยส่วนตัวแล้วผมว่าให้พี่เขามาร่วมก๊วนร่วมขบวนกับอีก 2 หน่อไปเลยมันน่าจะฮากว่า
นอกจากนี้เรายังได้เจอดาราหน้าคุ้นโผล่มาแจม ไม่ว่าจะอู๋เย่าฮั่น (Richard Ng), อู๋หม่า (Wu Ma) และ John Sham (ที่หลายคนอาจรู้จักเขาในนาม “ปอมฟู”) มาเป็นคนไข้ในโรงพยาบาลประสาทที่พ่อของเดวิดรักษาตัวอยู่น่ะครับ ก็ถือเป็นสีสันเล็กๆ ให้คอหนังฮ่องกงได้สนุกกัน

ตอนที่หนังออกฉายนั้นถือว่าประสบความสำเร็จอย่างดีครับ และที่สำคัญคือหนังได้ก่อให้เกิดเกมนามว่า Kung-Fu Master หรือ Spartan X ขึ้นมา – เป็นเกมแนวลุยด่านสู้ไปเรื่อยๆ ที่เด็กยุค 80 น่าจะจำกันได้ดี โดยผู้สร้างได้เอาโครงเรื่องของ ขา ตั้ง สู้ มายำเข้ากับพล็อตดั้งเดิมของ Game of Death หนังที่ Bruce Lee สร้างไม่เสร็จ
อันนี้ก็ต้องขยายความเพิ่มหน่อยว่า Game of Death นั้นคือโปรเจคท์ดั้งเดิมที่ Bruce Lee ตั้งใจสร้างและกำกับเองครับ โดยเขาได้ถ่ายทำฉากต่อสู้ช่วงไคลแม็กซืไปแล้วพอสมควร แต่เนื่องจากเขาเสียชีวิตไปก่อนที่หนังจะถ่ายทำเสร็จ โปรเจคท์นี้เลยถูกพักไว้ จนกระทั่ง Robert Clouse มาร่วมมือกับ Golden Harvest เอาฟุตเตจที่ Lee ถ่ายทำไว้มา แล้วสร้างเป็นหนังเรื่องใหม่ ใช้พล็อตใหม่ไปเลย ดังนั้น Game of Death ที่ออกฉายในปี 1978 นั้นจึงเป็นคนละเรื่องกับ Game of Death ที่ Lee อยากจะทำออกมาครับ – เดี๋ยวผมจะร่ายอีกทีตอนพูดถึง Game of Death ครับ
กลับมาที่เกมนะครับ ซึ่งเกมนี้ก็เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดเกมอย่าง Super Mario Bros. และ Street Fighter ในเวลาต่อมา และว่ากันว่ากองทัพโบว์แดง (Red Ribbon) องค์กรร้ายในการ์ตูน Dragonball นั้น ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากเกมๆ นี้เหมือนกัน
ก็ตามนั้นครับ ถือว่าดูได้เรื่อยๆ เพียงแต่ครึ่งแรกยังไม่กลมกล่อมเต็มที่ ส่วนแอ็คชั่นแม้จะมีแต่ก็ยังไม่ถึงระดับสะใจ แต่ก็ยังดีที่พวกพี่เขาแสดงได้โอเคตามสไตล์ หนังเลยดูได้เพลินๆ และจุดชอบอีกอย่างคือหนังไปถ่ายทำกันที่สเปนครับ เราก็เลยจะได้บรรยากาศแบบยุโรปๆ ทำให้หนังมีรสชาติแตกต่างจากหนังที่ถ่ายในฮ่องกงพอสมควร
สองดาวครึ่ง ยังได้ครับ
(6.5/10)
หมวดหมู่:Action, Chinese/Hong Kong/Taiwan Movies, Comedy, Kung Fu, Martial Arts, Movie Reviews










