
แรกเริ่มผมอยากดูหนังเรื่องนี้เพราะรู้สึกว่ามันน่าจะตอบโจทย์ที่อยู่ในใจผมครับ มันเป็นโจทย์แบบที่อาจเกิดกับคนมีอายุนิดๆ ได้ทุกเมื่อ
โจทย์ที่ว่าคือ “จะมีหนังที่ตัวเอกเป็นคนอายุวัยทำงาน มานั่งรำลึกอดีต แล้วก็นัดเพื่อนสมัยเด็กหรือสมัยเรียนมาทำกิจกรรมย้อนวัยเติมวันเก่าๆ บ้างไหม?”
อันที่จริงในเบื้องต้นหนังตอบโจทย์นั้นเป๊ะเลยนะครับ Adam Sandler, Kevin James, Chris Rock, David Spade และ Rob Schneider มาแสดงเป็นกลุ่มเพื่อนเก่าที่หวนมาเจอกันในงานศพของโค้ชที่พวกเขาเคารพ โดยหลังจากเสร็จงานแล้ว พวกเขาก็เลือกที่จะใช้เวลาร่วมกัน พาครอบครัวมาทำความรู้จักกัน ตามด้วยการคิดถึงวันเก่าๆ ด้วยกัน
อย่างที่บอกครับว่าพล็อตตอบโจทย์มาก และตัวหนังก็น่าจะตอบโจทย์ได้ เพราะดาราที่มาแสดงนั้นตอนอยู่นอกจอ พวกเขาก็เป็นเพื่อนกันจริงๆ ครับ… แต่หลังดูแล้ว ยอมรับว่าไม่รู้สึกอะไรนัก
คือหนังก็ดูได้เรื่อยๆ น่ะครับ มีความฮามีอะไรบ้าง แต่รสชาติหนังโดยรวมค่อนข้างธรรมดา จบแล้วจบกันไม่ประทับใจ ไปๆ มาๆ ผมรู้สึกว่าหนังสไตล์คล้ายๆ กันอย่าง American Reunion มันกลมกล่อมลงตัวกว่าน่ะครับ อย่างน้อยดูแล้วก็เชื่อว่ากลุ่มเพื่อนในเรื่องนั่นดูมีสายสัมพันธ์ มีไมตรีเชื่อมถึงกัน ได้เห็นพวกเขาโตขึ้น รู้จักเรียนรู้สิ่งต่างๆ ดูมีเลือดมีเนื้อ พอดูจบแล้วมันก็อิ่มใจน่ะครับ
แต่กับ Grown Ups ผมรู้สึกเหมือนเพื่อนกลุ่มนี้ดูรู้จักกันผิวเผินมากๆ แต่ละคนก็ดูเหมือนจะโตแต่ตัว ดูแล้วไม่รู้สึกว่าพวกเขาผูกพันกันสักเท่าไร ตอนแรกๆ ก็พอเข้าใจครับเพราะห่างกันไปนาน ก็อาจยังห่างเหินบ้าง แต่ครั้นดูจนจบ แม้จะผ่านเรื่องอะไรต่อมิอะไรกันมาก็ไม่ได้รู้สึกว่าพวกเขาสนิทแน่นแฟ้นอะไรมากนัก
ผมพยายามหยิบเรื่องนี้มาดูรอบ 2 ก่อนจะเอาภาค 2 มาดู สารภาพว่าอารมณ์นิ่งกว่าเดิม ซึ่งแปลกใจตัวเองเหมือนกันครับ เพราะผมชอบหนังของ Adam Sandler มากนะ แล้วยังมีดาราแสนคุ้นเคยร่วมขบวนมากันเต็มจอ แต่ความรู้สึกดีๆ ความรู้สึกสนุกแบบที่เคยได้จากหนังอย่าง The Wedding Singer, Big Daddy, Mr. Deeds, 50 First Dates, Click หรือ I Now Pronounce You Chuck & Larry มันกลับไม่มีอารมณ์นั้นในเรื่องนี้เลยจริงๆ
ไปๆ มาๆ ฉากที่ผมว่าพวกพี่แกเล่นได้เนียนและฮาสุดคือตอนมานั่งบนเก้าอี้เรียงกันเพื่อดูสาวๆ รุ่นลูกนั่นแหละครับ มาเชื่อว่าพวกเขาเป็นก๊วนเดียวกันก็ตอนนั้นแหละ
จริงๆ หนังมีประเด็นดีๆ อยู่ครับ อย่างการรู้จักทำวันนี้ให้ดี, การยอมรับยามตัวเองอายุเยอะขึ้นแล้วทำอะไรไม่ได้มากเหมือนตอนหนุ่มๆ หรือการที่เลนนี่ (Sandler) อยากให้ลูกๆ รู้จักห่างหน้าจอคอม ห่างเกมต่างๆ อีกทั้งสารพัดเทคโนโลยี แล้วหันมาใช้ชีวิตกลางแจ้ง รู้จักเดินเล่นชมนกชมไม้และโยนหินลงทะเลสาบบ้าง ก็เป็นอะไรที่เข้าท่าครับ แต่หนังก็ไม่ได้จับประเด็นนี้มาต่อยอดสักเท่าไร อันที่จริงคือหนังพูดถึงแบบลิบๆ รู้แต่ตอนแรกพวกเด็กๆ ก็ไม่ยอมเล่น ไม่ยอมเข้าหาธรรมชาติสักเท่าไร แต่พอดูๆ ไปผ่านกลางเรื่อง พวกเด็กก็หันมาเล่นกับธรรมชาติซะงั้น
คิดในแง่หนึ่งก็คงเป็นว่า ลองพาลูกเข้าหาธรรมชาติให้มากๆ สักวันลูกก็จะเริ่มปรับตัวเข้าหามันเอง… ประมาณนั้นน่ะนะครับ
เอาเป็นว่าดูได้ แต่ผมออกแนวเฉยถึงเฉยมากน่ะครับ แม้หนังจะมีโจทย์ตรงใจและได้ทีมดาราแสนคุ้นมาก็ตาม
สองดาวครับ

(6/10)
หมวดหมู่:Comedy, Movie Reviews










