Horror

Truth or Dare (2018) จริงหรือกล้า… เกมสยองท้าตาย

Untitled06500

Truth or Dare นี่ตั้งใจจะดูเอามันส์ครับ แล้วก็ได้ไปตามนั้น ดูหนึ่งจบก็ได้มาหนึ่งเพลิน

หนังว่าด้วยวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งไปเที่ยวเฮ้วกันช่วงวันหยุด แล้วก็เจอชายแปลกหน้ามาชวนไปเฮ้วกันต่อที่อาคารร้างแห่งหนึ่ง ก่อนที่จะพบว่าพวกเขาถูกหลอกให้ไปร่วมเล่นในเกมมรณะ Truth or Dare ที่หากใครไม่เล่นก็จะต้องพบกับความตาย แน่นอนว่าหลังจากนั้นก็มีตายกันไปหลายศพครับ คนที่เหลืออยู่ก็ต้องพยายามไขปริศนาหาที่มาเพื่อหยุดเรื่องบ้าๆ นี่ให้ทันก่อนชีวิตจะหาไม่

ข้อคิดแรกที่หนังให้คือ “อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน” ครับ ใครที่แปลกหน้ามาแล้วจู่ๆ ชวนเราไปทำอะไรนี่ต้องคิดให้จงหนักเลยว่ากำลังจะพาเราไปเจอเรื่องเดือดร้อนหรือเปล่า แล้วถ้าจะเฮ้วก็ควรจะเฮ้วในที่ที่มีผู้คนขวักไขว่ ไปที่เปลี่ยวๆ ตอนค่ำมืดมันเสี่ยงภัย หากไม่เจอสัตว์ร้ายก็อาจเจอคนร้าย (หรือสิ่งที่ร้ายกว่านั้น) รอจะขย้ำเราอยู่ก็ได้

แต่ผมโอเคอย่างหนึ่งที่หนังพยายามปูตั้งแต่ต้นแล้วว่าวัยรุ่นกลุ่มนี้รักสนุกจนลืมเป็นลืมตาย หมายจะเมาปลิ้นให้สุดซอย ความระแวดระวังภัยไม่สูงนัก จนสุดท้ายก็นำพาชีวิตไปเจอเรื่องแบบนี้ ในทางหนึ่งก็เหมือนเล่าเป็นอุทาหรณ์เตือนใจคนน่ะครับว่าทำอะไรควรมีสติเข้าใจ อยากสนุกอยากเฮ้วก็ควรมีขอบเขต ซึ่งขอบเขตที่ว่านี่ก็จะช่วยกันเราไม่ให้ไปทำให้ใครเดือดร้อน และป้องกันไม่ให้เรื่องเดือดร้อนพุ่งเป้ามาสู่เรา

ส่วนตัวหนังนั้นผมมองว่าเป็นเหมือนเวอร์ชั่นหนึ่งของ Final Destination น่ะครับ ที่คนต้องมาโดนไล่ล่าฆ่าแบบเรียงลำดับ แล้วฉากการตายก็จะต้องสยองสักหน่อย ประเภทนอนหลับแล้วตายไปอย่างสงบนี่ไม่มีครับ มันต้องหวาดเสียวเฉี่ยวไส้ หรือไม่ก็ต้องตายท่ายากเพื่อดึงดูดความสนใจให้กับหนัง ก็เรียกว่าลงสูตรตามนั้นครับ แต่ในแง่ของความตื่นเต้นเร้าใจและความน่าติดตามแล้ว ยังสู้ FD ไม่ได้ครับ

Untitled06501

หนังกำกับโดย Jeff Wadlow ซึ่งจะว่าไปนี่ผมดูหนังของเขาเกือบทุกเรื่องนะ ตั้งแต่ Cry Wolf, Never Back Down, Kick-Ass 2, True Memoirs of an International Assassin และ The Curse of Bridge Hollow ผลงานของเขาก็กลางๆ ครับ ดูได้แต่อาจไม่ถึงกับโดนใจมากมาย เรื่องนี้ก็ประมาณนั้น ดูได้เรื่อยๆ แต่ไม่ได้ตื่นเต้นเร้าใจอะไรมาก เรียกว่าถ้าใครเป็นคอหนังสยองและไม่คาดหวังหนังมากจนเกินไป ก็น่าจะพอกล้อมแกล้มไปกับเรื่องนี้ได้บ้างครับ

แต่หากใครจะรู้สึกเฉยๆ ก็ไม่ถือว่าแปลกอะไรครับ เพราะหนังก็ไม่ได้มีอะไรที่เด่นมากพอ แล้วยอมรับว่าแอบแหม่งๆ เรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครด้วย – โดยเฉพาะระหว่างโอลิเวีย (Lucy Hale) กับมาร์กี้ (Violett Beane) ที่หนังสื่อเหมือนว่าพวกเธอจะซี้กันสุดๆ แต่บางช่วงบางตอนมันก็แอบขัดๆ น่ะครับ กลายเป็นว่ามันดูกึ่งจริงกึ่งไม่จริงยังไงก็ไม่รู้ – ซึ่งก็ส่งผลถึงตอนจบด้วยน่ะครับ มันรู้สึกแหม่งๆ น่ะ

ส่วนเบื้องหลังในการทำหนังเรื่องนี้ ว่ากันว่า Wadlow เดินเข้าไปหา Jason Blum เพื่อเสนอว่าจะทำหนังเรื่องนี้ โดยเขาบอกชื่อเรื่องและเอาฉากตอนต้นเรื่องไปเปิดให้ Blum ดู แล้วจากนั้นไม่นาน Blum ก็ตกลงเซ็นต์สัญญาให้ Wadlow ทำหนังเรื่องนี้ครับ เดาว่า Blum คงมองว่าชื่อมันขาย และแนวหนังก็ขาย ยังไงก็มีโอกาสทำเงิน

แล้วผลที่ได้ก็ตามนั้นครับ หนังทำเงินทั่วโลกไป $95 ล้าน ในขณะที่ทุนสร้างน่ะเพิ่งจะ $3.5 ล้านเท่านั้น กำไรไม่รู้กี่เท่ากันเลยล่ะครับ

สรุปว่าหนังก็ดูได้แบบไม่คาดหวังครับ แต่สิ่งที่ผมอยากให้คนที่ดูใส่ใจมากกว่าคือเรื่องสติครับ ทำอะไรควรมีสติ อย่าเอาแต่สนุก เอาแต่ความมันส์เพียงอย่างเดียว เพราะคนมากมายต้องสูญเสียชีวิตไปก็เพราะทำอะไรโดยขาดสติและความยั้งคิดนี่แหละ

ไม่ถึงสองดาวครับ

Star12

(5.5/10)