47 Ronin ถือว่าเหมาะจะดูเอามันส์ครับ มีการต่อสู้ มีเวทย์มนต์ ผสมแอ็กชันซามูไรเข้ากับแฟนตาซีเหนือธรรมชาติ

แม้ผมจะบอกว่า “เหมาะดูเอามันส์” แต่ดูแล้วจะรู้สึกมันส์หรือไม่ก็ย่อมขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนนะครับ

ถ้าถามผม ก็ถือว่าดูได้เพลินๆ ครับ งาน Effect ถือว่าดี ภาพถือว่าสวย ในขณะที่ผลที่ได้ออกมานั้นก็จัดว่าเรื่อยๆ ฉากแอ็กชันถือว่ากลางๆ เข้าท่าเป็นบางฉาก เรื่อยๆ เป็นบางซีน แต่โดยรวมก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ ความตื่นเต้นเร้าใจอาจยังไม่เยอะ ด้านเนื้อเรื่องก็ไม่มีอะไรดึงดูดนักครับ หลายอย่างเดาทางได้แบบไม่ยากเย็น

ระหว่างดูผมนึกถึงหนังซามูไรสัญชาติฝรั่งอย่าง The Last Samurai แล้วก็ซามูไรสัญชาติแท้อย่าง Zatoichi และ 13 Assassins (ขอละ Seven Samurai ไว้เลยนะครับ เทียบกับเรื่องนั้นมันจะโหดเกินไปหน่อย) ที่ผมนึกถึงหนังเหล่านั้นก็เพราะมันเป็นหนังว่าด้วยวิถีซามูไรครับ ซึ่งมันมีอะไรมากกว่าแค่การฟันดาบหรือแก้แค้น เพราะมันยังมีเรื่องของศักดิ์ศรี เกียรติยศ คุณธรรมน้ำมิตร ความเคารพ และศรัทธา โดยแต่ละเรื่องที่ผมนึกถึงนั้น มันมีสาระประเด็นดังกล่าวปรากฏอยู่ จะมากน้อยก็ว่ากันไป แต่ยังไงดูหนังซามูไรแล้ว มันทำให้เรารู้สึกถึง “ความเท่ห์” ที่มีอยู่ในวิถีซามูไร

แต่กับ 47 Ronin นั้น จัดว่ามีอะไรแบบนั้นไม่มากนักครับ หนังดูจะไปเน้นที่การล้างแค้น การต่อสู้ และอิทธิฤทธิ์ของนางจิ้งจอก (ที่เล่นได้ร้ายและเจ้าเล่ห์จนน่าชื่นชมโดย Rinko Kikuchi) ซึ่งถ้าว่ากันในส่วนนั้นเนื้อเรื่องก็ยังไม่เข้มข้นเท่าที่ควรครับ

จริงๆ ด้านดาราไม่มีปัญหาครับ เพียงแต่บทมันไม่มีจุดเด่นไว้ดึงดูดคนดู อย่าง Keanu Reeves ก็ดูไม่เลวกับการเป็นซามูไรหน้าฝรั่ง แต่บทไม่เปิดโอกาสให้เขาได้แสดงอารมณ์อะไรนัก (ไปๆ มาๆ บทไคตอนเด็กจะดูมีมิติอารมณ์มากกว่าอีก) หรือ Hiroyuki Sanada ในบทโออิชิ (ระหว่างดูก็คอยฟังว่าจะมีใครชื่ออิชิตันหรือเปล่า 555) ขานี้ก็แสดงดีเท่าที่บทอำนวยเหมือนกันครับ เสียแต่ว่าบทก็ไม่อำนวยสักเท่าไร ส่วนโรนินที่เหลือนั้น นอกจากพระเอกกับตัวหลักๆ ไม่กี่ตัวแล้ว ก็แทบไม่มีใครเด่นพอให้นึกถึงอีกเหมือนกัน

ครับ โดยรวมหนังออกมาในระดับกลางๆ แต่ผมไม่โทษผู้กำกับ Carl Rinsch เลยนะ เพราะจริงๆ แล้วเจตนาในการทำหนังเรื่องนี้ของเขาคือกะทำให้หนังออกมาแบบเน้นดราม่าเป็นหลัก ส่วนแอ็คชั่นและ CG จะเป็นรอง ว่ากันว่าเขากะจะเดินตามรอยหนังอย่าง Gladiator และ Kingdom of Heaven และกะจะให้มันออกมาเป็นหนังซามูไรกลิ่นอาย Art-House เลยล่ะ แต่ทาง Universal ผู้สร้างเขาอยากให้หนังเน้นแฟนตาซีเล่นใหญ่มากกว่า ผลที่ได้มาเลยกลายเป็นอย่างที่เห็นครับ – มีข่าวลือว่า Rinsch ไม่ยอมและพยายามสู้จนถึงขั้นแตกหักกับสตูดิโอ และส่งผลให้เขาโดนไล่ออกจากห้องตัดต่อตอนงานสร้างขั้นสุดท้ายเลยทีเดียว

และนี่ถือเป็นอีกหนึ่งหนังที่ล่มอยู่พอสมควรครับ เพราะลงทุนไปราว $175 ล้าน แต่ทำเงินในอเมริกาไปแค่ $38 ล้านเท่านั้น ยังดีครับที่รายได้ทั่วโลกรวมกันยังได้ไป $151 ล้าน และตอนออกแผ่นลงสตรีมก็ได้รับการตอบรับที่ดี เลยพอจะเอาเงินส่วนเหล่านั้นมาโปะตัวแดงได้

สรุปว่าดูแบบไม่คาดหวังก็ว่าจะเอามันส์ได้อยุ่ครับ หรือถ้าอยากดูหนังประเภทศักดิ์ศรีซามูไรแบบจัดๆ ก็หา The Last Samurai มาดูได้ครับ

สองดาวครับ

(6/10)