
เคยพูดถึง Toy Story เมื่อนานมาแล้ว วันนี้ได้ฤกษ์เอา A Bug’s Life การ์ตูนลำดับ 2 ของค่ายนี้มาดูครับ ก็ขอร่ายรำลึกสักหน่อย คราวนี้ Pixar ย้ายฉากหลังจากในเมืองไปเป็นในป่าครับ ส่วนตัวเอกก็ยังตัวเล็กๆ น่ารักๆ เช่นเคย
พระเอกประจำเรื่องคือ ฟลิก (Dave Foley) มดนอกกรอบที่ชอบตั้งคำถามกับทุกการกระทำที่แสนซ้ำซากของอาณาจักรมด ทั้งการเก็บอาหารแบบเดิมๆ ที่เก็บทีละเม็ดๆ, การเดินตามๆ กันเป็นแถว ออกนอกแถวก็ไม่ได้ หรือการจำยอมเป็นทาสพวกตั๊กแตนโหด ส่งส่วยอาหารให้เป็นประจำ
เมื่อถึงจุดหนึ่งฟลิกก็ทนไม่ไหว เสนอให้เจ้าหญิงแอ็ตต้า (Julia Louis-Dreyfus) ผู้นำอาณาจักรมดมือใหม่ ยอมให้เขาออกไปตามหาผู้กล้ามาช่วยสอนให้พวกมดกล้าสู้กับตั๊กแตน ซึ่งผู้นำชาวมดก็ยอมให้ฟลิกไปครับ… จริงๆ แทบจะไล่ให้รีบๆ ไปเลยล่ะ เพราะในสายตาพวกเขาน่ะ ฟลิกเป็นตัวป่วนและขยันทำอะไรแปลกๆ สร้างเรื่องวุ่นหลายต่อหลายรอบ พอฟลิกขอให้ไป ก็รีบอนุญาตครับ อาณาจักรจะได้สงบสักพัก
แล้วฟลิกก็เดินทางไปเจอคณะละครแมลงกลุ่มหนึ่งเข้า ซึ่งแต่ละคนก็มีลีลาเข้าตา จนฟลิกเข้าใจผิดคิดว่าพวกนี้แหละคือผู้กล้ามากความสามารถ เลยเชิญไปยังเมืองมด ส่วนพวกคณะละครก็เข้าใจผิดคิดว่าฟลิกเป็นแมวมองดารากำลังจะพาพวกเราไปสู่ความดัง เลยยอมตามไป
เอาล่ะสิครับ ต่างคนต่างเข้าใจผิด แบบนี้จะช่วยกันรับมือเจ้าพวกตั๊กแตนโหดสำเร็จไหมหว่า
ดูแล้วนึกถึง 7 เซียนซามูไร แล้วก็ 7 สิงห์แดนเสือ ครับ แนวทางหมือนกันเลยว่าด้วยหมู่บ้านที่โดนอันธพาลคุกคาม แล้วก็มีคนออกไปขอความช่วยเหลือ แต่ที่จะต่างไปหน่อยก็คือเหล่าคนนอกที่มาช่วยชาวบ้านนั้นไม่ได้เป็นผู้กล้าฝีมือแกร่งอะไร แต่โดยรวมๆ ก็ถือว่ามาในสูตรใกล้ๆ กันครับ สุดท้ายทั้งชาวบ้านและคนจากนอกหมู่บ้านก็ต้องมาร่วมมือกันสู้กับเหล่าร้าย

การดูรอบล่าสุดนี่ทำให้รู้สึกอย่างหนึ่งครับ คือรู้สึกว่างานฉากต่างๆ ยังไม่ค่อยมีรายละเอียดอะไรมาก ก็คงเป็นไปตามยุคน่ะครับ ยุคนั้นถือว่าเป็นยุคแรกๆ รายละเอียดของงานฉากเลยยังไม่มาก แต่ก็ถือว่าใช้ได้ครับ มีความสวยตามสไตล์ Pixar สีสันฉูดฉาดกำลังดี ตัวละครแมลงทั้งหลายก็ออกแบบมาดีครับ ดูน่ารักน่ากอด
ส่วนเนื้อเรื่องตอนต้นกับตอนท้ายก็น่าติดตามดีครับ ส่วนตอนกลางก็อาจจะเรื่อยๆ ไปบ้าง แต่โดยรวมก็สนุกดี ตอนท้ายก็ลุ้นกันไปว่าเหล่ามดและแมลงทั้งหลายจะสู้กับตั๊กแตนตัวร้ายยังไง ด้วยความที่หนังยาวแค่ชั่วโมงครึ่งเลยถือว่ากำลังเหมาะครับ ไม่ยาวเกินไป
หนังมาพร้อมแง่คิดที่ชี้ชวนให้เราตระหนักในพลังของความสามัคคีครับ อย่างเหล่ามดแม้จะตัวเล็กกว่าตั๊กแตนก็ตาม แต่หากมดสามัคคีรวมพลังกันจริงๆ แล้วล่ะก็ ตั๊กแตนก็ตั้กแตนเถอะ เอาไม่อยู่เหมือนกัน – ผมชอบนะที่บทกำหนดให้หัวหน้าตั๊กแตกอย่างฮอปเปอร์ตระหนักถึงความจริงข้อนี้ สื่อให้เห็นว่าพี่แกก็ฉลาดไม่เลว ไม่ได้ร้ายแบบไร้สมอง
รวมถึงแง่คิดอมตะอย่างความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น – อย่าเพิ่งด่วนท้อด่วนคิดว่าเราแก้ปัญหาไม่ได้ ยังไงก็ลองดูสักตั้ง ไหนๆ ถ้ามันจะต้องแพ้ก็ลองทำให้เต็มที่ดูสักครั้ง ไม่แน่ว่ามันอาจพลิกสถานการณ์แบบคาดไม่ถึงก็เป็นได้
หรือถ้าไปต่อไม่ได้จริงๆ ก็ค่อยหาทางอื่น – ถ้าหาทางออกไม่เจอก็ไปออกตรงทางเข้า แล้วค่อยเมียงมองหาทางใหม่ๆ โดยใช้ประสบการณ์การล้มคราวก่อนเป็นบทเรียนสอนเราให้แกร่งขึ้น
ตัวหนังถือว่าประสบความสำเร็จอย่างดีครับ ทำเงินทั่วโลกไป $363 ล้าน (จากทุนประมาณ $120 ล้าน) เป็นก้าวที่ 2 ของ Pixar ที่จัดว่ามั่นคงทีเดียว
เป็นอีกหนึ่งหนังแอนิเมชั่นที่ดูได้เพลินๆ ครับ สนุกดีพร้อมมีแง่คิด
สองดาวครึ่งครับ

(7/10)

หมวดหมู่:Adventure, Animation/Cartoon, Comedy, Family, Movie Reviews, Recommended Movies










