
และหนังชุดเล็กเซียวหงส์ฉบับเก่าก็ดำเนินมาถึงตอนสุดท้ายครับ อันเป็นตอนที่ยาวที่สุดด้วย
ภาคนี้ได้ดัดแปลงจากตอน หมู่ตึกภูตพราย อันเป็นนิยายตอนที่ยาวที่สุดของตัวละครนี้ เป็นเรื่องราวการผจญภัยของพี่เล็ก (หลิวสงเหยิน, Damian Lau) ที่ต้องหลบหนีการตามล่าของเทพกระบี่เป่าโลหิตไซมึ้งชวยเสาะ (หวงเหยียนเซิน, Yuan-Shen Huang) สาเหตุก็เนื่องมาจากพี่เล็กของผมดันไปทำอะไรซุนซิ่วแช ภรรยาสุดที่รักของไซมึ้ง ก็เลยโดนตามฆ๋า ทำให้พี่เล็กพลัดเข้าไปยังดินแดนที่เรียกว่า หมู่บ้านวิญญาณ สถานที่ลี้ลับที่มีบุคคลที่น่าจะตายไปแล้วตั้งมากมายไปรวมตัวกันอยู่
และเหนืออื่นใด พี่เล็กต้องเผชิญกับ เล่าเตาปาจือ (หรือ เจ้าพ่อดาบเก่า) หัวหน้าหมู่บ้านแห่งนี้ ที่เป็นยอดฝีมือและไม่เปิดเผยหน้าตาใดๆ
ปกปิดหน้าตาน่ะไม่เท่าไหร่ ปัญหาคือ เล่าเตาปาจือยังอำมหิตและมีแผนร้ายบางอย่างด้วยนี่สิครับ ทำให้เล็กเซียวหงส์ต้องหาทางยับยั้งก่อนจะสายเกินการณ์
ยอมรับว่าเพลงไตเติ้ลของภาคนี้ได้จังหวะตะลุยยุทธจักรมากๆ ครับ โทนมันเหมือนพวกหนังคาวบอยเหมือนกัน เพราะดีครับ เพราะมาก
ส่วนเรื่องราวนั้น ในช่วงต้นนี่เดินตามนิยายเป๊ะๆ เลยครับ ตอนแรกนึกว่จะไม่ดัดแปลงอะไร แต่ที่ไหนได้ช่วงท้ายนี่แปลงไปเยอะครับ ทั้งตัวคนร้ายและอะไร (แต่ไตเติ้ลดันบอกซะแล้วว่าใครทำ) ซึ่งโดยส่วนตัวผมชอบนะ เพราะตามนิยายน่ะ ตัวคนร้ายออกจะหักต่อความรู้สึกเหมือนกัน ส่วนในหนัง การที่ตัวร้ายเป็นบุคคลนี้ทำให้เรื่องลื่นขึ้น และหนังยังใส่อะไรลงไปเพื่อทำให้ช่วงท้ายเข้มข้นด้วย
ด้านนักแสดงนั้นผมว่าหายห่วงเลยนะ ทุกคนเล่นได้ดี คนในหมู่บ้านก็ดีครับ สาวๆ ในภาคนี้ผมว่าน่ารักเลยทีเดียวล่ะ แน่นอนครับ ไม่มากเท่าหลิวอี้เฟยหรอก (555) แต่ก็ถือว่าน่ารักเหมาะกับบทจริงๆ
ฉากแอ็คชั่นบู๊กันก็ถือว่าพัฒนาขึ้น รู้สึกว่าหนังภาคนี้ดูลงทุนขึ้นไม่น้อยล่ะฮะ
แต่ข้อเสียอาจจะมีบ้างในเรื่องการเดินเรื่องที่ไม่ทันใจวัยรุ่น ยิ่งคนที่เคยอ่านนิยายมาแล้วนี่คงเบื่อหน่อย เพราะมันเดาได้ แม้ตอนท้ายเรื่องจะไม่เหมือนนิยาย แต่ก็เดาได้อยู่ดี (เพราะหนังสมัยก่อนมันไม่หักมุมซับซ้อนมากมายหรอกครับ) ดังนั้นผู้ที่ไม่ได้อ่านนิยายมาก่อนน่าจะสนุกได้มากกว่านะครับ

เฮ่อ จริงๆ นี่ก็หนังเก่าแล้วล่ะครับ ไม่รู้ว่าจะมีใครสนใจใคร่ดูอะไรเท่าไหร่ คงมีแต่บ้าๆ อย่างผมนี่แหละที่จะตามไปดูอยู่ แต่ก็บอกไว้เป็นข้อมูลน่ะครับว่าหนังมันเรื่องเป็นไง น่าดูหรือไม่อย่างไร ก็ตอบได้ว่า ถ้าท่านชอบเล็กเซียวหงส์ก็ไม่เสียหลายที่จะดูสักคราครับ อรรถรสนั้นย่อมไม่เยี่ยมเลิศเท่านิยาย แต่ก็ถือเป็นหนังจีนยุคเก่าที่ดัดแปลงจากนิยายได้ดีเรื่องหนึ่งล่ะครับ อาจจะแพ้หนังสมัยใหม่ที่ Effect และฉากการต่อสู้ที่ถ้าเป็นหนังสมัยนี้คงบินเหนือยอดเมฆกันสนุกไปแล้ว อย่างในเล็กเซียวหงส์ ภาค 2 ฉบับของสิงค์โปร์น่ะ Effect กระจาย ฉากต่อสู้ทลายถล่มกำลังดีเลย แต่เนื้อหาความเข้มข้นต้องยกให้ฉบับเก่าครับ
โดยสรุป เท่าที่ผ่านมาสามภาค ตอนที่ผมชอบสุดก็หนีไม่พ้นตอน 2 ที่เอี๊ยบโกวเซี๊ยะตีกับไซมึ้งล่ะครับ เพราะมันส์และมีอะไรให้คิดเยอะดี และมีเรื่องมิตรภาพต่างๆ ด้วย
ผมก็ลองมาหาคำตอบกับตัวเองนะ ว่าทำไมถึงเฉยๆ กับภาคนี้ ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะ หากวิเคราะห์แล้ว จริงๆ เรื่องของพี่เล็กสองภาคก่อนที่สนุก ส่วนหนึ่งก็มาจากการแสดงสมทบครับ พวกบทฮวยมั่วเล้า (หวางวิ่นไฉ, Wan Choi Wong) ไรเงี้ย ภาคก่อนมีฮวยมั่วเล้าคอยประกบตบมุกตลอด มาภาคนี้พี่เล็กแกลุยเดี่ยวซะล่ะมากกว่า รสชาติสีสันเลยขาดหายไปไม่น้อย และภาคนี้แม้พวกเขาจะยังอยู่ และได้ซือคงเชียแซกับบักเต้าหยินมา แต่บทก็ไมได้ประกบกับพี่เล็กเท่าไหร่
เอาเป็นว่าถ้าท่านดูสองภาคก่อนแล้วชอบ จะตามมาดูภาคนี้ก็ได้ครับ แต่อย่าตั้งความหวังมากจนเกินไป แล้วท่านคงไม่ผิดหวังหรอก เพราะมันก็ได้ระดับมาตรฐานหนังสมัยเก่าน่ะแหละ
แต่ก็ขอบอกผู้ที่ใจเร็วหน่อยนะครับ ว่าหนังมันไม่เร็วอย่างใจท่านหรอกครับ หนังเก่าๆ ก็แบบนี้แหละ ถ้าหากรู้ว่าไม่ถูกเส้นกับหนังเก่าๆ ก็ไม่ว่ากันครับ แต่ถ้าท่านอยากลองเล็กเซียวหงส์ของแท้ รสเข้มดี แต่ไม่บู๊มันส์นะ ก็หยิบเรื่องนี้ไปดูได้
สองดาวครึ่งครับ

(7/10)










