Chinese/Hong Kong/Taiwan Movies

สื่อรักสัมผัสหัวใจ (2006) 2 Become 1

Untitled06160

ช่วงนี้เหมือนจะได้ดูแต่หนังที่ไม่ตรงกับที่คาดครับ ประมาณว่าคาดเนื้อเรื่องไว้แบบหนึ่ง แต่พอได้ดูจริงๆ หนังเป็นอีกแบบหนึ่ง อย่างเรื่อง สื่อรักสัมผัสหัวใจ – 2 Become 1 นี่ก็เหมือนกัน

ตอนแรกผมนึกว่าเป็นหนังโรแมนติกครับ จริงๆ ชื่อหนังก็บอกแบบนั้นนะ 2 Become 1 ก็หมายถึง 2 คนรวมเป็นหนึ่งเดียวอะไรประมาณนั้น แต่เรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับ เป็นเรื่องของสาวออฟฟิศนามว่า เหลียงติงอ้าว หรือบิงโก (หยางเชี่ยนหัว, Miriam Yeung) ที่การงานก็ย่ำต้อกไม่ไปไหน เรื่องหัวใจเธอก็ยังติดอยู่กับความรักครั้งเดิม

ทีนี้อยู่มาวันหนึ่งเธอได้เจอกับวีไจ๋ (เยิ่นเสียนฉี, Richie Jen) แล้วก็ชวนกันไปที่ห้องของเธอ ในขณะที่กำลังจะทำอะไรต่อมิอะไรกันนั้น วีไจ๋ซึ่งเป็นหมอก็สัมผัสหน้าอกของบิงโกแล้วก็คิดว่าเธอน่าจะมีก้อนเนื้อ เลยบอกให้บิงโกไปหาหมอซะ ครั้นบิงโกไปหาหมอก็พบว่าเธอมีก้อนเนื้อจริงๆ ครับ แน่นอนว่าเธอตกอยู่ในความเศร้าและสิ้นหวัง จนถึงขั้นคิดสั้น แต่ก็มีวีไจ๋นี่แหละครับที่คอยเที่ยวไล้เที่ยวขื่อพยายามปลอบเธอ

ปกติผมมักจะปิดประโยคด้วยคำว่า “แล้วพวกเขาก็สานหัวใจเข้าหากัน” อะไรแบบนั้นใช่ไหมครับ แต่กับเรื่องนี้ผมจะไม่ปิดแบบนั้นนะ ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรก็ต้องตามไปดูกันครับ

ผมว่าหนังหนักไปทางดราม่ามากกว่าจะโรแมนติกครับ คือความโรแมนซ์น่ะก็มีบ้าง แต่หลักๆ หนังจะเน้นไปที่ห้วงอารมณ์และความรู้สึกที่สิ้นหวังของบิงโกหลังได้ทราบว่าเธอมีก้อนเนื้อที่หน้าอก และประเด็นส่วนใหญ่ในหนังก็จะว่าด้วยประเด็นนี้เป็นหลักครับ เช่น การที่บิงโกพยายามจะให้กำลังใจตนเอง, การพยายามรักษาโรคด้วยแพทย์แผนจีน หรือฝึกพลังชี่อะไรแบบนั้นเป็นต้น บางช่วงเธอก็สิ้นหวังจนไม่อยากอยู่อีกต่อไป ก่อนที่เธอจะคิดได้และพยายามยื้อชีวิตให้นานที่สุด หลักๆ หนังจะบอกเล่าเรื่องเหล่านี้มากกว่าจะเป็นห้วงโรแมนติกระหว่างพระ-นางครับ

ดังนั้นใครคาดหวังหนังรักสไตล์ฮ่องกงก็อาจต้องปรับความคิดสักหน่อยนะครับ เพราะในความคิดผมแล้ว ผมขอนิยามว่าหนังออกแนวให้กำลังใจกับคนที่ป่วยเป็นโรคร้ายมากกว่าครับ

Untitled06161

แต่พอมันเป็นแบบนั้น ก็เลยกลายเป็นว่าหนังไปไม่สุดเท่าที่ควรครับ โอเคแนวโรแมนซ์มันไปไม่สุดน่ะเข้าใจได้ เพราะหนังไม่ได้จะเน้นอยู่แล้ว แต่ก็กลายเป็นว่าหนังก็ไม่ได้หนักดราม่า ไม่ได้ตีประเด็นลงลึกเรื่องความทุกข์ของบิงโกจนสุดทาง และกลายเป็นว่าหนังก็แบ่งพื้นที่บางส่วนให้กับเนื้อเรื่องส่วนความรักระหว่างบิงดกกับวีไจ๋ แต่ก็เป็นไปแบบไม่สุด ไม่หวาน ไม่ซึ้ง ผลที่ได้โดยรวมของหนังเลยออกมากลางๆ น่ะครับ

แต่หนังก็มีหลายอย่างที่ผมชอบนะ อย่างฉากที่บิงโกกับวีไจ๋ไปกินข้าวที่บ้านครอบครัวของบิงโก แล้วบิงโกก็กำลังจะบอกทุกคนว่าเธอมีก้อนเนื้อ แต่กลายเป็นว่าคนในครอบครัวเธอไม่มีใครคิดจะฟังเลย ต่างคนต่างสนใจแต่เรื่องของตัวเอง จนสุดท้ายที่โต๊ะก็ไม่เหลือใครนอกจากหลานของบิงโกที่ยังไม่ประสาอะไร – มันก็สะท้อนถึงชีวิตคนที่ครอบครัวไม่ได้อบอุ่น ไม่ได้ใส่ใจกันได้ตรงไปตรงมาดี

แล้วก็มีช่วงที่บิงโกโดนหลอกโดยหมอปลอมครับ ฉากนี้ก็สะท้อนความจริงอีกเช่นกันว่าในโลกแห่งความจริงนั้น มีคนพร้อมจะฉวยโอกาสหากินบนความลำบากและคราบน้ำตาของคนอื่นอยู่มากมาย – ก็ควรระมัดระวังไม่ให้ตนเองต้องตกเป็นเหยื่อนะครับ อย่าด่วนเชื่อใจใครง่ายๆ โดยเแพาะพวกที่จะหลอกให้เราจ่ายเงินเนี่ย ต้องคิดให้ดีและศึกษาให้ดีเลยครับ

หนังก็ดูได้เรื่อยๆ ครับ เพียงแต่ยังไม่สุดไม่ว่าจะทางโรแมนซ์ ทางดราม่า หรือทางเบาสมองที่หนังพยายามผสมลงไป แต่กระนั้นผมก็มองว่าหนังมีประโยชน์ในแง่ของการเป็นหนังให้กำลังใจคนที่ป่วยและมีโรคร้ายน่ะครับ – หนังพยายามบอกให้เราสู้ต่อไป อย่าด่วนคิดสั้น อย่าสิ้นหวังง่ายๆ โดยเแพาะอย่างยิ่งคือ “แม้จะไม่มีใครห่วงเราก็เถอะ” เพราะผมเชื่อว่ามันมีจริงๆ ครับ คนที่ไม่มีใครห่วงเลย ไม่ว่าจะเพราะไม่มีเพื่อนที่ดี หรือครอบครัวแตกแยกก็ตาม แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ท่านยังมีตัวท่านเองอยู่ครับ อย่างน้อยขอให้ท่านรักตัวเองและห่วงตัวเอง – ไม่มีใครรักก็รักตัวเองนี่แหละ

สองดาวครับ

Star21

(6/10)