William Friedkin ผู้กำกับที่ชื่อขึ้นหิ้งอีกรายของวงการ ด้วยเดชแห่งหนังสยอง The Exorcist และหนังระดับออสการ์ The French Connection ตามด้วยหนังสืบสวนชั้นดีอย่าง To Live and Die in L.A.

คามิลล่า (Jenny Seagrove) พี่เลี้ยงสาวสวยผู้ลึกลับ เธอทำงานดูแลทารกให้กับพ่อแม่ผู้ไม่มีเวลาว่างพอ และพ่อแม่คู่ล่าสุดที่เธอดูแลลูกให้นั้น ปรากฎว่าเด็กได้หายไปอย่างลึกลับ… หลังจากนั้นเธอก็ได้งานใหม่ เป็นงานดูแลเด็กให้กับพ่อแม่หนุ่มสาว ฟิล (Dwier Brown) และ เคท (Carey Lowell)

แล้วชะตากรรมของเด็กน้อยคนนี้ จะลงเอยอย่างไร?

หนังแนวลึกลับซ่อนเงื่อนน่ะครับ แต่ลีลาการสร้างความสยองไม่ใคร่จะเด็ดสักเท่าไหร่ ตัวหนังก็เล่นกับมุกเดิมๆ ประเภทความมืด แล้วก็เสียงก่อให้เกิดความตกใจ ออกแนวตุ้งแช่อะไรเทือกนั้น ส่วนความลับของคามิลล่าก็คือ… รู้สึกชื่อไทยจะบอกเรียบร้อยแล้วนะครับว่าเธอเป็นอะไร ส่วนเด็กทารกที่เธอลักพานั้นก็ไม่ต้องห่วง เธอต้องเอาไปทำอะไรก็ตามที่จะทำให้พวกเด็กๆ หมดลมหายใจแน่นอน

ช่วงนั้นผมชอบจำหนังเรื่องนี้สลับกับ The Kiss หนังประเภทแม่มดหมอผีสาวอีกคนที่มาในบ้านแล้วก็หาผู้สืบทอด แต่ดีกรีความสยองก็ถือว่าพอๆ กัน นั่นคือพอได้ เน้นสยองด้านภาพ ให้ได้กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง รวมถึงบรรยากาศชวนผวา แต่ถ้าถามว่าสุดไหม ก็คงต้องตอบว่ายังไม่เด็ดถึงขนาดห้ามพลาด

ขณะเดียวกันดารานำก็ไม่ถึงกับดึงดูดนักครับ ที่พอมีชื่อมากหน่อยก็ Carey Lowell เจ้าของบทสาวบอนด์ในหนัง 007 ตอน Licence to Kill ส่วน Seagrove จริงๆ ก็แสดงได้หลอนอยู่ครับ เพียงแต่การเดินเรื่องมันยังมีชวนให้ติดตามสักเท่าไร

แต่ยอมรับประการหนึ่งว่าหนังทำให้คนรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง โดยเฉพาะหากคนดูเป็นพ่อแม่ที่กำลังให้พี่เลี้ยงดูแลลูกอยู่กับบ้าน

สรุปว่าหนังมีความสยองเชิงแหวะอยู่พอสมควรครับ บรรยากาศก็มืดครึ้มอึมครึมไม่น้อย เพียงแต่การเดินเรื่องเล่าเรื่องยังไม่มีพลังมากพอ

เกร็ดเล็กๆ ที่นำมาฝากก็คือ แรกเริ่มเดิมทีคนที่จะกำกับนั้นคือ Sam Raimi แห่ง The Evil Dead ครับ แต่พอดีเขาเกิดสนใจอยากทำ Darkman มากกว่า เลยโบกมือลาไป

ไม่ถึงสองดาวครับ

(5.5/10)