ตอนดู Chicken Run รอบแรกผมก็ว่าหนังฮาดีครับ ดูสนุกดูเพลิน คลายเครียดได้เข้าท่าทีเดียว มาตอนนี้ 23 ปีผ่านไปก็ได้ข่าวว่าจะมีภาคต่อตามออกมาก็เลยเอาภาคแรกมาย้อนดูอีกสักหน ผลที่ได้ก็ยังคงสนุกสนานเหมือนเดิม

พล็อตเรื่องนี่คนทำก็เข้าใจคิดดีครับ เรื่องเกิดในฟาร์มของคุณนายทวีดดี้ครับ เมื่อพวกไก่ไม่อยากอยู่ในเล้าเพื่อรอวันโดนเชือด แม่ไก่สาวนามว่าจินเจอร์เลยเป็นหัวหอกในการวางแผนแหกเล้าหนี แต่หนีกี่ทีก็ไม่สำเร็จสักหน จนกระทั่งวันหนึ่งฟ้าก็ส่งไก่หนุ่มสัญชาติมะกันอย่างร็อคกี้ร่อนเข้ามาในเล้า จินเจอร์ก็คิดว่าร็อคกี้น่ะบินได้เลยขอให้เขาช่วยสอนวิธีบินให้เหล่าแม่ไก่ที และนั่นล่ะครับคือจุดเริ่มของยุทธการแหกเล้าอันชวนลุ้นและแสนจะวุ่นวาย

ก็เป็นแอนิเมชั่นสนุกสนานตามสไตล์อังกฤษครับ มุกจะไม่ได้ห่ามหื่นทะลึ่งทะเล้นอะไร ออกแนวจิกกัดเสียดสีเสียมากกว่า โดยเจตนาหลักของหนังคือการทำออกมาล้อเลียนหนังคลาสสิกอย่าง The Great Escape ซึ่งมันก็ฮาดีครับ ฮาตั้งแต่ช่วงต้นๆ กับสารพัดมุกในการแหกเล้า และหน้าตาของเหล่าไก่นี่ก็ต้องนับถือในการออกแบบเลยครับ เพราะดูเป็นไก่ที่มีเอกลักษณ์ มีทั้งความน่ารักและกวนๆ ผสมกันอยู่ในที ซีนประเภทไก่ตีหน้าตายทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้นี่มันเรียกเสียงฮาได้แบบธรรมชาติครับ แต่พอถึงซีนอารมณ์ประเภทไก่หลั่งน้ำตานี่ก็ทำเอาอึ้งไปเหมือนกัน

โดยส่วนตัวผมชอบแอนิเมชั่นแบบสต็อปโมชั่นครับ มันดูคลาสสิก มีเสน่ห์ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และอาจจะเพราะยุคที่ผมโตมามันได้สัมผัสกับแอนิเมชั่นสต็อปโมชั่นอยู่บ่อยๆ น่ะครับ จำได้เลยว่าการ์ตูนฉายคั่นเวลาของทีวีสมัยก่อนบางช่องหรือบางหัวม้วนวีดีโอนี่ก็มาเป็นเรื่องสั้นแบบสต็อปโมชั่น มันเลยให้อารมณ์ย้อนรำลึกถึงวันเก่าๆ ครับ มันคือความคุ้นเคยที่แสนหวาน

ผมเลยชอบหนังเรื่องนี้ใน 2 มุมครับ มุมของตัวหนังเองที่ทำออกมาได้สนุกดีก็มุมหนึ่ง อีกมุมหนึ่งก็ในมุมรำลึกอดีตเมื่อวันวาน ดูแล้วมีความสุขในใจ ทำให้เรายิ้มได้ตลอดการรับชม

อีกอย่างคือผมชอบเสียงพากย์ด้วยครับ ชอบทั้งแบบพากย์ต้นฉบับและพากย์ไทยเลย เพราะพากย์ฝรั่งนี่ก็ได้ Mel Gibson มาพากย์เป็นร็อคกี้ ส่วนพากย์ไทยก็เป็นเสียงของพี่จักรกฤษณ์ ฟังแล้วลื่นไหลดีจริงๆ

จำได้เลยว่าตอนออกฉายนั้นผมก็ลุ้นนะว่าหนังจะทำเงินไหม ผลก็คือหนังทำเงินเฉพาะในอเมริกาถึง $106 ล้าน ส่วนรายได้ทั่วโลกก็ $224 ล้าน ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างดีครับเพราะหนังลงทุนไปราว $45 ล้านเท่านั้น – รู้สึกยินดีครับที่หนังไปได้สวย

สรุปว่าหนังดูสนุก คลายเครียด เสียดสีกำลังดี

สองดาวครึ่งครับ

(7/10)