พีท แกร์ริสัน (Michael Douglas) ตำรวจลับมือพระกาฬที่เคยเอาตัวเข้าขวางลูกกระสุนให้ประธานาธิบดีมาแล้ว กลับตกเป็นผู้ต้องสงสัยวางแผนลอบสังหาร บอลเลนไทน์ (David Rasche) ปธน. คนปัจจุบัน แต่พีทไม่ได้ทำอย่างแน่นอน เขาเลยต้องหลับหนีการตามล่าจากทางการ นำโดย เดวิด เบรกคินริดจ์ (Kiefer Sutherland) เจ้าหน้าที่ FBI เพื่อนเก่าของพีทที่เคยมีเรื่องผิดใจกันมาก่อน
แล้วใครคือคนใส่ร้ายพีท คดีนี้จะลงเอยอย่างไร และการลอบสังหารปธน. ครั้งต่อไปจะเกิดอีกหรือไม่ ก็มีคำตอบในหนังนะครับ
ชื่อชั้นดารานำตามด้วยสไตล์หนังนี่ขายน่าดูครับ… ถ้าเป็นเมื่อ 30 กว่าปีก่อน
ไม่ค่อยแปลกใจนักที่หนังไม่ได้รับการกล่าวถึงสักเท่าไร รายได้ก็ไม่เข้าเป้า (ทำไป $36 ล้านในอเมริกา ถ้าทั่วโลกก็ $78 ล้าน จากทุนสร้างราว $60 ล้าน) เพราะอย่างแรก ดารานำในเรื่องถือว่าผ่านพ้นยุคสมัยของพวกเขาไปแล้ว แต่ไม่เถียงครับว่า Douglas กับ Sutherland เป็นนักแสดงมือเยี่ยม ในเรื่องก็เล่นได้ดีตามมาตรฐานครับ เพียงแต่หน้าหนังก็เป็นอีกอย่างซ้ำเดิม อย่างมุกลอบสังหาร ปธน. นั้น ก็ไม่ใช่ของใหม่ เอามาเล่นไม่รู้กี่รอบกี่เรื่อง ขนาดซีรี่ส์มันส์ต่อเนื่อง 24 ของพี่ Kiefer ก็เอามาเล่นทุกซีซั่น มิหนำซ้ำยังพ่วงเอามุกเจ้าหน้าที่ตงฉินโดนใส่ความมายำลงไปอีก ความซ้ำซากเลยซ้ำซ้อนครับ
ถ้าถามว่าสนุกไหม ก็ถือว่าพอได้ ข้อเสียใหญ่คือหนังตามสูตรลงล็อคทุกประการ ตอนจบท่านเดาไว้ล่วงหน้าว่าอย่างไร ก็ตามนั้นไม่ผิดเพี้ยน
แนวเรื่องซ้ำที่ว่านี่ จะว่าไปก็ซ้ำ 24 เต็มๆ เหมือนกัน แจ๊ค บาวเออร์ก็คือ Douglas นี่แหละครับ มานั่งไขปริศนาแก้ต่างให้ตัวเอง ส่วน Sutherland เจ้าของบทแจ๊คตัวจริงก็ถอยมาเป็นพระรอง ถ้าให้เทียบก็ประมาณโทนี่ อัลเมด้าน่ะครับ จนอยากรู้เหมือนกันว่า Sutherland รู้สึกอย่างไรกับหนังบ้าง
แต่ถ้าให้เทียบ 24 มันส์กว่า ตื่นเต้นเร้าใจกว่าหลายขุมครับ
คิดว่าหนังเหมาะกับคนที่ชอบดารานำสองรายนี้ครับ ประมาณว่าตามมาดูตามมาให้กำลังใจ เพราะเนื้อหามันเดิมๆ เหมือนพวก In The Line of Fire, The Fugitive แล้วก็ซีรี่ส์ 24 อย่างยิ่ง ซึ่งแต่ละเรื่องก็เข้าท่ากว่าเรื่องนี้ด้วยครับ
ดาราสมทบที่พอคุ้นหน้ามี Eva Longoria หนึ่งในภรรยาในซีรี่ส์ Desperate Housewives ก็พกหน้าสวยๆ มาเข้าฉากเป็นหลัก ในแง่การแสดงก็ถือว่าโอเคตามสไตล์ของเธอครับ
อีกคนก็คือเซ็กซี่สตาร์รุ่นเก๋า Kim Basinger มาในเรื่องเล่นเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เล่นแบบเรื่อยๆ … ดูจบแล้วก็ไม่เข้าใจ เหมือนทุกคนที่มาแสดงมาแบบสบายๆ น่ะครับ ยังกับนัดพบเจอกันเพื่อสังสรรค์ ระหว่างนั้นก็ถ่ายหนังเรื่องนี้ไปด้วยเป็นของแถม อารมณ์มันรู้สึกประมาณนั้น
นอกจากนี้ที่ตะหงิดใจอีกหนึ่งอย่างคือ คุณภาพฉาก โลเกชั่นและเรื่องราวช่างเหมือนหนังทีวีเรื่องยาวมากกว่าหนังจอเงิน หาความยิ่งใหญ่ไม่เจอ
พอดูชื่อผู้กำกับก็ถึงบางอ้อ เขาคือ Clark Johnson ขานี้เป็นดาราสมทบหนังหลายเรื่อง และทำหน้าที่กำกับมานาน แต่เป็นหนังทีวีเสียส่วนใหญ่ หนังใหญ่ที่เคยทำก็มี S.W.A.T. ที่เข้าท่ากว่าเรื่องนี้เสียอีก เพราะเรื่องนี้เจอกลิ่นอายหนังทีวีแบบเต็มๆ ยังกับดูพวก Law and Order อะไรเทือกนั้น (ซึ่งพี่แกก็เคยทำซีรี่ส์ที่ว่าเหมือนกัน)
แนวเดิม เรื่องเดิม สูตรเดิม แต่ออกมาเรื่อยๆ ไม่มีลูกเล่นพลิกแพลง หนังเลยออกมาค่อนข้างนิ่งครับ แม้จะได้ดาราดีๆ มาก็ไช่วยหนังได้ไม่มาก ยิ่งดารามาเล่นแบบไม่เค้นไม่คั้นฝีมือแล้ว ก็ไม่ต้องพูดถึง เอา In The Line of Fire หรือ The Fugitive มาดูอีกรอบดีกว่าครับ ถึงใจพระเดชพระคุณกว่ากันเยอะ
สองดาวครับ
(6/10)
หมวดหมู่:Action, รีวิวหนัง/ภาพยนตร์, Thrillers