
หลังจากเฉินเจียลั่ว (เจิ้งเส้าชิว) ประมุขพรรคดอกไม้แดงรับ ปึงซีเง็ก หรือ ฟงไสหยก (หลี่เหลี่ยนเจี๋ย) เป็นลูกบุญธรรมแล้วก็พาเข้าสู่พรรค แต่เมื่อได้เข้าพรรคแล้ว เขากลับพบว่าแม้แต่ในพรรคเองก็เต็มไปด้วยความขัดแย้ง มีคลื่นทั้งใต้น้ำและบนน้ำ จนในที่สุดเขาจึงต้องลงมือพิทักษ์ความถูกต้องบนแนวทางของตนเอง
ได้ หยวนขุย (Corey Yuen) มากำกับเช่นเคย และพี่ท่านยังโดดลงมาเล่นด้วย เป็นหลี่กั๊วะปัง พี่เลี้ยงปึงซีเง็ก นอกจากนี้ยังมี กัวอ้ายหมิง มาแสดงเป็น ฮั่วจือ ที่เพิ่มสีสันความสนุกให้กับเรื่องได้อีกพอสมควร
เป็นภาคที่ยังดูสนุกครับ แม้ภาคแรกจะโอเคกว่าในหลานด้าน แต่ภาคนี้ก็ยังถือเป็นภาคต่อที่ได้มาตรฐาน ทั้งมันส์และฮา ยิ่งความฮานี่เยอะมากครับ โดยเฉพาะยามที่ เหมียวชุ่ยฮัว (เสี่ยวฟงฟง) แม่ของพี่ปึงปรากฏตัว เมื่อนั้นความสนุกจะบังเกิดทุกรอบ ยิ่งแม่ลูกมาเจอกันทีไร ฮาแตกทุกที อันนี้ขอชมเลยครับว่าเสี่ยวฟงฟงเล่นได้ฮายิ่งกว่าภาคแรกเสียอีก
ครึ่งแรกของหนังนั้นเหมือนจะจริงจังนะครับ ดูเครียดขรึมเล็กๆ แต่ครึ่งหลังนี่ฮากระจายไม่เว้นบรรทัด โดยเฉพาะตอนที่เหลยถิงถิง (หลี่เจียซิน มารับบทเดิม) จะเข้ามาซัดพี่ปึงด้วยความโมโห พอคนในพรรคเห็นเหตุการณ์เข้าก็กะจะเข้าไปช่วยพี่ปึงเพราะนึกว่าถิงถิงเป็นศัตรู แต่สักพักแม่ของพี่ปึงรีบเดินเข้ามาห้ามพร้อมพูดว่า “ช้าก่อน นั่นเมียเขา” ยอมรับว่าฉากนั้นเล่นเอาผมฮาแตกเลยครับ
การย้อนไปดูหนังจีนกังฟูเก่าๆ มันรู้สึกดีนะครับ ความสนุกความมันส์มันเยอะจริงๆ ลีลาการบู๊ก็ของจริงเจ็บจริง ทั้งมันส์ทั้งไวได้ใจมากๆ สำหรับภาคนี้คิวบู๊ยังน่าสนใจครับ โดยเฉพาะไคลแม็กซ์อันเป็นที่้มาของชื่อเรื่องว่า “ปิดตาสู้” อาจไม่ตื่นตาเท่า “สู้บนหัวคน” แต่ก็ยังคงมันส์
ส่วนหนึ่งที่ดีกรีความมันส์ของภาคนี้อาจแผ่วไปจากภาคแรกบ้างก็เพราะคู่ปรับของพี่ปึงไม่เด็ดเท่าคราวก่อน เพราะคราวก่อนนี่ระดับ เจ้าเหวินจั๋ว เลยนะครับ ลีลามันเลยเข้มข้นพอไปกันได้ แต่กับภาคนี้ความพริ้วของคู่ต่อสู้ยังไม่มากเท่าพี่เหวินจั๋วครับ
สาระประการหนึ่งของหนังก็ชวนให้คิดครับ เพราะภาคนี้เราจะได้เห็นว่าภายในพรรคดอกไม้แดงก็มีการเมือง มีคลื่นใต้น้ำเช่นเดียวกับราชสำนัก มีทั้งคนที่อยากทำเพื่อราษฎรจริงๆ แล้วก็มีพวกเหลิงในอำนาจ หวังจะได้เป็นใหญ่เป็นโต แล้วสักวันหนึ่งความขัดแย้งก็จะนำมาซึ่งจุดเสื่อม เกิดวนเวียนเป็นวัฏจักรในโลกเรามานานแสนนาน เกิดกับหลายพื้นที่ หลายประเทศ หลายแห่งหน
จุดสงบและจุดบรรจบของคนเราจะพบเจอได้ที่ใด ยากคาดเดายิ่งนัก
สรุปว่าภาคนี้ยังดูได้สนุกเพลินครับ เพียงแต่ความมันส์ในลีลาบู๊อาจลดลงเล็กน้อย และเนื้อเรื่องบางจังหวะก็อืดช้าไปบ้าง ดีที่ได้ความฮามากูสถานการณ์ได้พอสมควร
สองดาวครึ่งยังได้อยู่ครับ
(7/10)

หมวดหมู่:Action, Chinese/Hong Kong/Taiwan Movies, Comedy, History, Kung Fu, Martial Arts, Movie Reviews










