Army of the Dead นี่ก็ดูได้เรื่อยๆ ตามที่คาดน่ะครับ คือไม่คิดว่ามันจะสนุกมากมายแบบ Dawn of the Dead หนังแจ้งเกิดเรื่องแรกของพี่ Zack Snyder อยู่แล้ว ในใจขอเพียงให้ออกมาเพลินได้ก็พอ แล้วหนังก็ออกมาประมาณนั้นน่ะแหละครับ

ยอมรับว่าสะอึกกับความยาวของหนังเหมือนกันครับ ตั้ง 2 ชั่วโมงครึ่งแน่ะ (การเคลียร์เวลาเพื่อดูหนังเรื่องนี้เลยเป็นโจทย์สำหรับผมเหมือนกัน) ดูเหมือนพี่ Zack แกจะเพลินกับของยาวๆ แล้วล่ะคับ 555 ทำหนังระยะหลังนี่ยาวทุกที ในแง่หนึ่งก็ดีครับเพราะนี่คงเป็นฉบับเต็มของหนังที่ได้ถ่ายทอดออกมาตามความตั้งใจของพี่เขา อยากใส่อะไรก็ใส่ลงมาให้ครบ คนดูอย่างเราก็จะได้ไม่ต้องดูหลายจบ ไม่ต้องมานั่งเก็บ Director’s Cut อีกรอบ

ผมว่าหนังโอเคในระดับกลางๆ ครับ คือไม่ได้เจ๋งสุดๆ แต่ก็ไม่ผิดหวังอะไร ช่วงต้นๆ ก็แนะนำตัวละครกันไป พอตอนกลางๆ ก็จะเริ่มเข้าไปผจญในแดนซอมบี้ ก่อนที่ตอนท้ายเรื่องราวก็จะถึงไคลแม็กซ์หนีซอมบี้กันสุดชีวิต ซึ่งทั้ง 3 ช่วงที่ผมว่า หนังก็อยู่ในระดับกลางๆ น่ะครับ อย่างตอนแนะนำตัวละครก็เป็นการแนะนำแบบพอให้เห็นหน้าเห็นตา แต่ในแง่คาแรคเตอร์ก็ยังไม่เด่นอะไร ไม่ได้มีลูกเล่นอะไรให้เราจดจำตัวละครได้แบบแม่นๆ ยกเว้นถ้าใครดูเด่นก็จะเด่นทันที อย่างบทสก็อตต์ของพี่ Dave Bautista, บทจอมเนิร์ดนักงัดตู้เซฟของ Matthias Schweighöfer หรือบทเจ๊เท่ห์นักขับฮอของ Tig Notaro ที่บุคลิกเตะตาทันทีที่เข้าฉาก

ส่วนช่วงบุกแดนซอมบี้ ช่วงนี้ออกจะเรื่อยกว่าที่คาด คือถ้าใครคาดหมายว่าซอมบี้จะมาเยอะๆ แล้วตัวละครก็ต้องลุยแบบรัวกระสุนจนหอบแฮ่กแบบหนังหลายๆ เรื่อง ก็ต้องบอกไว้ก่อนว่ามันไม่ใช่แบบนั้นครับ หนังแทนที่ด้วยประเด็น “วิวัฒนาการของซอมบี้” ลงไปแทน ประมาณว่ามันจะมีซอมบี้ที่มีสติมากกว่าตัวอื่นๆ แล้วก็เป็นจ่าฝูง ทำให้ซอมบี้ในเรื่องจะไม่ได้เพ่นพ่านโผล่ให้ยิงแบบหนังพี่บี้ทั่วไป ในแง่หนึ่งมันก็เข้าท่าอยู่ครับที่ได้เห็นซอมบี้มีพัฒนาการ (แต่ก็ไม่ใช่ของใหม่ซะทีเดียวสำหรับหนังซอมบี้) เพียงแต่ขณะเดียวกันความมันส์ที่พึงมีสำหรับหนังแนวนี้ก็พลอยน้อยลงไปโดยปริยาย เพราะตอนกลางๆ นี่แทบจะไม่มีพี่บี้มาไล่บี้ตัวละครสักเท่าไร พวกตัวเอกเลยออกแนวเดินเล่นกินลมชมวิวมากกว่าจะโดนพี่บี้มาไล่ต้อน และพอไม่ค่อยมีพี่บี้ไล่ต้อน กราฟความลุ้นก็พลอยลดลงไปด้วย

หนังมันเลยออกจะเรื่อยๆ ในช่วงกลางๆ น่ะครับ สารภาพเลยว่าดูแล้วนึกถึง World War Z นะ คือเรื่องนั้นบรรยากาศมันหลอนได้ใจ มันทำให้เราผวาได้ตลอด แม้แต่ตอนที่เหตุการณ์ดูไม่น่าจะมีอะไร ทุกอย่างดูปกติ แต่ฉับพลันเพียงเสี้ยววินาทีเหตุการณ์สามารถพลิกผันกลายเป็นความสยองขึ้นมาได้ เลยทำให้เราดูไปแบบลุ้นและหายใจไม่ทั่วท้อง ในขณะที่เรื่องนี้มันเรื่อยไปหน่อยน่ะครับ แม้จะอยู่ในดงซอมบี้แต่บรรยากาศมันไม่กดดันขนาดนั้น มันออกจะดูปลอดภัยกว่าที่คิดด้วย

ส่วนตอนท้ายพอพี่บี้มาไล่ล่าก็ค่อยลุ้นขึ้นมาหน่อยครับ แต่กระนั้นก็ยังเป็นความลุ้นแบบมาๆ ไปๆ คือซอมบี้มันเยอะบ้างไม่เยอะบ้าง ยังกับซอมบี้มีการรักษาระยะห่างช่วงโควิดอย่างงั้นน่ะ ไม่เหมือนเรื่องอื่นๆ ที่หากซอมบี้มานี่ก็คือมาเป็นพรวน มารุมมาล้อมกันเต็มพื้นที่ แต่ในเรื่องนี่มาแบบรักษาระยะห่าง มีเว้นช่วงว่างให้ตัวละครพักหายใจ ซึ่งก็เพราะแบบนี้น่ะครับ ที่มันควรจะลุ้นก็เลยยังลุ้นไม่สุด

สิ่งหนึ่งที่คิดระหว่างดูคือประเด็นดราม่าในเรื่องนั้นหนังใช้เวลาในการเล่าไปพอสมควรเหมือนกันครับ ส่วนหนึ่งที่หนังดูยาวก็เพราะปมดราม่านี่แหละ แต่ผมกลับรู้สึกว่าจริงๆ ฉากดราม่ากระชับกว่านี้ได้ครับ เพราะดาราน่ะเล่นดีอยู่แล้ว อย่างพี่ Dave นี่ผมว่าเขาเล่นหนังดีนะ เขาเหมาะกับบทคนร่างใหญ่แต่ใจมีปม ดูเจี๋ยมเจี๊ยมเจียมตัวและเวลาอยู่ใกล้ลูกสาว (Ella Purnell) เขาดูสำนึกผิดและห่วงใยแบบสัมผัสได้ จนฉากดราม่านี่เล่นแค่ไม่นานก็สื่ออารมณ์ให้คนดูเก็ทได้แล้วครับ จนอดคิดไม่ได้ว่าถ้าหนังกระชับฉากเหล่านี้ลงมันอาจดูโอขึ้น เพราะบางตอนก็ดูเยิ่นเย้อ ทั้งๆ ที่เล่าแบบตรงเป้าแค่แป๊บๆ ก็ได้อารมณ์แล้ว

โดยส่วนตัวผมมองว่าหนังพร่องไป 2 จุดใหญ่ๆ ครับ จุดแรกคือพล็อตครับ พล็อตมันยังไม่ทำให้ตื่นเต้นมากพอ โจทย์ในเรื่องก็ยังเร้าได้อีก ความลุ้นความหลอนแบบหนังซอมบี้ยังเยอะได้อีก และตัวละครบางตัวก็ยังไม่น่าสนใจพอ (บางคนแอบทำให้รำคาญนิดๆ ด้วย-โดยเฉพาะตัวละครสูตรสำเร็จประเภทเห็นแก่ตัวแล้วชอบก่อเรื่อง) และจุดพร่องอีกจุดคือความกระชับครับ จริงๆ หนังเล่ากระชับกว่านี้ได้ ลดฉากกินลมชมวิวลง แล้วเร่งเรื่องราวให้แข่งกับเวลามากขึ้น ก็น่าจะมันส์ขึ้น

และสารภาพเลยครับว่าบางฉากผมก็แอบหงุดหงิดนะ อย่างตอนที่ตัวละครบางตัวกำลังจะหนีพ้นอยู่แล้ว แต่ดันมาหยุดแล้วจ้องหน้ากัน หยุดแล้วยิ้มให้กัน ทำเอาผมอุทานออกมาเลยว่า “จะหยุดทำมาย หนีต่อสิเฟ้ยเฮ้ย เดี๋ยวพี่บี้ก็ตามมาทันหรอก”

ผมว่าเรื่องนี้ก็ประมาณ Suicide Squad น่ะครับ คือดูได้เพลินๆ แต่ยังดีได้อีก หรือหากพูดถึงผลงานของพี่ Zack แล้ว เรื่องนี้ถือว่าเวิร์กกว่า Sucker Punch ครับ

ก็ลองดูกันได้ครับ ใครชอบหนังซอมบี้ก็น่าจะลองลิ้มสักครา แม้หนังจะไม่เข้าเป้าไปเสียทั้งหมด แต่ก็ดูได้เพลินๆ อย่างน้อยดูพี่ Dave ผมว่าก็คุ้มนะ พี่เขาเล่นดีและเหมาะกับบท (ผมว่าพี่เขาตัดสินใจถูกที่เลือกเล่นเรื่องนี้แทนที่จะไปโผล่ใน The Suicide Squad ยังไงบทในเรื่องนี้ก็เด่นกว่าครับ)

สองดาวได้ครับ

(6/10)