ในแง่หนังระทึกขวัญ The Purge ถือว่าดูได้เรื่อยๆ ครับ อาจไม่ถึงกับตื่นเต้นหรือลุ้นอะไรมากมาย จุดดีจริงๆ ของหนังคือความสดในเรื่องของ “คืนล้างบาป” ที่เข้าใจคิดจริงๆ

แต่ในแง่จิกสังคมมันก็เข้าท่าดี การที่หนังบอกแต่ต้นเรื่องว่าคืนล้างบาปนี่ทำให้ปริมาณคนว่างงานลดลงมัน พอดูไปก็เข้าใจล่ะครับ ก็คืนนั้นคนฆ่ากันได้ไม่ผิดกฎหมาย ทำให้มีแต่คนรวยๆ ที่มีเงินพอจะสร้างปราการป้องกันตัวเอง ส่วนคนไร้งานหรือไร้บ้านก็หนีตายกันไป แล้วแบบนี้คนว่างงานจะไม่ลดได้ยังไง

หนังยังย้ำว่าคืนล้างบาปทำให้เศรษฐกิจโดยรวมดูดีขึ้น… จิกซ้ำได้เข้าท่าจริงๆ

The Purge สะท้อนด้านมืดของมนุษย์ได้พอๆ กับสะท้อนความจริงที่เราไม่อยากนึกถึงครับ ไม่ว่าจะเรื่องโอกาส (ที่คนมีอำนาจและมีเงินมักได้ก่อน) หรือการเอารัดเอาเปรียบ ซึ่งแม้เราจะพร่ำพูดเรื่องความเท่าเทียม หรือเสรีมากแค่ไหน แต่เอาเข้าจริงแล้วมนุษย์ส่วนใหญ่ที่มีเงินหรืออำนาจมากกว่าก็จะหาทางสร้าง “ความได้เปรียบ” ให้ตนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง (ยิ่งสร้างโดยไม่ให้คนที่อยู่ต่ำกว่าเห็นได้ก็ยิ่งดี)

โดยรวมแล้ว หนังก็โอเคครับ พอเข้าใจว่าทำไมหนังทุน $3 ล้านถึงทำเงินทั่วโลกไปถึง $89 ล้าน

ปล. สารภาพว่าแอบรำคาญลูกๆ ของพระเอกในบางวาระ และรำคาญไอ้พวกเกรียนที่มาล้อมบ้านด้วย

ตอนที่หัวหน้าพวกนั้นพูดกับพระเอกว่า “ทำไมคุณไม่ส่งเขามาให้ผมคุณแซนดิน?”

ผมนึกคำตอบในใจไปว่า “ก็เอ็งตัดไฟไง ก็บ้านตูใหญ่ไง ก็ตูหามันไม่เจอไง แค่เอ็งไม่ตัดไฟตูก็คงหาเจอง่ายๆ ไปแล้ว… เข้าใจไหมไอ้หอกชำรุด!!!” 555

สองดาวครับ

(6/10)