Horror

It’s Alive (1974) กำเนิด ฉีกแล้วกัด

ItsAlive4

เรากลับมาที่หนังสยองเก่าๆ กันอีกซักเรื่องสองเรื่องสามเรื่องนะครับ (มีอีกเยอะ ไม่ต้องห่วง เล่าทุกวันไปยันปีหน้ายังไม่หมดเล้ยหนังแนวเนี้ย ดูเยอะเป็นบ้าเลยเรา)

เรื่องราวของแฟรงค์ เดวี่ย์ส (John P. Ryan) กับเลนอร์ (Sharon Farrell) คู่สามีภรรยาที่น่ารัก ซึ่งกำลังรอคอยลูกคนที่ 2 ของพวกเขาอยู่ แต่พอถึงวันคลอด ความสุขที่เฝ้าฝันไว้กลับกลายเป็นความสยองสุดขั้ว เมื่อทารกแรกเกิดของเขานั้นได้ไล่ฆ่าคน ฆ่าหมอหมดทั้งห้องตั้งแต่ลืมตาออกมาดูโลก แล้วยังหลบหนีไปฆ่าคนต่ออีกต่างหาก จนตำรวจต้องไล่ล่าหยุดยั้งเจ้าทารกปีศาจรายนี้

เป็นการจับประเด็นที่น่าสนใจมากเลยนะครับ เอาเรื่องการกลายพันธุ์มาตีความ แต่ก็แน่นอนล่ะครับว่าคนรักเด็กชอบเด็กคงไม่ปลื้มหนังเรื่องนี้อย่างแน่นอน เล่นเอาทารกมาไล่กัดคนแบบนี้เนี่ย แต่สำหรับคอหนังสยองก็เป็นอีกเรื่องน่ะนะครับ แต่บอกไว้ก่อน คนชอบเด็กล่ะก็ไม่เหมาะจะดูหนังเรื่องนี้ครับ มีแนวโน้มจะเกลียดสูงมากเลย

หนังจับประเด็นเรื่องมลภาวะ เรื่องสภาพจิตของคนที่โหดร้ายขึ้น ในจอทีวีมีแต่ความรุนแรง จนในที่สุดสิ่งแวดล้อมก็หล่อหลอมทำให้เด็กที่เกิดมากลายเป็นสัตว์ร้ายกระหายเลือด ก็ถือว่าจับเรื่องมาทำได้ไม่เลวครับ และนี่ก็เป็นผลงานการกำกับ เขียนบท และอำนวยการสร้างของ Larry Cohen รายนี้ไม่เด่นเรื่องงานกำกับครับ แต่จะไปถนัดกับงานเขียนบทมากกว่า อย่างหนังเรื่อง Phone Booth กับ Cellular ก็เป็นผลงานจากเขาทั้งนั้นแหละครับ

โดยส่วนตัวผมว่าแกก็เหมาะจะเขียนบทนะ คือจับเรื่องมาเขียนได้น่าสนในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นสุดยอดอะไร แค่พอดูแล้วก็พอเอาไปคิดอะไรต่อยอดได้อีกหน่อย แต่ในแง่การกำกับยังไม่ถือว่าแม่นนัก  ความน่าติดตามนับว่าน้อย การทิ้งปมตามเรื่องค่อนข้างอืดยืดไปนิด ในขณะที่ความโหดก็นับว่าแรงใช่ย่อยสำหรับยุคที่หนังออกฉาย แต่ถ้าเป็นคนสมัยนี้ดูคงจัดว่าเรื่อยๆ น่ะครับ เพราะเราๆ ในตอนนี้เจอความโหดยิ่งกว่ามาแล้ว

อีกอย่างที่ตะขิดตะขวงใจมากคือการนำเสนอครับ หนังมีการนำเสนอฉากที่คนกำลังจะเป็นพ่อมานั่งคุยๆ กันหน้าห้องคลอดขณะรอเมียตัวเองคลอด แล้วแทนที่จะคุยเรื่องมงคล ดันคุยแต่เรื่องอัปมงคลทั้งนั้น อย่างเช่น โลกนี้น่ากลัวขึ้น เด็กอาจตกอยู่ในอันตราย และมลภาวะก็เพิ่มขึ้นจนมันอาจส่งผลต่อตัวเด็กได้ คือเท่าที่ฟังๆ พวกพ่อๆ ที่ว่านี่ไม่ได้คิดอยากมีลูกเลยครับ แต่ดันมานั่งคุยกันตอนเมียจะคลอด เออ จริงๆ ผมก็เข้าใจนะฮะว่าหนังจะสื่อให้คนดูตระหนักว่าโลกเรามันเริ่มจะเป็นอันตรายต่อลูกหลานของเราแล้วนะ ทั้งสารพิษ สิ่งแวดล้อม และอื่นๆ อีกมากมาย ก็ดีครับ เจตนาดี แต่พี่เล่นเอามาคุยในฉากแบบนั้นมันให้รู้สึกยัดเยียดยังไงก็ไม่รู้ ผมดูไปนี่ขำเลย คือถ้าพวกพี่มองโลกกันแบบนี้ ไหงปล่อยให้เมียท้องได้ล่ะนั่น เออ 

ก็นี่แหละครับ ถึงบอกว่าบทออกจะน่าสน แต่การนำเสนอยังแหม่งบ้างแปร่งบ้าง บางอย่างก็รู้สึกยัดเยียดยัดเข้ามาแบบที่ไม่ค่อยจะเข้ากับหนังสักเท่าไร

ส่วนนักแสดงคู่พระนาง Ryan กับ Farrell ก็ไม่เด่นเท่าใด ยิ่งในรายของ Farrell นี่ออกจะเข้าข่ายน่ารำคาญไปเลยล่ะครับ คือเธอรู้ก็รู้นะว่าเด็กคนนี้โหด แต่ก็ยังอุตส่าห์ปกป้องอะไรอีก คือผมก็พอเข้าใจล่ะครับว่าหนังคงจะให้ผู้หญิงคนนี้เป็นแม่ที่รักลูกไม่ว่าลูกจะออกมาเป็นตัวอะไรก็ตาม แต่สถานการณ์แบบที่ว่ามันออกไปในเชิงน่ารำคาญน่ะ คือถ้าไม่มีเจ๊แกมายุ่งวุ่นวายผมว่าหนังจบไปตั้งแต่ครึ่งเรื่องแล้วล่ะครับ คือดูแล้วมันไม่สงสารอ้ะ มันรำคาญมากกว่าจริงๆ – นึกถึงคนที่ชอบบอกว่า “ลูกฉันเป็นคนดี” ขึ้นมาเชียว

แต่อย่างน้อยหนังก็ยังมีจุดดีครับ นั่นคือดนตรีจาก Bernard Herrmann แห่ง Psycho ก็เขย่าขวัญพอได้ครับ แต่ไม่ถึงกับหลอนน่ะ แต่ก็เป็นอะไรที่พอจะพูดถึงในแง่ดีสำหรับหนังเรื่องนี้ได้

ครับ หนังออกมาเรื่อยๆ ไม่ได้เจ๋งอะไรนัก แต่ทำเป็นเล่นไปครับ หนังมีภาคต่อนะ คือจริงๆ หนังมันทำออกมาเป็นไตรภาคเลยล่ะครับ

สรุปคือหนังออกมาเรื่อยๆ ไม่ประทับใจอะไรนัก บทเหมือนจะมีมีอะไรแต่ก็ยังเล่าได้ไม่คล่องคอนัก

ไม่ถึงสองดาวสิครับ

Star12

(5.5/10)