
‘Weird Al’ Yankovic คือนักร้องเพลงแปลงของอเมริกาที่ถือเป็นตำนานอีกบทของวงการครับ ดังขนาดมีหนังชีวประวัติตัวเองออกมา (ได้ Daniel Radcliffe มารับบทเป็น Weird Al ด้วยครับ) และเรื่องนี้คือผลงานจอเงินที่เขาแสดงนำแบบเป็นเรื่องเป็นราวเป็นครั้งแรกครับ
Weird Al รับบทจอร์จ นิวแมน ที่มักจะมีเรื่องให้ตกงานเป็นประจำ แล้วอยู่มาวันหนึ่งเขาก็ได้รับโอกาสจากคุณป้าให้มาดูแลสถานีโทรทัศน์ช่อง 62 ที่เรตติ้งก็ไม่ดี เรียกว่าใกล้จะปิดตัวเต็มที แต่โชคยังดีครับที่เขาผูกมิตรกับภารโรงจอมเพี้ยนที่ชื่อสแตนลี่ย์ (Michael Richards) และนายสแตนลี่ย์นี่แหละที่ช่วยพลิกสถานการณ์ จัดรายการจนแฟนๆ ติดกันเกรียว ส่งผลให้ช่อง 62 เป็นที่พูดถึงไปทั้งเมือง
ทีนี้พอช่อง 62 ดัง ก็เลยทำให้ช่อง 8 ของ อาร์.เจ. เฟลตเชอร์ (Kevin McCarthy) ที่ครองเรตติ้งมานานนับ 10 ปีมีอันต้องสั่นคลอน อาร์.เจ. ผู้ร้ายกาจเลยเดินแผนร้ายหมายมั่นจะฮุบช่อง 62 มาเป็นของตัวเอง จอร์จกับผองเพื่อนเลยต้องทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องช่อง 62 ให้อยู่รอดต่อไป
หนังสนุกดีครับ ผมชอบนะ คือมันยำรวมลีลาตลกหลายแนวเอาไว้ในเรื่องเดียว ไม่ว่าจะตลกล้อเลียนที่ล้อหนังเรื่องโน้นเรื่องนี้สารพัด เอาแค่ฉากแรกก็ล้อ Raiders of the Lost Ark ไปเต็มๆ ไหนจะ Rambo และ Gone with the Wind อีก แล้วก็บวกด้วยตลกท่าทาง ตลกคำพูด ตลกเพี้ยนๆ – แล้วด้วยความที่หนังว่าด้วยรายการโทรทัศน์ มันจึงมีความเป็น “หนังตลกตอนสั้น” ใส่ลงมาด้วยครับ ประมาณว่าเราจะได้เห็นรายการต่างๆ ที่ฉายทางช่อง 62 แบบสั้นๆ และแต่ละรายการมันก็เพี้ยนและบ้าบออย่างยิ่ง หนังก็เลยมีความเป็น Sketch comedy ยำลงไปอีกหนึ่งรสชาติ
แม้หนังจะขึ้นชื่อว่า Weird Al นำแสดง แต่คนที่เด่นจริงๆ ต้องยกให้ Michael Richards ในบทภารโรงแสนซื่อที่ขโมยซีนและเรียกเสียงฮาได้เรื่อยๆ และหลังจากเรื่องนี้เขาก็ไปดังอีกโครมใหญ่ในบทเครเมอร์จากซีรี่ส์ Seinfeld แต่โดยส่วนตัวแล้วผมชอบที่เขาแสดงในเรื่องนี้มากกว่าครับ เพราะลีลาท่าทางของเขาดูละมุนละม่อม น่ารัก จริงใจ และที่สำคัญคือแม้จะสแตนลี่ย์จะซื่อบื้อแต่เขาก็ยังขยันทำประโยชน์ให้คนรอบตัว ในขณะที่เครเมอร์นั้นออกแนวหาเรื่องให้เพื่อนซวยมากกว่า

McCarthy ก็แสดงได้เจ็บแสบเช่นกัน เขาดูเป็นคนเอาแต่ใจแสนร้ายได้อย่างน่าเชื่อ ว่ากันว่าขนาด McCarthy ยังขำตัวเองเลยครับ และเขาก็ต้องกลั้นหัวเราะบ่อยมาก แล้วพอผู้กำกับสั่งคัท McCarthy ก็จะขำแบบยิงยาวทำเอาทั้งกองพากันขำไปด้วย ไหนจะการด้นสดของ Weird Al อีก หลายฉากนี่ทำเอาเพื่อนร่วมจอแทบกลั้นฮาไว้ไม่อยู่เลยล่ะ
แล้วเรายังจะได้เจอกับ Fran Drescher ในบทพาเมาล่า เลขาที่อยากจะเป็นนักข่าว ลีลาเธอก็ทำให้นึกถึงตอนเล่น The Nanny น่ะครับ ประมาณนั้นแหละ และผู้กำกับ Jay Levey ก็โดดลงมาเล่นด้วยครับ เขาเล่นเป็น คานธีในตัวอย่างหนัง Gandhi II ครับ
และจริงๆ Sylvester Stallone เคยรับปาก Weird Al ว่าจะมาร่วมแสดงรับเชิญในเรื่องด้วย แต่เนื่องจากตารางทำงานมันทับซ้อนกันเลยทำให้พี่สไลแกไม่ได้มาเล่นครับ
สรุปว่าถ้าท่านชอบหนังตลกยุค 80 – 90 ก็น่าจะเพลินกับเรื่องนี้ล่ะครับ ที่ผมชอบอีกอย่างคือแม้หนังจะเดินเรื่องแบบแวะไปนั่นนิด แวะไปนี่หน่อย แต่หนังก็ยังคงมีแก่นเรื่องให้เดิน เลยทำให้หนังเรื่องนี้มีครบทั้งความตลกและเนื้อเรื่องให้ติดตาม
เอาเป็นว่าอยากให้ลองกันครับ หนังฮาดูเพลินมีหลากรสผสมอยู่ มุกส่วนใหญ่ค่อนข้างได้ผล และที่สำคัญคือหนังไม่เลอะเทอะเข้ารกเข้าพง ถือเป็นหนังที่ตอบโจทย์คลายเครียดได้อย่างน่าพอใจ
สองดาวครึ่งครับ
![]()
(7/10)
หมวดหมู่:Comedy, Movie Reviews, Recommended Movies, Sci-Fi










