ใครคิดว่า Tropic Thunder จะออกแนวบ้าบอฮาแตกเพียวๆ เห็นทีจะต้องปรับจูนการรับรู้ให้ตรงกันซะก่อนนะครับ ผมอยากเรียกว่านี่เป็นหนังเบาสมองประเภทยำใหญ่กัดฮอลลีวู้ดมากกว่า เพราะมันไม่ใช่หนังประเภทมุกตลกเจ็บตัว หรือเอามุกมาชนมุกให้จบเป็นฉากๆ แล้วจบ แต่มันเป็นหนังที่มีเนื้อเรื่อง มีทิศทางจริงจังมากเรื่องหนึ่ง

พล็อตก็คือ มีดาราใหญ่กลุ่มหนึ่ง ได้แก่ ทักก์ สปีดแมน (Ben Stiller) ดาราขาบู๊, เจฟฟ์ พอร์ตนอย (Jack Black) ดาราที่วนเวียนเล่นแต่หนังขำไม่เจอสาระ และ เคิร์ก ลาซารัส (Robert Downey Jr.) ดาราคุณภาพที่ลงทุนเข้าถึงบทคนดำโดยการเปลี่ยนสีผิวตัวเอง ทั้งหมดมาร่วมงานในหนังสงครามฟอร์มยักษ์ แต่ถ่ายไปถ่ายมาปัญหาเยอะ จนผู้กำกับ (Steve Coogan) ทนไม่ไหว เลยจับพวกพี่แกไปปล่อยกลางป่าเพื่อถ่ายทำแบบสมจริงกันไปเลย

แต่ก็เป็นเรื่องจนได้ เพราะป่าที่ไปถ่ายทำนั่นดันมีพวกผู้ร้ายตัวจริงอยู่เป็นกองทัพ งานนี้เลยไม่ใช่ถ่ายหนังแล้วครับ มีแต่ตายจริงเจ็บจริง อีแบบนี้ยุทธการสวมวิญญาณทหารตัวจริงจึงเริ่มต้น

เอาเข้าจริงหนังมันออกแนวสงครามผสมแอ็กชันที่จริงจังเป็นเรื่องเป็นราวอยู่นะครับ แต่ Stiller ที่แสดงนำและกำกับเองได้ผสมเอาสไตล์หนังเสียดสี จิกกัด ตลกร้ายกวนลงไปได้อย่างเข้าท่า ซึ่งบทหนังเรื่องนี้เขาคิดไว้ในหัวนานตั้งแต่สมัยยังไม่ดังครับ

ตอนนั้นพี่ท่านรับบทสมทบใน Empire of the Sun (หนังของ Steven Spielberg) ซึ่งเป็นหนังที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 Stiller รับบทหนึ่งในเชลยชาวอเมริกันที่โดนจับไว้ในค่ายกักกันของทหารญี่ปุ่น ระหว่างนั้นเองเขาก็ได้ไอเดียเกี่ยวกับบทหนังที่ว่าด้วยดาราคนหนึ่งที่ได้รับเล่นในหนังสงคราม แล้วก็ต้องมีการไปเข้าค่ายฝึกทหารเพื่อให้สมบทบาท แล้วดารารายนั้นก็ได้ตระหนักถึงคุณค่าในตนเองมากขึ้นอีกระดับ

หลังจากบ่มอยู่หลายปีมากๆ Stiller ก็เอาไอเดียนี้ไปคุยกับเพื่อนนักแสดงอย่าง Justin Theroux (คนเขียนบท Iron Man 2) ร่วมกันมือเขียนบท Etan Cohen ที่ปรับบทหนังให้เข้าถึงง่ายขึ้น ฉีกแนวเป็นตลกแบบร้ายไปเลย ผลก็ออกมาเป็นหนังยำใหญ่ฮอลลีวู้ดเรื่องนี้ล่ะครับ

ในช่วงแรกต้องปรับตัวเล็กน้อยครับ สารภาพเลย;jkผมก็เอ๋อเหมือนกัน ขนาดคุ้นกับมุกสไตล์ Stiller มาตั้งนาน เจอช่วงครึ่งแรกก็เดาทางไม่ถูกเลยครับว่าหนังมันจะเป็นอย่างไรต่อไป มันจะเน้นขำหรือไม่กันแน่ เพราะบางฉากมันน่ากลัวเกินกว่าจะขำออก อย่างตอนคนโดนระเบิดจนตัวขาดกระจุยเนี่ย อึ้งไปนิดนึง อันนี้เลยต้องบอกให้เตรียมใจสักหน่อยครับ รู้ไว้เลยว่าหนังผสมตลกทุกแนวลงไปหมด ครบถ้วน ซึ่งถ้าเปรียบความรู้สึกตอนดูของผมก็เหมือนกินผักผลไม้ปั่นรวมน่ะครับ รสชาติมันจะแปร่งๆ ตอนแรก แต่ถ้าทำใจได้ก็ไหลลงคอแบบคล่องปรื้ดๆ

ผมไม่แปลกใจเลยครับ หากหลายๆ ท่านจะไม่ขำในหลายๆ มุก โดยเฉพาะเรื่องต่างๆ ที่ตัวละครของ ชอบพล่าม อย่างตอนที่เคิร์กวิจารณ์ออสการ์ว่าไม่มีทางให้รางวัลกับบทปัญญาอ่อนที่ไม่ได้มีคุณค่าใดๆ ต่อสังคม ถ้าคุณไม่ติดตามเรื่องอหนังฮอลลีวู้ดก็คงจะงงครับ แต่ถ้าคุณรู้ที่มาที่ไปล่ะขำแน่ เพราะทุกตัวละครเอาเรื่องจริงมาพูดเล่นให้คนดูฟังทั้งสิ้น หนังสไตล์นี้คนชอบก็ชอบกันไป ถ้าเฉยก็เฉยไปเลยเหมือนกัน

ผมดูแล้วรู้สึกนะครับ ว่านี่มันงานที่พวกพี่ๆ นักแสดงเรื่องนี้ต้องการสื่อกับคนดู สื่อกับผู้อำนวยการสร้างแล้วก็สื่อกับคนทำหนังด้วยกันแบบขวานผ่าซากและเปื้อนยิ้มดี ดาราแต่ละคนก็มือพระกาฬทั้งนั้นล่ะครับ ทั้ง Stiller และ Black ที่ออกมาฮามาขำกันตามสไตล์ แต่รายที่เหนือชั้นคือ Downey Jr. ที่มีครบทุกอารมณ์ ทั้งเท่ห์ เถื่อน ขำ บ้า ฉากที่พี่แกควักถือปืนกลออกมาถือสองมือนั่นเท่ห์อย่างแรงครับ

ในขณะที่ดารารายอื่นก็ขำพอประมาณ แต่ที่สนุกเป็นพิเศษต้องยกให้ดาราใหญ่น้อยที่ยกขบวนกันมาขำคนละฉากสองฉาก โดยเฉพาะคุณพี่ที่มาโผล่ในตัวอย่างหนัง Satan’s Alley นั่นฮาสุดขีดจริงๆ ไหนจะคนที่มาเล่นเป็นเลส กรอสแมน ผู้อำนวยการสร้างเห็นแก่เงินอีก พี่คนนี้แกพลิกได้เนียนมากทั้งหน้าตา ท่าทาง และคำพูดติดปากว่า “Go Fu_K Yourself” นี่ว่ากันว่าเป็นประโยคที่เหล่าผู้สร้างในฮอลลีวู้ดชอบพูดกันเป็นหนักหนา เวลาใครพูดอะไรขัดใจตัวเองหน่อยล่ะก็

ซาวด์แทร็กประกอบหนังก็เป็นอีกหนึ่งของดีครับ เลือกเพลงมันส์ๆ ติดหูมาใส่ตลอดทั้งเรื่อง จริงๆ ถ้าคุณรับสไตล์หนังได้ ทุกอย่างใน Tropic Thunder จะกลายเป็นความหฤหรรษ์สำหรับคุณเลยล่ะครับ ในครึ่งแรกที่ผมยังรับหนังได้ไม่เต็มร้อย ก็นั่งอ้าปากค้างเหมือนกันครับ แต่พอทำใจรับจับทางได้ เชื่อไหมครับว่าผมอยากดูซ้ำอีกรอบทันที รู้สึกว่าหนังมันบ้าได้สาแก่ใจมากๆ

อยู่ที่ท่านแล้วนะครับ เพราะถ้าว่ากันตรงๆ นี่ไม่ใช่หนังตลกที่ดูง่าย ไม่ได้ฮาแบบสบายบริโภค บางมุกต้องรู้วงใน บางมุกต้องคิดตาม ผมจึงไม่อยากให้ท่านติดป้ายหนังเรื่องนี้ว่าเป็นแนวตลกที่ดูแล้วต้องขำนะครับ แต่อยากให้ลองเข้าไปลิ้มรสพิสูจน์ความบ้าของพวกพี่ Stiller ดีกว่า ถ้าชอบพวกพี่ท่านก็ได้เลยครับ แต่ถ้าไม่แน่ใจในตัวเอง หรืออยากดูหนังฮาแบบสากล สไตล์ Mr. Bean หรือหนังตลกบ้านเรา จะคิดก่อนคิดหลังก็ได้ไม่ว่ากัน

แต่ถ้าสำรวจตัวเองแล้ว พบว่าชอบหนังฮาร้ายๆ แบบ Team America ก็ลองตามไปทัศนาหนังได้เลยครับ

สองดาวครึ่งครับ

(7/10)