Christmas Movies

An Unexpected Christmas (2021) คริสต์มาสที่ไม่คาดคิด

Untitled05974

สำหรับผมแล้ว An Unexpected Christmas นี่มัน Unexpected สมชื่อครับ คือดูแบบไม่คาดหวังอะไรเลย แต่กลายเป็นว่าผมชอบแฮะ เป็นหนังรักเบาสมองวันคริสต์มาสที่ทำออกมาได้เข้าท่าเรื่องหนึ่งเลยล่ะ

เรื่องของเรื่องคือเจมี่ (Tyler Hynes) กับเอมิลี่ (Bethany Joy Lenz) เคยเป็นคู่รักกันครับ แต่เจมี่เป็นฝ่ายบอกเลิกไปเมื่อหลายเดือนก่อน แต่เขายังไม่ได้บอกให้คนในครอบครัวรู้ ทีนี้พอถึงช่วงคริสต์มาสเจมี่ก็กลับไปเยี่ยมครอบครัวตามปกติ แต่กลายเป็นว่าเอมิลี่มีงานต้องไปที่เมืองนั้นพอดี แล้วพวกเขาก็ดันไปถึงพร้อมกัน โดยที่มีครอบครัวของเจมี่รอรับอยู่ที่ปลายทาง

ทางครอบครัวของเจมี่ (ที่จริงๆ แล้วต่างก็ปลื้มและรักเอมิลี่มากๆ) ก็เลยเข้าใจผิดคิดว่าเจมี่และเอมิลี่มาด้วยกันและยังคงคบกันอยู่ แล้วเรื่องวุ่นๆ มันก็เริ่มจากตรงนั้นล่ะครับ

หนังลื่นกำลังดีครับ ดูเพลินมาก ดูได้สบายแบบเบาๆ ซึ่งจุดเด่นนี่ผมยกให้การแสดงของ Lenz ครับ เธอดูน่ารักแบบโก๊ะๆ แล้วก็ต้องทำอะไรแบบตกกระไดพลอยโจนอยู่ตลอดจนแอบขำไม่ได้ ส่วน Hynes ก็ถือว่าแสดงดีเช่นกัน แต่โดยส่วนตัวผมว่าเขาจะไม่ได้เด่นในเรื่องฮาๆ ครับ แต่จะเด่นตอนซีนอารมณ์หรือช่วงดราม่ามากกว่า – และในแง่ของเคมีแล้ว ทั้งสองก็ถือว่าโอเคในระดับหนึ่งครับ อาจไม่ถึงกับดูเข้ากันแบบสุดๆ แต่ผมว่าเป็นเพราะบทหนังนี่แหละที่เขียนสถานการณ์ต่างๆ ออกมาได้ดี ทำให้พวกเขาดูเหมาะกัน

ยอมรับว่าตอนแรกผมก็แอบกลัวนะครับ เพราะดูจากทรงหนังแล้วบทมักจะกำหนดให้ครอบครัวของเจมี่เป็นครอบครัวสายเยอะที่ทำอะไรเพี้ยนๆ ล้นๆ ที่กลัวก็คือหนังจะทำในจุดนี้ได้ออกมาพอดีไหม เพราะถ้าครอบครัวนี้ล้นเกินไป มันอาจกลายเป็นความน่ารำคาญได้ – แต่ผลก็คือ ครอบครัวของเจมี่เพี้ยนแบบพอดีๆ ครับ ช่วงต้นๆ อาจดูล้นๆ หรือยุ่งๆ เหมือนยุงตีกันอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มากเกินไป และพอถึงจุดหนึ่งหนังก็ทำให้เรารู้สึกครับว่าครอบครัวนี้จริงๆ น่ารักนะครับ เพียงแต่อาจมีการจุ้นบ้างอะไรบ้าง แต่ทุกคนล้วนแล้วแต่ปรารถนาดีต่อกันอย่างจริงใจ และที่สำคัญคือดูแล้วเชื่อครับว่าครอบครัวของเจมี่ปลื้มเอมิลี่มากจริงๆ

หนังถือว่าเล่าเรื่องได้แบบพอดีครับ โทนก็เบาๆ ดูง่าย หลายช่วงก็ฮาดี ถือว่ากลมกล่อมในระดับที่น่าพอใจ และจะว่าไปแล้วพล็อตของหนังเนี่ย ถ้ากะน้ำหนักไม่พอดี หนังก็อาจกลายเป็นน่าเบื่อหรือไม่ก็น่ารำคาญได้ อย่างการที่เจมี่และเอมิลี่ต้องโกหกครอบครัวนี่ก็ถือเป็นมุกสูตรสำเร็จอันหนึ่งเหมือนกัน และถ้าเล่าไม่ดี คุมน้ำหน้กไม่ดีล่ะก็ หนังอาจดู Feel Bad หรือ Feel Fake ไปเลยก็ได้ แต่กับเรื่องนี้ผมถือว่าน่าพอใจครับ ทำออกมากำลังเพลิน

จุดหนึ่งที่ผมชอบคือหนังค่อยๆ เผยเรื่องราวต่างๆ ให้เราทราบทีละนิดๆ อย่างเหตุผลที่เจมี่บอกเลิกเอมิลี่ หรือการที่เจมี่ยังไม่บอกกับครอบครัวว่าเขาเลิกกับเอมิลี่แล้ว อะไรเหล่านี้มันมีเหตุผลรองรับครับ และพอได้ฟังเหตุผลก็ถือว่าฟังขึ้นนะ ทำให้หนังดูมีรายละเอียดมากขึ้น มีปมให้เราคิด และมีการคลายปมให้เราเข้าใจภาพรวม – ซึ่งอะไรเหล่านี้ทำให้หนังน่าติดตามนะ และยังเป็นการค่อยๆ ดึงเราให้จมสู่เรื่องราวมากขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย

Untitled05975

แล้วหนังยังมีพล็อตรองอีกครับ อย่างเรื่องของเบคก้า (Alison Wandzura) พี่สาวของเจมี่ที่รายนี้ก็เคยผ่านประสบการณ์รักที่ไม่สมหวังมาเช่นกัน ซึ่งผมยอมรับเลยนะว่าตัวละครนี้มาแบบเนิ่บๆ นิ่งๆ แต่พอเราได้รู้ปูมหลังของเธอแล้ว มันอดไม่ได้ที่จะเห็นใจเธอ และอยากให้เธอได้พบเจอกับสิ่งดีๆ ได้ใครสักคนมาเติมเต็มชีวิต – ยอมรับเลยครับว่าผมยิ้มกว้างเลยตอนเธอได้พบ “ใครสักคน” ที่จะมาเติมเต็มชีวิตน่ะ – น่ารักครับ เป็นบทที่น่ารักมาก แล้วที่สำคัญคือเบคก้าคนนี้แหละที่คอยช่วยให้กำลังใจเจมี่อยู่เสมอ เป็นตัวละครหนึ่งที่ผมบอกได้เลยว่าชอบครับ

หนังกำกับโดย Michael Robison ซึ่งสำหรับผมแล้ว ผมคุ้นเคยกับเขามากในช่วงนี้ เพราะเพิ่งดูหนังที่เขากำกับติดกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 3 แล้วครับ (อีก 2 เรื่องคือ Christmas Takes Flight และ Romance in Style) ก็บอกได้ว่าผมชอบรสมือของเขาพอสมควรครับ จังหวะการเล่าเรื่องถือว่าดี เล่าแล้วชวนให้เราอยากติดตามไปเรื่อยๆ ตัวละครสมทบก็มีบทบาทช่วยชูรสหนังได้พอสมควร ดูแล้วให้ความรู้สึก Feel Good แล้วผมก็เลือกที่จะดูหนังเรื่องนี้ยามเช้าก่อนเริ่มทำงานครับ ผลลัพธ์เลยกลายเป็นความสุขและอิ่มใจ เป็นการเริ่มต้นวันด้วยรอยยิ้มที่ดีจริงๆ

ในเรื่องของแง่คิดนั้น มันอาจไม่ได้ลึกซึ้งอะไรแบบจัดๆ ครับ แต่ก็เป็นแง่คิดขาประจำสำหรับหนังคริสต์มาส นั่นคือเรื่องของครอบครัวครับ ซึ่งผมมองว่าเป็นหนึ่งในแหล่งสร้างพลังใจแหล่งสำคัญของคนเราเลยนะ คือถ้าใครมีครอบครัวน่ารักที่คอยให้กำลังใจกัน คอยให้คำปรึกษากัน และช่วยเหลือเกื้อกูลกันนั่นถือว่าเป็นโชคดีอย่างยิ่งจริงๆ ครับ – ดูแล้วก็เป็นการกระตุ้นเตือนให้เราเห็นความสำคัญของครอบครัว และอยากมอบความปรารถนาดีให้คนรอบตัวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือถ้ามีปัญหาคาใจก็คุยกันไปตรงๆ ครับ แล้วก็ต้องเปิดใจให้กว้างเพื่อที่เราจะได้มีมุมมองที่หลากหลาย เอาใจเขามาใส่ใจเรา อะไรประมาณนี้ครับ

เกร็ดเล็กๆ ที่อยากเล่าคือหนังมี Cameo เล็กๆ ครับ นั่นคือ Andrew W. Walker หนึ่งในพระเอก Hallmark โผล่เข้าในฉากตอนที่เจมี่กับเอมิลี่ไปดินเนอร์กัน ซึ่งเดาว่า Hynes กับ Walker น่าจะมีการตกลงว่าจะแอบรับเชิญให้กันและกัน เพราะใน My Christmas Family Tree หนังอีกเรื่องที่ Walker แสดงนำนั้น Hynes ก็ไปโผล่แว้บๆ ด้วยเหมือนกัน ก็เป็นกิมมิคชวนให้แฟนหนัง Hallmark ยิ้มกันครับ

ผมไม่อาจการันตีได้ครับว่าทุกท่านจะสนุกกับหนังเรื่องนี้แบบที่ผมสนุกไหม แต่ยืนยันได้ว่าผมชอบครับ ดูแล้วสนุก มีความสุข อบอุ่นใจ และได้พลังบวกเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนชีวิตต่อไปอีกวัน ดังนั้นผมเลยอยากเอามาแนะนำครับ เอาเป็นว่าใครชอบหนังดูรักเบาสมองหรือหนัง Hallmark ล่ะก็ เรื่องนี้อยากได้ลองลิ้มกันครับ

สองดาวครึ่งเลยครับ

Star22

(7/10)