The Kingdom of Ingredients เป็นรายการสารคดีเกี่ยวกับอาหารจากประเทศญี่ปุ่นครับ ซึ่งเรื่องของกินนี่ของชอบของผมอยู่แล้ว และกลายเป็นว่าผมตกหลุมรักสไตล์ของรายการนี้ครับ การนำเสนอมันช่างละมุนละม่อม บางครั้งก็เรียบง่าย บางครั้งก็กินใจ หรือบางตอนก็ทำเอาน้ำตาซึมไปเลยก็มี

โดยแกนหลักแล้วรายการนี้จะนำพาเราไปรู้จักกับวัตถุดิบขึ้นชื่อตามเมืองต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น ถ้าจะบอกว่ารายการนี้ทำออกมาเพื่อโปรโมตการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นก็คงไม่ผิดอะไรครับ เพราะดูแล้วทำให้อยากไปเที่ยวจริงๆ ยิ่งได้เห็นเมนูอันหลากหลายแล้วคนชอบกินอย่างผมนี่ก็อุดมไปด้วยความสุขเลยล่ะครับ แค่เห็นก็ฟินในระดับหนึ่งแล้วน่ะว่าอย่างนั้นเถอะ

และสิ่งที่ผมชอบคือรูปแบบการนำเสนอครับ คือรายการไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาโฆษณาวัตถุดิบหรืออาหารเพียงอย่างเดียว โทนจะออกมาในแนวสารคดีที่สอดแทรกเรื่องราวชีวิต แพทเทิร์นแต่ละตอนจะคล้ายกันครับ เปิดมาก็แนะนำให้เรารู้จักกับวัตถุดิบประจำตอน ก่อนจะบอกเล่าถึงประวัติของวัตถุดิบนั้นๆ บางครั้งก็เป็นการเล่าประวัติศาสตร์ หรือบางครั้งก็เป็นการเล่าที่มาที่ไปของผู้ผลิต ซึ่งเส้นทางของพวกเขาไม่ได้โรยด้วยกลับกุหลาบเลยครับ บางคนล้มแล้วล้มอีก บางคนเรียนผิดเรียนถูกหลายปีมากๆ กว่าจะเจอวิธีที่ถูกจริงๆ

มีหลายตอนครับที่ทำเอาน้ำตาซึม อย่างเรื่องคนปลูกถั่วงอกเป็นต้น สารภาพเลยครับว่าชีวิตนี้ไม่เคยนึกมาก่อนว่าจะต้องมาน้ำตาไหลยามได้ฟังเรื่องเล่าเกี่ยวกับการปลูกถั่วงอก – ตอนที่ว่านี่รายการทำได้ถึงอารมณ์มากจริงๆ ครับ

ถัดจากแนะนำวัตถุดิบแล้วก็จะเป็นการเอาวัตถุดิบนั้นๆ มาปรุงเป็นอาหาร ซึ่งคนที่ทำอาหารก็มี Story อีกเช่นกันครับ และหลายเรื่องราวก็ทำให้คนดูอย่างเราๆ รู้สึกประทับใจ เช่น เชฟที่ตั้งใจทำอาหารให้แม่ได้ลองทาน โดยเขาเอาเมนูที่แม่เคยทำให้กินตั้งแต่สมัยเด็กๆ มาดัดแปลงเพิ่มเติมแล้วนำมาเสิร์ฟให้แม่ได้ทาน แบบนี้เป็นต้นครับ ซึ่งการนำเสนอเป็นไปอย่างกลมกล่อม น่ารัก อบอุ่น ยิ่งดนตรีประกอบนี่ยิ่งต้องยกนิ้วให้เลยครับ เพราะไพเราะและกินใจ หลายท่วงทำนองก็ยิ่งทำให้ภาพการทำอาหารมีความละมุนละไมงดงามมากยิ่งขึ้น

และที่ผมชอบที่ชอบสุดคือเพลงตอนจบของแต่ละตอนครับ ท่วงทำนองดีมาก อบอุ่น อ่อนโยน และเชื่อว่าจะทำให้หลายท่านคิดถึงรสมือของแม่หรือใครก็ตามที่เคยทำอาหารหล่อเลี้ยงชีวิตเรามาตั้งแต่ยังเด็ก แม้ผมจะฟังภาษาญี่ปุ่นไม่ออก แต่ท่วงทำนองมันสวยงามและชวนให้รำลึกถึงวันเก่าๆ ในชีวิตของเราจริงๆ

ผมมั่นใจว่ารายการนี้จะสร้างแรงบันดาลใจให้ท่านครับ ทั้งที่เป็นนักกินและนักปรุง สำหรับนักกินแล้ว ดูแล้วท่านจะได้แรงบันดาลใจในการกิน ได้เป้าหมายเมนูที่ต้องลองให้ได้ในชีวิตนี้ ส่วนท่านที่เป็นนักปรุง ผมก็เชื่อว่าดูแล้วท่านจะได้แรงบันดาลใจด้านไอเดีย ได้เมนูอาหารที่เห็นแล้วอยากลองทำ ไม่ว่าจะทำเพื่อท้าทายตนเอง เพื่อฝึกปรือเปิดโลกเพิ่มทักษะการปรุง หรือเพื่อตั้งใจทำให้ใครสักคนที่มีความสำคัญต่อคุณได้ลองทานสักครั้ง

และสำหรับผู้ประกอบการ อีกทั้งคนทำงานทั้งหลาย ผมก็เชื่อว่าท่านจะได้แรงบันดาลใจอีกเช่นกัน เพราะหลาย Story ที่นำมาเล่าก็บอกเล่าเรื่องราวการสู้ชีวิตของคน ความอดทนและพยายามฟันฝ่ากว่าจะได้พบความสำเร็จ ซึ่งมันไม่ได้มาแบบง่ายๆ ครับ

มีความสุขครับ บอกได้เลยว่าผมมีความสุขตลอดการดู ทั้งอิ่มตาและอิ่มใจ แต่อาจจะทรมานท้องสักหน่อยเพราะเห็นแล้วก็ทำให้หิวอยู่เหมือนกัน ยิ่งดูตอนดึกๆ นี่น่าจะทรมานเยอะหน่อยครับ ดังนั้นแนะนำว่าถ้าทำได้ให้ดูตอนเช้าๆ ครับ จะได้ไปตั้งเป้าหาของกินตอนกลางวันหรือตอนเย็น

ดูแล้วเหมือนได้พักผ่อนครับ อย่างที่บอกว่ารายการนำเสนอแบบละมุนละม่อม ให้ความรู้สึกสบายๆ และผ่อนคลาย อีกทั้งโทนของรายการยังกล่อมเกลาจิตใจให้สงบอีกด้วย

เป็นอีกรายการที่ผมดูทาง True Visions ครับ แล้วก็ไปค้นจนพบว่ามันมีให้ดูย้อนหลังทาง TrueID ด้วย แต่ผมอาจจะเอามาบอกช้าไปหน่อยเพราะรายการชุดนี้จะฉายถึงแค่วันที่ 31 ตุลาคม 2566 นี้เท่านั้น เอาเป็นว่าใครชอบแนวนี้และอยากลองลิ้มก็ยังพอมีเวลาไปลองได้ครับ

สามดาวครับ

(8/10)