Action

The Magnificent Seven Ride! (1972) เจ็ดสิงห์แดนเสือ ภาค 4

Untitled07025

The Magnificent Seven Ride! ภาค 4 อันเป็นภาคสุดท้ายของหนังชุดเจ็ดสิงห์แดนเสือ ว่าตามจริงตอนแรกผมยังแอบคิดน่ะนะครับว่าหนังจะออกมาแย่ไหม เพราะส่วนใหญ่หนังที่ทำออกมาหลายภาคก็มักจะสาละวันเตี้ยลงตามจำนวนภาค แต่กลายเป็นว่าหนังก็เพลินใช้ได้ – ดีไม่ดีผมอาจจะเพลินมากกว่า 2 ภาคก่อนอีกครับ (แต่แน่นอนว่าสู้ภาคแรกไม่ได้ครับ)

ภาคนี้เป็นการเล่าถึงชีวิตของ คริส อดัมส์ (Lee Van Cleef) ในช่วงกึ่งเกษียณครับ ตอนนี้เขากลายเป็นนายอำเภอคอยจับเหล่าร้าย และหนนี้เขาต้องสู้กับก๊กโจรของฮวน เดอโตโร (Ron Stein) แล้วเขาต้องไปเกณฑ์มือปืนมือดีมาช่วยอีกเช่นเคย แต่งานนี้แปลกหน่อยตรงที่คนที่เขาพามานั้นคือนักโทษครับ ได้แก่ เพ็บพี่ คาร์รัลล์ (Pedro Armendáriz Jr.), วอลต์ ดรัมมอนด์ (William Lucking), สก็อตต์ เอลเลียต (Ed Lauter), ผู้กองแอนดี้ เฮย์ส (James Sikking) และมาร์ค สกินเนอร์ (Luke Askew)

และอีกคนที่ต้องตกกระไดพลอยโจนมาเป็นหนึ่งในสิงห์แดนเสือก็คือ โนอาห์ ฟอร์บส์ (Michael Callan) นักหนังสือพิมพ์ที่มาเพื่อเรียบเรียงเรื่องราวของคริสไปเขียนเป็นหนังสือครับ ไปๆ มาๆ โนอาห์ก็ต้องมาจับปืนสู้กับเขาด้วย

ในแง่ของพล็อตแล้วภาคนี้ดูจะมีอะไรมากกว่าภาคก่อนๆ ครับ ภาคนี้ตอนต้นๆ เราจะได้เห็นชีวิตนายอำเภอของคริส ได้เห็นภรรยาสาวสวยของเขานามว่า อาริลล่า (Mariette Hartley) อะไรๆ ดูน่าจะสงบสุขจนกระทั่งเขาไปให้อภัยโจรหนุ่มคนหนึ่ง และนั่นคือการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างแรงครับ จนส่งผลให้เขาต้องโดดเข้าสู่วังวนแห่งการไล่ล่าอีกครั้ง ก่อนที่ครึ่งหลังหนังจะแลนดิ้งลงพล็อตแบบขาประจำนั่นคือเจ็ดสิงห์แดนเสือปะทะก๊กโจรที่มากันหลายสิบ (ต้องเกิน 50 คนขึ้นไปด้วยครับ – ประมาณว่าจะดวลกันแบบ 7 ต่อ 7 นี่ไม่มี 555)

พล็อตตอนต้นนี่ทำเอาผมนึกถึงพาดหัวข่าวแบบที่เจอได้บ่อยๆ ในบ้านเราครับ คือมันจะมีโจรหนุ่มคนหนึ่งที่ก่อการปล้นแล้วก็โดนจับมาติดคุกใช่ไหมครับ แต่แล้วก็มีแม่ของโจรคนนั้นมาพูดกับคริสประมาณว่า “ลูกฉันเป็นคนดี ลูกฉันไม่ได้ตั้งใจ ลูกฉันไม่ได้รับความเป็นธรรม” สารภาพว่าแอบฮาอยู่เหมือนกันครับ ทำให้ตระหนักเลยว่ามุก “ลูกฉันเป็นคนดี” นี่มันเก่าแก่ เป็นอมตะ และเกิดขึ้นทั่วไปไม่ว่าจะโลกตะวันตกหรือตะวันออก

ทีนี้พอคริสใจอ่อน (รวมถึงภรรยาของคริสก็มาอ้อนวอนด้วย) คริสเลยยอมปล่อยไปครับ แล้วไงล่ะทีนี้ พ่อคนดีลูกคุณแม่ก็ก่อการชั่วอีกไงครับ ทำเอาคริสต้องเจ็บและจำไปอีกนานเลยทีเดียว – สำหรับคนบางคนนี่ การให้โอกาสหรือการให้อภัยนี่มันเท่ากับปล่อยเสือเข้าป่าจริงๆ

Untitled07026

ตัวหนังนั้นว่าตามจริงก็เดินเรื่องแบบเรื่อยๆ อยู่ครับ ไม่ได้เร่งเร้าอะไร แต่หนังก็ไม่น่าเบื่อนะ อาจเพราะมันยังมีอะไรให้เราติดตามไปเรื่อยๆ ตามด้วยดาราในเรื่องที่ก็ถือว่าทำหน้าที่ได้ดี Van Cleef นี่ก็ดูเป็นคริสที่เป็นส่วนผสมระหว่าง Yul Brynner และ George Kennedy น่ะครับ คือมีทั้งขรึมและสุขุม (แบบ Brynner) และก็แฝงไว้ด้วยความใจดีและเปิดเผย (แบบ Kennedy) แต่สิ่งที่ดูจะเด่นขึ้นเกี่ยวกับคาแรคเตอร์ของคริสในภาคนี้คือเขาดูเป็นสิงห์เฒ่าที่มีเหลี่ยมคูครับ อย่างการที่คริสเลือก 5 นักโทษมาใช้งานนี่ ก็เลือกโดยดูความเก่งของแต่ละคน รู้ว่าใครเก่งเรื่องไหนแล้วก็จะใช้งานคนนั้นกับงานที่เหมาะ

หรือที่ผมทึ่งหน่อยก็คือ ผมแอบมีคำถามเหมือนกันว่า คริสจะไว้ใจ 5 โจรนี่ได้จริงๆ หรือ ไม่กลัวโจรจะหักหลังไปเข้าพวกกับเดอโตโรหรืออย่างไร แล้วผมก็ถึงบางอ้อเมื่อคริสวางหมากหนึ่งตัว – ตอนที่คริสปล่อยให้ลูกน้องคนหนึ่งของเดลโตโรรอดชีวิตไปแจ้งข่าวกับหัวหน้าน่ะครับ – พอเห็นหมากตัวนี้ก็นับถือคริสเลย เพราะสิ่งที่คริสทำนั้นเป็นการตัดโอกาสไม่ให้โจรทั้ง 5 แปรพักตร์ไปหาเดลโตโรได้ ถือว่าเหลี่ยมแกเยอะจริง

ไหนจะตอนวางกลยุทธ์ วางกับดักล่อพวกของเดลโตโรมาในตอนท้าย อะไรเหล่านี้ก็ทำให้เห็นน่ะครับว่าคริสแม้จะแก่ชราแล้ว แต่ก็เหมือนขิงที่ยิ่งแก่ก็ยิ่งเผ็ด ยังไม่สิ้นลายง่ายๆ – ยอมรับครับว่าบทเขียนเกี่ยวกับตัวคริสได้ไม่เลว และสิ่งเหล่านี่นี่แหละที่ทำให้หนังยังอยู่ในระดับโอเค – และอีกอย่างที่ถือเป็นมิติใหม่สำหรับคริสก็คือ เราจะได้เห็นมุมโรแมนติกของเขาครับ ซึ่ง Van Cleef ก็เล่นในส่วนนี้ได้เข้าท่าอยู่

ในขณะที่อีก 6 สิงห์ในเรื่องนั้น ความเด่นอาจยังไม่เยอะครับ มิติตัวละครยังเห็นไม่มาก แต่ก็ยังดีที่หนังมีฉากให้พวกเขาได้แสดงความในใจ เช่นตอนที่ผู้กองแอนดี้เปรยขึ้นมาว่า หากเขาตายในศึกวันพรุ่งนี้ เขาจะได้รับการฝังอย่างมีเกียรติไหม อะไรแบบนี้เป็นต้น แต่ฉากทำนองนี้ก็ไม่เยอะครับ ส่วนใหญ่หนังจะโฟกัสไปที่คริสมากกว่า

Untitled07027

ฉากแอ็คชั่นก็มีประปรายครับ ส่วนฉากใหญ่ก็ถือว่าทำได้โอเค แต่ดีกรีความมันส์อาจจะยังไม่สุดเท่าที่ควร โดยเฉพาะบทสุดท้ายของเดลโตโรที่ดูจะง่ายไปหน่อย – แต่จะว่าไปเดลโตโรนี่ก็ถือเป็นตัวร้ายที่ดูเด่นน้อยกว่าตัวร้ายหลักในภาคอื่นๆ ครับ

หนังกำกับโดย George McCowan ที่มักจะทำหนังทีวีและซีรี่ส์เป็นส่วนใหญ่ แต่ผมก็เผอิญได้มีโอกาสดูหนังของเขาอยู่ครับ นั่นคือเรื่อง Frogs หนังสัตว์โลกน่ารักว่าด้วยกบพันธุ์ดุที่ไล่ฆ่ามนุษย์ และให้บังเอิญเหลือเกินที่ Frogs ออกฉายปีเดียวกับหนังเรื่องนี้ด้วย ซึ่งผมก็พูดได้แบบเต็มปากเต็มคำล่ะครับว่า The Magnificent Seven Ride! เรื่องนี้เวิร์กกว่า Frogs เยอะ

และในเรื่องเราจะได้เห็น Gary Busey ในวัยละอ่อนร่วมแสดงด้วยครับ ในบทแฮงค์ เพื่อนวายร้ายอีกคนของเชลลี่ (Darrell Larson) โจรหนุ่มที่แว้งกัดคริสนั่นแหละ

ของดีอีกอย่างในหนังคือดนตรีของ Elmer Bernstein ที่ถือว่าเด่นในภาคนี้ครับ นอกจากธีมประจำที่แสนคลาสสิคแล้ว ดนตรีช่วงที่เหล่าตัวละครใช้ชีวิตก็ถือว่าบรรเลงได้อย่างพอเหมาะ เสริมอารมณ์ให้หนังได้ไม่น้อย

สรุปว่าหนังชุดนี้นี่ ภาค 2 – 3 – 4 จริงๆ ก็ไม่ลี้กันนักครับ อาจมีจุดเด่นจุดด้อยต่างกันไป แต่ถ้าคิดสะระตะแล้วผมว่าพอๆ กัน คือดูได้แบบเพลินๆ – แต่ถ้าว่าตามความชอบส่วนตัวแล้ว ผมออกจะเทคะแนนให้กับภาคนี้มากกวา 2 ภาคก่อนหน่อยครับ

สองดาวกว่าๆ ครับ

Star21

(6.5/10)