Totally Killer รวมเอาของชอบของผมไว้ในเรื่องเดียวครับ นั่นคือหนังแนวไล่เชือดมาบวกเข้ากับหนังไซไฟย้อนเวลา และผลที่ได้ออกมาก็สนุกใช้ได้อีกด้วย

ตัวเอกคือ เจมี่ ฮิวจ์ส (Kiernan Shipka) สาวน้อยที่มีเหตุให้ต้องย้อนเวลากลับไปเมื่อ 35 ปีก่อน ซึ่งตอนนั้นมีฆาตกรฉายาว่า “ฆาตกรสาว 16” ออกอาละวาด และมันได้ลงมือสังหารเพื่อนๆ ของแม่เธอตายถึง 3 คน ดังนั้นพอเจมี่ได้ย้อนเวลามา เธอเลยหมายมั่นจะช่วยชีวิตคนเหล่านั้นให้ได้ และขณะเดียวกันก็ต้องหาทางกลับไปสู่ช่วงเวลาเดิมของเธอด้วย

ผมเลือกที่จะเล่าเรื่องแบบคร่าวๆ นะครับ เพราะเอาเข้าจริงแล้วพล็อตมันจะมีรายละเอียดมากกว่านี้ แต่ผมว่าท่านไปดูกันเอง ไปเก็บรายละเอียดเองน่าจะสนุกกับหนังได้มากกว่า เพราะผมเองก็รู้พล็อตแค่ที่บอกเหมือนกันครับ เลยทำให้พอได้ดูจริงๆ แล้ว พอเจออะไรอีกหลายอย่างที่ไม่ได้คาดไว้มันเลยแอบเซอร์ไพรส์หน่อยๆ แล้วก็รู้สึกบวกกับหนังมากขึ้นด้วยเหมือนกัน

ผมชอบเลยครับ หนังสนุกดี ถือว่าทำได้กลมกล่อมทั้งในส่วนของหนังเชือดและหนังไซไฟ ซึ่งถ้าว่ากันถึงส่วนผสมแล้ว หนังดูจะเทน้ำหนักไปที่ไซไฟเยอะกว่านิดนึงครับ ซึ่งผมว่าก็โอเคนะ เพราะมันมีอะไรให้เล่นเยอะกว่าน่ะครับ เอาแค่มุกแซวหนัง Back to the Future ไล่มาถึง Avengers: Endgame นี่ก็น่าจะทำให้คนชอบหนังไซไฟอมยิ้มได้พอสมควรแล้ว และพล็อตในส่วนของไซไฟนี่ยังนำมาสู่เงื่อนไขความตื่นเต้นความลุ้นให้กับหนังอย่างได้ผลอีกด้วย ตอนท้ายนี่หนังดูมันส์ขึ้นก็เพราะความไซไฟนี่แหละครับ

ในขณะที่ความเป็นหนังเชือดก็ถือว่าโอเคครับ มีการล้อเอาล่อเอาเถิดกับสูตรของหนังเชือดอยู่บ้าง ก็ถือว่าพอเพลินๆ ส่วนดีกรีความโหดก็ถือว่าประมาณหนึ่ง ไม่ได้แหวะมากจนต้องเบือนหน้า เรียกว่าคนขวัญอ่อนก็น่าจะพอดูได้ครับ ไม่ได้น่ากลัวหรือโหดจนเกินไป

ผมมองว่าบทเขียนมาดีครับ สามารถจับลูกเล่นทั้งหนังไซไฟและหนังไล่เชือดแบบตามหาฆาตกรมาเขย่าเข้ากันได้แบบพอเหมาะ แล้วรสมือของผู้กำกับ Nahnatchka Khan ก็ถือว่ากำลังดีด้วย คือหนังอาจไม่ได้สุดยอดสุดเยี่ยมน่ะนะครับ แต่มันสนุก มันดูเพลิน มันจะมีอะไรดึงดูดชวนให้เราตามดูหนังไปเรื่อยๆ ในทุกๆ ฉาก หนังเลยดูมีอะไรครับ ไม่โล่งโถงและไม่น่าเบื่อ

ด้านดารานี่ Shipka ถือว่าเอาอยู่ครับ ความน่ารักนี่ไม่ต้องพูดถึง ส่วนการแสดงก็ถือว่าทำได้ดี ดูเหมาะกับการเป็นตัวนำและคาแรคเตอร์ของเธอก็ดูนำชาวบ้านได้จริงๆ และโดยส่วนตัวนี่ผมว่าตัวละครอื่นๆ นี่จะดูน่าสนใจขึ้นเสมอยามประกบกับเธอน่ะครับ เธอจะส่งพาวเวอร์บางอย่างไปให้กับตัวละครแวดล้อม พลอยทำให้พวกเขาดูมีอะไรตามขึ้นมาในฉากนั้นๆ นี่หมายถึงเหล่าตัวละครวัยรุ่นน่ะนะครับ

ตัวละครรุ่นใหญ่นี่ก็น่าจตจำทุกคน อย่าง Julie Bowen นี่ผมว่าเธอดูเป็ณคุณแม่ที่น่ารักน่ะครับ ดูแล้วเชื่อจริงๆ ว่าเธอรักลูกสาวคนนี้มากเหลือเกิน ส่วน Jonathan Potts เจ้าของบทคริส ดูบาซาจ รายนี้ก็เพิ่มความน่าติดตามให้กับหนังได้ไม่น้อยเหมือนกัน และอีกคนที่อาจไม่ได้มีบทเด่น แต่ผมชอบพี่แกเป็นการส่วนตัวก็คือ Lochlyn Munro ที่ผมว่าผมเจอหน้าพี่แกบ่อยมากนะ และแม้บทที่เขาแสดงจะไม่ได้เด่นอะไรมาก แต่เขาก็จะสามารถทำให้ตัวละครของเขาเป็นที่จดจำขึ้นมาได้ไม่มากก็น้อยเสมอ

สรุปได้ว่าหนังสนุกครับ เป็นการผสมของดีระหว่างหนังย้อนเวลาและหนังเชือดที่กลมกล่อมพอตัว อาจไม่ถึงขั้นขึ้นหิ้งแต่ก็ตอบโจทย์ได้ตรงเป้าไม่น้อย และความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมว่าเรื่องนี้เป็นหนึ่งในหนังสนุกที่น่าจดจำจากค่าย Blumhouse และผมว่ามันสนุกกว่าหนังของ Blumhouse ที่เข้าโรงหลายๆ เรื่องซะอีก

ไม่รับประกันว่าทุกท่านจะชอบ แต่หากใครชอบหนังย้อนเวลาและชอบหนังไล่เชือด ผมอยากให้ท่านลองลิ้มสักครั้งคราครับ

ถูกใจแบบนี้ ต้องสองดาวครึ่งครับ

(7/10)