Chinese/Hong Kong/Taiwan Movies

เจาะเวลาผ่าเซียน (2002) Second Time Around

Untitled06084

เรื่องนี้จริงๆ ดูน่าสนใจเพราะเป็นการเอาหนังแนวเล่นไพ่ตัดเซียนมาผสมกับแนวไซไฟแบบเจาะเวลาหาอดีต

เจาะเวลาผ่าเซียน เล่าเรื่องของหลี่เหยิน (เจิ้งอี้เจี้ยน, Ekin Cheng) ที่หมายจะไปโกยทรัพย์ที่ลาสเวกัสด้วยความเชื่อมั่นว่าโชคของเขานั้นดีสุดๆ ชนิดที่ไม่มีใครโค่นได้ เขาขอให้เพื่อนซี้ที่ชื่อหวังซิง (Ke Huy Quan) เอาเงินจากบ่อนที่ทำงานอยู่มาให้เขาใช้เป็นทุนครับ ทีนี้พวกเขาก็ไปลาสเวกัสเพื่อเล่นพนัน แต่ทุกสิ่งกลับไม่เป็นไปดังคาดจนทำให้หลี่เหยินต้องเสียเพื่อนไป

แต่แล้วหลี่เหยินก็สามารถย้อนเวลากลับไปได้ด้วยพลังของหินวิเศษที่เขาได้มาโดยบังเอิญครับ ย้อนกลับไปวันก่อนที่เขาจะไปพนันที่เวกัส เขาเลยกะจะใช้โอกาสนี้แก้ไขอดีตเปลี่ยนโชคชะตา

เอาเข้าจริงผมชอบโครงเรื่องนะ และชอบการแสดงของดาราทั้งหลายไม่ว่าจะเฮียเจิ้งที่นอกจากจะหล่อทุกเรื่องที่เล่นแล้ว มาดพี่แกตอนอยู่บนโต๊ะพนันก็ดูดีเอาเรื่อง โดยเฉพาะตอนพนันรอบหลัง (ตอนที่ย้อนเวลาไปแล้วได้เจอกับจีซัสอีกครั้ง) มาดพี่เขาเท่ห์มาก และเวลาพี่แกทำอะไรด้วยความมั่นใจนี่มันดูเท่ห์จริงๆ ครั้นพอถึงคราวที่เขาตระหนักว่าไม่สามารถคุมสถานการณ์ได้ แววตาท่าทางพี่แกก็จะออกอาการอีกเหมือนกัน ถือว่าแกเล่นได้หมดจริงๆ

อีกคนที่เป็นพลังสำคัญคือจางป๋อจือ (Cecilia Cheung) ครับ ในเรื่องเธอเป็นทีน่า ตำรวจสาวที่มาพัวพันกับชีวิตของหลี่เหยิน รายนี้ก็เหมือนกัน เล่นเรื่องไหนน่ารักได้ตลอด ครั้นจะแสดงอารมณ์ก็สามารถสื่อผ่านดวงตาได้อย่างดี บอกได้เลยครับว่าที่ผมนั่งดูหนังจนจบได้เนี่ย ความดีความชอบสำคัญต้องยกให้ 2 ดารานำคู่นี้เลย

Untitled06085

ในเรื่องเราจะได้เจอ Ke Huy Quan ด้วยครับ รายนี้จริงๆ ก็เล่นดีเสมอมา ในเรื่องนี่ก็ถือว่าเป็นบทสมทบที่เสริมอะไรๆ ให้หนังได้ไม่เลว ดูเป็นคนรักเพื่อนแบบจริงๆ จังๆ และจริงๆ แล้วเขายังมีปมอื่นๆ อีกครับ จริงๆ ปมนี้นี่สามารถลงลึกได้อีก เสียดายที่หนังจับมาเล่าแค่ผิวๆ เท่านั้น

อย่างที่บอกครับว่าโครงน่ะโอเค ตัวเรื่องน่ะน่าสนใจ แต่หนังยังเขย่าได้ไม่เข้าที่สักเท่าไร คือเรื่องราวส่วนของการพนันนั้นยังพอโอเคครับ แต่เรื่องในส่วนของไซไฟนี่แอบรู้สึกว่ามันดูมั่วๆ ยังไงก็ไม่รู้ เหมือนบทยังตีประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องการย้อนเวลาได้ไม่แตก มันเลยมีจุดโหว่เยอะพอสมควร และจุดอ่อนอย่างหนึ่งของหนังก็คือจุดอ่อนเดียวกับหนังจีนฮ่องกงหลายๆ เรื่องครับ นั่นคือการเดินเรื่องยังกระท่อนกระแท่น แล้วก็มีการแวะไปเล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ (ที่เอาเข้าจริงก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเล่า) ทำให้หนังออกนอกลู่ไปในหลายวาระ หนังเลยยังไม่กลมกล่อมเท่าที่ควร

นี่ก็คิดเหมือนกันครับว่าถ้าหนังเน้นเล่าเฉพาะโครงหลัก โฟกัสไปเลยที่เรื่องหลักอย่างเดียว ไม่ต้องเลี้ยวไปไหน และอุดจุดโหว่หลายๆ อย่างที่เกิดขึ้น หนังน่าจะเวิร์กกว่านี้ เพราะดาราน่ะไม่มีปัญหาครับ และโครงเรื่องน่ะจริงๆ ก็มีแก่นของมัน เพียงแต่การเล่าเรื่องมันยังว่อกแว่กไปหน่อยน่ะครับ

โดยรวมๆ แล้วหนังก็ถือว่าดูได้น่ะครับ สำหรับคนที่ชอบดาราหรือชอบหนังแนวไพ่ แต่ถ้าคาดหวังไซไฟย้อนเวลาแบบ Groundhog Day ล่ะก็ คงต้องปรับความคาดหวังให้ไวครับ เพราะหนังไปไม่ถึงจุดนั้น

สองดาวครับ

Star21

(6/10)