
หากว่ากันถึงลำดับการตีพิมพ์แล้ว Red Rabbit ถือเป็นหนังสือลำดับที่ 11 ในชุดแจ็ค ไรอัน แต่หากไล่เรียงกันตามลำดับเหตุการณ์ตามท้องเรื่องแล้ว Red Rabbit จะถือว่าเป็นเรื่องราวตอนต่อจาก Patriot Games (เด็ดหัววีรบุรุษ) ครับ
เล่มนี้จะเล่าถึงเหตุการณ์ปีถัดมา หลังจากที่แจ็ค ไรอันขัดขวางแผนปลงพระชนม์เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์จนตนเองและครอบครัวต้องถูกหมายหัวจากผู้ก่อการร้าย โดยคราวนี้เขารับตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์ของ CIA แบบเต็มตัวครับ
และภารกิจแรกคือการประสานงานกับสายลับอังกฤษ (หรือหน่วย MI6 หน่วยเดียวกับเจมส์ บอนด์นั่นแหละครับ) ในการพาตัวชาวรัสเซียครอบครัวหนึ่งหนีออกมาจากแดนหลังม่านเหล็ก โดยหัวหน้าครอบครัวนี้จะแลกเปลี่ยนด้วยการมอบเบาะแสสำคัญถึงแผนลอบปลงพระชนม์สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2
บอกได้เลยครับว่าเล่มนี้อาจไม่สมใจคอแอ็กชัน เพราะมันไม่ได้เน้นบู๊ แต่จะเน้นไปที่กระบวนการทำงานของหน่วยต่างๆ ไม่ว่าจะงานวิเคราะห์ของแจ็ค ไรอัน ที่ต้องคอยตีสถานการณ์ต่างๆ ยืนยันหรือปฏิเสธถึงความเป็นไปได้ต่างๆ ต่อข่าวกรองทั้งหมด เพื่อหาความจริงที่ซ่อนอยู่
และทำให้เราเห็นงานของสายลับที่ไม่ได้พะบู๊สู้องค์กรร้ายแบบเจมส์ บอนด์ แต่จะเป็นการเฝ้าสังเกตการณ์ เฝ้าติดตามเป้าหมายอย่างช้าๆ และแอบวิเคราะห์ “ความจริง-ความเท็จ” ในตัวเป้าหมายอยู่ห่างๆ ตามด้วยการวางแผนเวลาจะพาตัวใครสักคน (หรือหลายคน) ลี้ภัยแปรพักตร์ออกจากประเทศนั้นๆ ซึ่งในความจริงแล้วมันแตกต่างจากหนังบอนด์เลยครับ การจะไปขับรถไล่บี้ หรือพังตึกเป็นแถบๆ นั้น ไม่ใช่คำตอบที่เหมาะสำหรับคนเป็นสายลับ เพราะขืนทำอะไรให้ระเบิดระเบ้อนั่นย่อมเป็นการเผยที่ซ่อนตน และการเป็นการชี้เป้าเข้าหาตัวเองโดยปริยาย ว่าง่ายๆ คือขืนทำแบบหนังบอนด์จริงๆ ชีวิตการเป็นสายลับก็อาจไม่ยืนยาวด้วย
จุดหนึ่งที่ผมชอบในเล่มคือการวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ ไม่ว่าจะฝ่าย CIA ฝ่ายอังกฤษ หรือฝ่ายรัสเซีย แต่ละฝ่ายก็ไม่ใช่กระจอกครับ มีมุมคิดมีการตีความข่าวกรองที่รอบคอบไม่น้อย และที่สำคัญคือการวิเคราะห์ของแต่ละองค์กรในแต่ละชาตินั้นมันแสดงถึง “ทัศนคติ” และ “แม่พิมพ์ความคิด” ของแต่ละชาติได้อย่างดี
อาทิเช่นด้านมะกันก็จะประเมินเหตุการณ์รอบด้าน แต่จะไม่ลงลึกฟันธงในทันที ต้องเก็บสะสมข้อมูลแน่นอนในระดับหนึ่งถึงจะมีคำตอบออกมา แต่ถ้าเป็นฟากรัสเซียนี่จะเด็ดขาด หลายครั้งเหมือนกันครับที่การแสดงความคิดเห็นมาพร้อมการแสดงอำนาจ กล่าวคือถ้าคนวิเคราะห์มีอำนาจมาก ก็จะเชื่อในสิ่งที่ตนคิดมาก และไม่ต้องการคำคัดค้านจากใคร อีกทั้งจะติดคิดแง่ในลบไว้ก่อน (เหมือนคิดในทางที่แย่ที่สุด เพื่อปลอดภัยไว้ก่อนน่ะครับ) อันนี้คือแนวของรัสเซีย
ที่ชอบอีกอย่างคือการวิเคราะห์ชาติตรงข้าม อย่างการมองคนรัสเซียในมุมของคนอเมริกัน ตั้งแต่ประเด็นการเมือง เลยไปถึงชีวิตความเป็นอยู่ เรียกว่าเมื่อ CIA จะคุยกันถึงคนรัสเซียแบบจำเพาะเจาะจงเพียง “หนึ่งคน” พวกเขาก็จะขุดเอาปัจจัยแวดล้อมทั้งหมดของคนๆ นั้น ยาวไปถึงปัจจัยภายในทั้งหมดของประเทศรัสเซียตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน (และบางทีก็คิดไปถึงอนาคต) มาเพื่อประกอบการพิจารณาคนหนึ่งคน…
มันลึกและรอบมากทีเดียวครับ ตอนอ่านรอบแรกนี่แอบทึ่งเหมือนกัน ว่าการวิเคราะห์มันดูมีอะไรมากปานนี้เชียว
ยอมรับว่าการอ่านเล่มนี้ไม่ได้ความมันส์ แต่ได้รู้จักแจ็ค ไรอันมากขึ้น อีกทั้งได้รู้จักโลกของ CIA, MI6 และ KGB ได้ลึกขึ้นเยอะ
ย้ำอีกทีนะครับ เล่มนี้ไม่เหมาะกับคนที่กระหายความมันส์ แต่เหมาะกับคนรักแจ็ค ไรอัน และเหมาะกับคนที่สนใจอ่านเรื่องราวการทำงานขององค์กรเหล่านี้ โดยอิงความจริงมากกว่าจะอิงนิยาย
====================================
อ่านบ้านๆ #44
กระต่ายแดงแรงฤทธิ์ (Red Rabbit)
ชุด Jack Ryan Universe #3
ผลงานของ ทอม แคลนซี่ (Tom Clancy)
แปลโดย สุวิทย์ ขาวปลอด
หมวดหมู่:รีวิวหนังสือ, วรรณกรรม - สืบสวน ลึกลับ










