ดูแบบเพลินๆ… ดูแบบเพลินๆ… ดูแบบเพลินๆ

ผมท่องคำนี้หลายจบก่อนดู เพราะพิจารณาจากหนังตัวอย่าง หน้าหนัง และชื่อผู้กำกับ Brian Levant แห่ง The Flintstones 2 ภาค, Jingle All the Way และล่าสุดก็ Scooby-Doo! The Mystery Begins ที่ส่งลงแผ่นโดยไม่ผ่านโรง (ประมาณว่าผลงานค่อนข้างจะสาละวันเตี้ยลง) ทั้งหมดก็ชวนให้ทำใจล่วงหน้าได้ว่าอย่าไปหวังอะไรมาก

เฮียเฉินอายุเยอะแล้ว… เฮียเฉินอายุเยอะแล้ว… เฮียเฉินอายุเยอะแล้ว

คำนี้ก็ท่องเยอะเหมือนกัน เพราะเฮียเฉินหลงของเราอายุเยอะจริงๆ ครับ จะให้ไปไต่ตึก ออกแรงพริ้วแบบสมัยหนุ่มๆ ก็คงไม่ไหว มันก็คงต้องมีสลิง มีสแตนอินมาช่วยกันบ้างแหละ

การทำใจก่อนดูก็ช่วยให้ไม่คิดมากตอนดูครับ เลยพอจะเพลินๆ เรื่อยๆ แต่ดูจบแล้วก็จบกัน ไม่ได้รอซื้อแผ่นเก็บเหมือนสมัยก่อน

ในเรื่องเฮียเฉินมาแสดงเป็น บ็อบ โฮ สายลับมือพระกาฬที่อยากจะล้างมือไปแต่งงานกับ จิลเลียน (Amber Valletta) คุณแม่ที่มีลูกๆ จอมแสบอีก 3 ครับ ที่แต่ละคนก็แสบได้ใจ และประกาศเลยว่าจะไม่ต้อนรับบ็อบมาเป็นพ่อคนใหม่เด็ดขาด

งานนี้สายลับมือเก๋าก็มาเจอโจทย์ยากล่ะครับ ต้องหาทางชนะใจเด็กทั้ง 3 คน และยิ่งไปกว่านั้นในด้านเรื่องงานสายลับก็ปัญหาแทรกขึ้นมาด้วย เพราะวายร้ายที่เขาเพิ่งจับไปเกิดหนีไปได้ เอาล่ะ ทั้งงานหลวงงานราษฎร์พี่บ็อบของเราก็ต้องแก้ให้ได้

อย่างที่บอกครับ ดูแบบเพลินๆ อย่าไปคิดมาก ที่ต้องทำใจหน่อยก็คือลีลาบู๊ประเภทกระโดดไต่หลังคาเนี่ย เฮียเฉินเริ่มใช้สลิงช่วยแล้วครับ ตอนช่วยแมวเนี่ยชัดเลย ยังกับเหาะลงมาแน่ะ แต่ก็เห็นใจเฮียเขาเถอะครับ ให้เล่นหนังแบบปลอดภัยๆ บ้างเน้อะ

ส่วนเนื้อหาก็เบาๆ ครับ เฮียเฉินไล่จับเด็ก โดนเด็กแกล้งอะไรทำนองนี้ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นฮามาก แค่พอเพลินๆ น่ะครับ ถ้าจะมีอะไรที่ผมชอบหน่อยก็คงเป็นฉากที่บ็อบสอนเจ้าหนูลูกคนโตจอมเจ้าปัญหาว่า “ครอบครัวนั้นไม่ได้จำเป็นว่าต้องเป็นสายเลือดเดียวกันเท่านั้นหรอก เพียงมอบความรักให้แก่กัน ก็นับว่าเป็นครอบครัวกันได้แล้ว” เนี่ยครับ สอนตรงๆ ง่ายๆ น่าเอาไปคิดดีเหมือนกัน

ชูรสที่พอจะช่วยให้หนังน่าดูจนจบได้ ก็คือหนูๆ จอมแสบน่ะครับ โดยเฉพาะแม่หนูคนเด็กที่น่ารักดีเหมือนกัน และสำหรับคนไทยก็ได้แรงเสริมความฮาไปจากทีมพากย์พันธมิตรที่พยายามยิงมุขช่วยหนังตลอด (จนบางทีออกจะเกินๆ ไปบ้าง แต่ก็พอให้อภัยครับ)

เอาเป็นว่านะครับ ถ้าอยากดูหนังที่เฮียเฉินแสดงกับเด็กน้อยได้เข้าท่าล่ะก็ ขอแนะนำเรื่อง วิ่งกระเตงฟัด หรือ Rob-B-Hood เรื่องนั้นทั้งมันส์ ทั้งลุ้น ทั้งซึ้งเลยล่ะ

ส่วนเรื่องนี้ มาแบบเบาๆ ก็รีวิวแบบเบาๆ พร้อมเดินไปเอาหนังเก่าๆ ของเฮียเฉินมาดูดีกว่า

แม้หนังใหม่ๆ จะไม่ถึงใจ แต่อย่างน้อยเฮียก็มีผลงานเก่าๆ ที่ดูได้ไม่จำกัดรอบฝากไว้ในใจแฟนๆ หลายเรื่อง… เพราะอย่างนี้มั้งผมถึงไม่ได้รู้สึกว่าดูเรื่องนี้แล้วเปลืองตังค์ เพราะถือว่าไปเจอหน้าคนคุ้นเคยปีละสองสามครั้งก็แล้วกัน

สองดาวแบบธรรมดาครับ

(6/10)