Comedy

Dennis the Menace (1993) เดนนิส ตัวกวนประดับบ้าน

peliculas.744.IMAGEN1

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งหนังช่วงน้ำขึ้นพยายามรีบตักของ John Hughes ผู้อยู่เบื้องหลังหนังเด็กโดดเดี่ยวแต่โด่งดังอย่าง Home Alone แล้วก็หนังเด็กอีกเพียบ ซึ่งพูดไปก็ใจหายครับเพราะยามนี้เขาได้จากพวกเราไปแล้ว

เรื่องราวสร้างจากการ์ตูนช่องที่สร้างสรรค์โดย Hank Ketcham เนื้อหาหลักๆ ว่าด้วยเจ้าหนู 5 ขวบแสนซนนามว่าเดนนิส มิตเชลล์ (Mason Gamble) ที่ขยันทำเรื่องแสบๆ ด้วยความไร้เดียงสาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แล้วบุคคลที่ต้องเผชิญเคราะห์กรรมซวยเพราะเดนนิสเป็นประจำก็คือคุณจอร์จ วิลสัน (Walter Matthau) เพื่อนบ้านขี้หงุดหงิดที่ขยาดกับฤทธิ์ของเด็กคนนี้ จนแทบอยากย้ายบ้านหนี นั่นคือพล็อตดั้งเดิมของการ์ตูนชุดนี้นะครับ ส่วนภาคหนังก็เสริมเรื่องลงไปอีกหน่อย โดยการใส่เอาตัวละครหัวขโมยติงต๊อง สวิตช์เบลด แซม (Christopher Lloyd) ลงไปเพื่อให้มีเนื้อมีหนังขึ้น

แต่ยังไงดีกรีความเป็นการ์ตูนก็ยังพุ่งสูงปรี๊ดอยู่ดีล่ะครับ หัวขโมยแซมนี่ก็โคตรการ์ตูน โคตรต๊องหนักกว่าสองหัวขโมยอ้วนผอมจาก Home Alone ซะอีก ซึ่ง Lloyd ดาราเจ้าบทบาทที่เราคุ้นกันดีจากบท ดร. บราวน์ใน Back to the Future ไตรภาคที่ถนัดหายห่วงกับบทเพี้ยนๆ มาในเรื่องก็ทั้งโทรมทั้งฮาแบบใช้ได้ แต่ถ้าเทียบกับสองหัวขโมยจาก HA ล่ะก็เห็นทีต้องบอกว่ายังห่างกันอยู่นิดหน่อย เพราะสองเจ้านั้นต๊องจริงแต่ยังพอมีสมอง ไม่การ์ตูนเกินเหตุ แต่ขานี้ดูแล้วมั่นใจเลยว่าต่อให้พี่แกตกจากเครื่องบินก็ไม่ตายอ้ะ เออ การ์ตูนขนาดไหนคิดดู ทีนี้พอแกการ์ตูนเกินไปเลยอดจะรู้สึกลอยๆ กับตัวละครนี้ไม่ได้

การ์ตูนเกินไปก็ไม่ใช่ว่าจะดีหรอกครับ แม้จะเป็นหนังเด็กก็เถอะ แต่ถ้ามันไม่ใช่การ์ตูนยังไงมันก็ให้รู้สึกถึงความไม่กลมกล่อมอยู่ดี ทว่าหากท่านไม่คิดมาก ชอบดูหนังแนวนี้ก็ไม่มีปัญหาครับ รับได้สบายๆ

ความดีของหนังอาจจะไม่เท่า HA นะครับ อันนั้นมันลื่นไหลลงตัว มีอะไรเล่นเยอะแล้วก็แปลกใหม่ดีด้วย แต่กับเรื่องนี้มันก็คือเด็กแสบอีกคนหนึ่งเท่านั้นเอง ผมเอามาดูอีกรอบแล้วนึกถึงชินจังเลยนะ ซึ่งมาทีหลังแต่มันฮากว่าเยอะ ซึ่งคงเพราะมันแรงกว่านั่นแหละครับ

นึกถึงตรงนี้แล้วก็คิดขึ้นมานะครับ ว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไปจริงๆ ยุคหนึ่งความแสบของเจ้าหนูเดนนิสนี่นับว่าเยอะ ฝรั่งมั่งค่าที่มองว่าเจ้าเด็กคนนี้มีแนวโน้มก้าวร้าวก็มีไม่ใช่น้อย แต่มาตอนนี้สิครับ เจอชินจังล่ะเป็นอันอายม้วนไปเลย ทั้งทะลึ่งและลามกกว่ากันมาก

แล้วนี่ก็ไม่ใช่เรื่องเล่นด้วย เพราะแนวโน้มเด็กที่ก้าวร้าวก็มีมากขึ้นจริง จนกองเซ็นเซอร์ต้องพากันมาปิดฉากปิดภาพไม่เหมาะสมกันจ้าละหวั่น มันก็เป็นสัญญาณบอกอะไรได้ไม่ใช่น้อย เพราะเด็กหลายรายดูรายการทีวีแล้วพากันทะลึ่งตึงตังอย่างเจ้าหนู่เดนนิสหรือแม้แต่ชินจิงก็พอกันครับ แสบไม่จำกัดกาล

ทว่าตอนดูหนังเรื่องนี้มีสิ่งติดใจผมอย่างหนึ่ง คือมีอยู่ฉากหนึ่งครับที่คุณวิลสันแกหงุดหงิดมากที่เดนนิสพูดเยอะจนแกรำคาญ เลยออกปากถามว่า “ทำไมเธอถึงเอาแต่ถามๆๆๆๆ ฉันอยู่ได้ ไม่เหนื่อยหรือยังไง?” ประมาณว่าเธอจะเหนื่อยไหมฉันไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ คนเป็นผู้ใหญ่อย่างฉันล่ะเบื่อจะตอบคำถามของเธอเต็มที

เจ้าหนูเดนนิสให้คำตอบมาอย่างง่ายๆ เลยว่า อ้าว คุณวิลสันครับ ก็ผมเพิ่ม 5 ขวบเองอ้ะ ยังมีอะไรอีกเยอะแยะที่คุณรู้เห็นมามากกว่า ถ้าผมไม่ถามแล้วจะรู้ได้ยังไงเล่า

Untitled03509

มันเป็นเรื่องธรรมดาของผู้ไม่รู้ครับ เขาก็ต้องถามจนกว่าจะรู้ จริงอย่างที่เดินนิสว่า ไม่ถามแล้วจะเกิดปัญญาได้อย่างไร ยิ่งเด็กเล็กๆ ถ้าไม่ถามคำสอนสั่งจากผู้ใหญ่แล้วจะให้ไปถามใครได้

การดูแลเด็กนั้นเป็นของหวานสำหรับบางคน แต่กับอีกหลายคนนี่ทรมานเหลือหลาย ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่ประการใด ลางเนื้อชอบลางยาน่ะนะครับ

เคล็ดไม่ลับสำหรับการอยู่กับเด็กนั้น ก็ไม่ยากเย็น แค่เข้าใจเขาเป็นพอ กับบางคนอาจต้องเพิ่มความอดทนเข้าไปอีกหน่อย ก็ไม่ว่ากัน แต่การเข้าใจนั้นจะได้ผลมากกว่า เพาะอดทนมันเหมือนกับเราอยู่กับเด็กแค่ภายนอก แต่ใจน่ะอยากไปให้ห่างๆ ส่วนการเข้าใจธรรมชาติความเป็นเขาและช่องว่างระหว่างวัยนั้นจะสามารถทำให้เราเฮฮาไปกับหนูน้อยทั้งหลายได้

ในกรณีของคุณวิลสันก็คงไม่ต่างอะไรกับผู้ใหญ่หลายคนที่ไม่ใช่นางงาม ไม่ได้รักเด็กในสายเลือด จนเกิดอาการป่วนทางอารมณ์อย่างที่เห็นในเรื่อง แต่ในตอนท้ายพอเข้าใจและมองเดนนิสในแง่มุมที่ดีๆ บ้างอะไรหลายอย่างก็เหมือนจะดูสวยงามขึ้น อย่างน้อยก็ความสัมพันธ์ระหว่างสองคนนี้นี่แหละ

การรักเด็กไม่ต้องฝึกฝนครับ แค่คลุกคลีกับพวกเขา เอาใจใส่แล้วก็มองสิ่งดีๆ อย่าเอาแต่จับผิด แล้วท่านจะได้อะไรสดใสติดหัวกลับมาพอสมควรทีเดียว

แล้วคำตอบของการแก้ปัญหาเด็กดื้อเด็กแสบหรือปัญหาเซ็นเซอร์ภาพไม่เหมาะสมกับเยวชน ผมก็ให้คำตอบที่เหมือนเดิมว่า เพียงชี้แจงอย่างเหมาะควร สอนอย่างเหมาะสมกับเขา เท่านี้ก็เป็นวัคซีนชั้นดีแล้ว เราจะได้ไม่ต้องมานั่งคอยระแวงว่าดูรายการนี้แล้วลูกฉันจะเป็นอะไรไหม จะกลัวอะไรถ้าเราติดอาวุธทางปัญญาให้เด็ก

เหมือนเราสอนให้เด็กเข้าใจและจำไว้ ว่าการเอาอะไรแหย่เข้าไปในปลั๊กไฟน่ะมันอันตราย ให้เด็กเข้าใจและรับรู้ นอกนั้นเราก็ค่อยสอนสั่นตัดเล็มกิ่งก้านให้มันเข้าที่ แต่อย่าลืมให้กิ่งก้านที่ว่านี้โตด้วยตนเองด้วยล่ะ

รสฃาติของหนังเรื่องนี้ถือว่าสนุกสนานพอดูครับ ไม่ได้มากมาย แต่ก็พอดูได้เพลินๆ Gamble เจ้าหนูน้อยที่มารับบทเดนนิส ก็ไม่เลวเลยครับ ยอมรับว่าทีมงานแคสติ้งมาดีมาก จากเด็ก 20,000 ได้คนนี้มา ดูไร้เดียงสา แต่ก็ก่อกวนได้ถึงกึ๋นดี ส่วน Matthau ก็ไม่ต้องกังวล รายนี้มือชั้นไหนแล้ว ยิ่งหน้าตาลุงเขาขยันดุแบบน่ารักๆ อีกด้วย

หนังอาจไม่ได้ทำเงินถล่มทลายเท่า Home Alone แต่ก็ไม่เลวนะครับ โกยไป $117 ล้านจากทั่วโลก ส่วนทุนสร้างอยู่ที่ $35 ล้าน ก็จัดว่ากำไรอยู่ครับ

ดูได้เพลินๆ ครับ ฮาเป็นพักๆ ถ้าคุณสนุกกับหนังอย่าง Home Alone หรือ Beethoven หรือ Baby’s Day Out ก็คงเพลินกับเรื่องนี้ไปอีกหนึ่ง

สองดาวครับ

Star21

(6/10)