Chinese/Hong Kong/Taiwan Movies

3D Sex and Zen: Extreme Ecstasy (2011) เซ็กซ์ แอนด์ เซ็น ตำรารักทะลุจอ

7136_2_front

เป็นหนังที่สร้างกระแสฮือฮาได้มากตอนเปิดตัวไม่ว่าจะในประเทศฮ่องกงหรือบ้านเรา ด้วยการประกาศว่านี่คือหนังอีโรติค 3 มิติเรื่องแรกของโลก

ระหว่างฟังคำโฆษณาผมก็แอบคิดในใจ… หนังอีโรติค หนังโป๊เปลือยเนี่ย จะอัพให้มันเป็น 3 มิติไปทำไมกันหรือนี่

ว่าตามจริงแล้วหนังทำนองนี้ ถ้าถามว่าคนส่วนใหญ่จะดูกันที่ไหนเป็นหลัก ก็ตอบได้เลยว่าเกือบร้อยทั้งร้อยก็คงเอาไปดูในที่มิดชัดลับตา เพราะขืนไปเปิดสุ่มสี่สุ่มห้าเดี๋ยวจะโดนข้อหาอนาจาร หรือต่อให้ไม่ผิดกฎหมายมากมาย ก็อาจจะโดนสายตาประนามกึ่งหยามเหยียดจ้องมาหากมีคนมาพบเห็นเข้า

เลยพยายามคิดว่าทีมงานคงอยากให้หนังเรื่องนี้เป็นหลักไมล์หลักหนึ่งของหนังอีโรติคล่ะมั้ง ประมาณว่าหนังหลายแนว 3D ไปหมดแล้ว ก็คงเหลือแค่แนวนี้แหละที่ยังไม่มีใครทำ ดังนั้นขอสร้างก่อนใครจะคิดทำก็แล้วกัน (แล้วใครมันจะคิดทำล่ะนี่ ใครอยากจะได้ชื่อว่าเป็นคนทำหนังโป๊ 3 มิติเรื่องแรกของโลกกันหนอ ยังสงสัยไม่หาย)

แน่นอนครับว่าผมไม่ได้ไปชมในโรง แต่ก็ได้ยินกระแสเสียงจากรอบด้านว่า “มันหนังฮาชัดๆ” ซึ่งผมก็ไม่แปลกใจครับ เพราะเท่าที่จำความได้หนังอีโรติคชุดนี้จากฝั่งฮ่องกง ก็ติดจะฮามากกว่าจะขายความโป๊เปลือยอยู่แล้ว

อย่าง Sex and Zen ภาคแรกดั้งเดิมนั้น ยอมรับแบบยืดอกเลยครับว่าผมก็หามาดูด้วยความอยากรู้ว่ามันเป็นเช่นไร และพอได้ดูก็ตระหนักได้ทันทีว่าหนังมันฮาจริงๆ ยิ่งทีมพากย์ไทยสมัยนั้นก็ใส่มุdฮาลงไปแบบไม่ปรานีเหมือนกัน ทำเอาประเด็นโป๊เปลือยกลายเป็นอุปกรณ์ประกอบฉากกันไปเลย

มันฮาจริงๆ นะครับ หนังแทรกอะไรฮาๆ ลงไปเพียบทั้งแบบตั้งใจและไม่ตั้งใจ ยิ่งดาราสมทบนี่หน้าคุ้นเป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้าจะบอกว่าหนังเรื่องนี้ขายแต่เรื่องอย่างนั้นอย่างเดียวก็ออกจะไม่ยุติธรรมครับ เพราะขณะเดียวกันหนังก็แอบแนบสาระลงไปให้คิดว่า “การหมกมุ่นเรื่องเพศอย่างเดียวมันไม่ได้ทำให้ชีวิตดีหรอก เพราะเรื่องอื่นในโลกยังมีอีกมาก ไม่จำเป็นต้องทุ่มเวลาทั้งชีวิตมาพิชิตเรื่องนี้เพียงเรื่องเดียว” ว่าง่ายๆ ไม่ใช่แค่เรื่องบนเตียงเท่านั้นหรอกหนาที่จะทำให้คนมีความสุขได้ หากใจเราวางได้จริงๆ แม้เพียงจิบชาช้าๆ หรือนั่งดูเมฆเคลื่อนบนท้องฟ้า ก็อิ่มสุขไปถึงข้างในได้

จริงๆ ในหนังมันไม่ได้มีสาระแบบโต้งๆ อย่างที่ผมบอก แต่ผมดูแล้วเอามาคิดต่อน่ะครับ หนังทิ้งประเด็นทิ้งเชื้อเอาไว้ให้คิดตาม ยังไงก็ต้องยกความดีความชอบให้หนัง ถ้าไม่ได้ดูก็อาจไม่มีความคิดเหล่านี้เกิดขึ้น ไปๆ มาๆ ผมเลยรู้สึกว่าชื่อหนัง Sex and Zen นั้นเหมาะมากๆ เพราะมีทั้งเรื่องเซ็กซ์ที่ทำให้เราเห็นว่าคนที่ยึดติดกับเรี่องพวกนี้มากๆ จะเป็นเช่นไร เรื่องเซ็กซ์นั้นนำมาซึ่งความสุขอันยั่งยืนจริงหรือไม่ พอคิดไปคิดมาด้วยภาพที่หนังนำเสนอ มันก็ค่อยๆ โยงความคิดมาสู่แนว Zen ชวนให้รู้สึกว่ามีก็เหมือนไม่มี รัญจวนก็เหมือนไม่รัญจวน

แต่เพื่อนผมเคยแซวว่าจริงๆ หนังมันไม่ใช่ชื่อ Sex and Zen แต่มันต้องเป็น Sex and Cen (sor) เพราะสมัยก่อนบ้านเราเข้มงวดหนัก หนังที่มีฉากประมาณนี้มักจะหมอกลงแบบไม่ทราบที่มา หรือไม่ก็เนื้อหาหายไปแบบห้วนๆ อย่างลึกลับ (ที่ผมเรียกว่า “ตัดบัวไม่เหลือใย”)

สำหรับหนังเรื่องนี้แม้จะ 3 มิติ แต่ก็ยังคงยืนกรานครับว่าหนังชวนให้ฮาได้เหมือนเดิม ทั้งเพราะตัวหนังเองและทีมพากย์พันธมิตรที่ช่วยกันทำให้ความฮาเพิ่มเยอะ หนังมีครบทั้งความรุนแรงและฉากทำนองนั้นครับ ถ้าว่าตามจริงตัวหนังก็ดูได้เรื่อยๆ พวกฉากอะไรต่างๆ ผมว่าทำได้ดีนะครับ ออกแบบอะไรดูลงทุนอยู่เหมือนกัน และคนทำก็คงพยายามผูกเรื่องล่ะครับ ให้ซับซ้อนหน่อย มีอะไรสักนิด พอถึงตอนจบก็ชวนให้รู้สึกสัมผัสได้ถึงความไร้สาระของมนุษย์ ที่ปล่อยให้เรื่องเซ็กซ์ ความแค้น และอารมณ์มาเป็นตัวนำ จนทำให้เกิดความวุ่นวายสูญเสียมากมายไปหมด

ฉากทำนองนั้นก็ชวนให้ฮาพอกันครับ มีอะไรพิสดารเยอะไปหมดหรือฉากแอ็คชั่นที่ใส่ลงมาก็เพื่อโชว์ 3 มิติโดยเฉพาะ เพราะถ้าว่าตามจริงมันแทบไม่ได้จำเป็นอะไรกับเนื้อเรื่องนัก

สำหรับสาระที่หนังเรื่องนี้มี ก็คงต้องยกให้กับเรื่อง “รักแท้ไม่ใช่แค่เรื่องทางกาย และเซ็กซ์ไม่ใช่ทุกสิ่งในชีวิต” มันเป็นเพียง 1 ใน 100 เรื่อง ยังมีอีก 99 เรื่องที่เราควรใส่ใจกว่า

การที่เราและคนรักจะอยู่ด้วยกันได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ ปฏิเสธไม่ได้ครับว่าเรื่องเพศมีส่วน แต่กระนั้นมันก็ยังมีเรื่องความเข้าใจ ความรัก การเอาใจใส่ เอื้ออาทร การให้อภัย การเรียนรู้ซึ่งกันและกัน การโอบอ้อมเอื้ออารีและปกป้องกันและกัน ฯลฯ มีอีกมากมายเหลือเกินครับสำหรับเรื่องการปลูกต้นรักให้งอกงาม

แต่ในเรื่องนั้นพระเอกของเราก็ยังวนเวียนอยู่กับเรื่องทำนองนั้น มุ่งเน้นที่จะฝึกฝนตนให้เป็นเลิศ แต่ไปๆ มาๆ การไปหมกมุ่นเรื่องนั้นกลับนำหายนะครั้งใหญ่มาสู่เขาและคนที่เขารักแทน

ดูในหนังแล้วอาจจะขำนะครับ และรู้สึกว่าตัวละครออกแนวต๊องไร้สาระที่หมกมุ่นแต่เรื่องนั้นอยู่ได้ แต่ก็เพราะมันเป็นหนังน่ะครับ เลยใส่สีให้มันโม้หน่อยๆ แต่ใจความของมันก็คือ การเตือนให้เราไม่เอาแต่มุ่งเรื่องเพศ ไม่ปล่อยให้เรื่องเหล่านี้ครอบงำ เพราะหากถอดความโม้และเรื่องขำๆ ออกจากสมการแล้ว ปฏิเสธไม่ได้ครับว่าโลกเราทุกวันนี้ ก็มีข่าวคนเดือดร้อน คนสูญเสียกันอันเนื่องมาจากการหมกมุ่นเรื่องนี้มากเกินไป หรือไม่รู้จักฝึกที่จะควบคุมเรื่องเพศ โดยการหันเหไปใส่ใจเรื่องอื่นแทนบ้าง

บ้านเราในอดีตมักคิดว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องที่ควรปิด แต่จริงๆ เราควรปิดแค่ระดับหนึ่ง และควรค่อยๆ เผยมันบางส่วน เราควรสอนครับ สอนให้เด็กรู้จักมัน เข้าใจมันแต่เนิ่นๆ รู้ว่าเรื่องเพศเป็นธรรมชาติ และเราสามารถฝึกกระจายความสนใจไปที่เรื่องอื่นได้ ไม่จำเป็นต้องหมกมุ่นแต่เรื่องเพศเพียงอย่างเดียว

เรามักคิดว่าเราปิดเรื่องเพศเพื่อไม่ให้เด็กรู้ แต่ลองคิดดีๆ เถอะครับ เด็กจะไม่รู้ได้อย่างไร เพราะมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวใครโดยตรง เราจะซ่อนเรื่องนี้แค่ไหน เขาก็ต้องรู้กันอยู่ดี แต่คำถามคือ เราจะให้เขารู้กันเอง ลองผิดลองถูกกันเองในหมู่เด็กด้วยกัน หรือเราจะช่วยชี้แนะให้เขารู้ ถ่ายทอดแนวทางที่ถูกควรให้เขาได้ลองนำไปทำกันดี

เรื่องเพศคิดให้ลึกมองให้ยาว, เรื่องเพศคุยกันได้… สโลแกนเหล่านี้มาช้าก็ยังดีกว่าไม่มานะครับ

อ่านไปอ่านมาอย่าเพิ่งคิดว่านี่เป็นบทความจากวิชาเพศศึกษานะครับ เพราะจริงๆ แล้วนี่แหละคืออะไรที่หนังบอกเรา แม้มันจะบอกแค่ช่วง 5 นาทีสุดท้ายก็เถอะ แต่มันคือสาระที่ควรเข้าใจครับ นอกนั้นเนื้อเรื่องตั้งชั่วโมงกว่าน่ะ ก็มีไว้ให้เราเห็นว่า การปล่อยให้เรื่องเพศมาเป็นเรื่องหลักในชีวิตนั้น มันสร้างเรื่องแย่ๆ และความเหลวแหลกให้ชีวิตได้ขนาดไหน ยังมีเรื่องความแค้น การจองเวร การคบชู้ การไปแย่งคนรักของชาวบ้านเขาอีก เรื่องทั้งหมดในหนังที่มันอีนุงตุงนัง ก็เพราะสิ่งเหล่านี้นั่นแหละ

เซ็กซ์ แอนด์ เซ็น ตำรารักทะลุจอ… ผมว่าชื่อหนังตั้งได้เหมาะครับ ไม่ได้เหมาะเพราะอะไรต่อมิอะไรมันทะลุจอนะครับ แต่เพราะมันเป็นการบอกเล่าคุณค่าอันแท้จริงของความรัก มันคือตำรารักนั่นแหละครับ ตำราที่บอกว่า “รักที่แท้นั้นเป็นเช่นไร” บอกว่าเซ็กซ์เป็นแค่ Subset หรือส่วนย่อยของความรักเท่านั้น

ไม่ว่าคนทำเขาจะทำเพื่อเจตนาใด แต่เราก็เลือกได้ครับว่าเราจะดูเพื่อให้ได้อะไรบ้าง

เรื่องนมต้มทะลุจอนั้น ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปครับ แต่ถ้าเป็นประเด็นการสร้างรักที่สวยงาม ลองว่าเราได้คิดใคร่ครวญ มันจะอยู่กับเราช่วยสร้างชีวิตรักที่เข้าท่าให้กับเราได้

เลือกเก็บเรื่อง “ทะลุจอ” มาเข้าสมองให้เหมาะครับ แล้วหนังอีโรติคเรื่องแรกของโลกเรื่องนี้ อาจทำให้คุณเข้าใจเรื่องเซ็กซ์และความรักได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น… ลึกซึ้งมากกว่า 3 มิติด้วยล่ะครับ

สรุปว่าหนังออกแนวฮาครับ เนื้อเรื่องอาจดูจับฉ่าย แต่เอาเข้าจริงมันก็คือการถ่ายทอดชีวิตที่วุ่นเพราะการหมกมุ่นเรื่องเพศให้เราดูนั่นแหละ ถ้าถามว่าสนุกไหมก็บอกได้ว่ามันไม่ได้ดูเพลินอะไรนักหรอกครับ ในแง่ความเป็นหนังมันอาจไม่มีอะไรนัก แต่ก็ลองไปตักตวงสาระจากมันดูครับ ถ้าด้านสาระชวนให้คิดก็นับว่าพอมี

แต่ถ้าว่ากันถึงตัวหนังล้วนๆ คงดาวกว่าๆ ครับ

Star11

(4.5/10)