
รู้ตั้งแต่ดูเทรลเลอร์แล้วครับว่าหนังมันฮาสัปดนแน่นอนที่สุด และก็เดาได้เลยว่ามันจะจบยังไง (มันคงไม่จบว่าพระเอกเป็นมนุษย์ต่างดาวหรอกจริงมั้ยล่ะครับ
)
แต่สำหรับผมนะครับ ไม่ว่าจะพระเอกอย่าง Josh Hartnett, นางเอกอย่าง Shannyn Sossamon หรือผู้กำกับ Michael Lehmann ก็ไม่ได้ดึงดูดผมเท่าไหร่ ตัวดูดสำคัญที่ผลักให้ผมเข้าไปในโรงก็คือ ความฮาแบบโลว์ๆ นี่แหละครับ กะฮาเต็มที่น่ะว่างั้นเถอะ (ชื่อผมก็บอกแล้วครับ ไอ้หื่น เอ้ย ไอ้หมื่น 5555)
เรื่องบ้าๆ มันเริ่มตรงที่แมตต์ ซัลลิแวน (Hartnett) อกหักจากคนรักสาวที่คบกันมานานเหลือเกิน เขาก็เซ็งสิครับ จมอยู่กับอดีต เศร้าไปวันๆ พอเป็นมากๆ เขาเข้าก็เลือกที่จะระบายความเศร้าออกทางการไปมีสัมพันธ์กับสาวไม่ซ้ำหน้าแทน
แต่พอนานวันเข้า แมตต์ก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่ทางออกเลยครับ ยิ่งทำแล้วมันยิ่งเคว้งด้วยซ้ำไปมั้ง จนวันหนึ่งด้วยบุญหรือกรรมนำหนุนก็ไม่รู้ เขาก็เดินเข้าโบสถ์ไปหาคำตอบให้ชีวิต แล้วเขาก็พบทางสว่างครับ ประมาณว่าเจอคนจะถือศีลอด พี่แมตต์เลยเอาบ้าง แต่แกตั้งใจตั้งสติลืมแฟนเก่าโดยถือศีลอดเซ็กซ์เป็นเวลา 40 วัน ซึ่งอดที่ว่านี่คือจะยุ่งเรื่องเซ็กซ์ไม่ได้เป็นอันขาดเลยครับ มีไม่ได้ หรือจะระบายอะไรก็ไม่ได้ ห้ามขาด
แล้ววันแรกๆ มันก็ราบรื่นดีครับ อดได้ไม่ยากไม่เย็น แต่พอวันมากเข้าความอยากมันก็ทะยานมากขึ้น แต่นั่นยังไม่พอ เพราะยังมีเหล่ามารผจญมาเพียบไปหมด ไม่ว่าจะพวกเพื่อนบ้านี่เอะอะก็พนันอย่างเดียวว่าแมตต์จะระงับความอยากของตัวเองได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ แล้วยังมีสาวๆ มายั่วๆ แมตต์อีก และที่หนักสุดคือเขาดันไปตกหลุมรักเอริก้า ซัตตั้น (Shannyn Sossamon) สาวมั่นที่ไปเจอที่ร้านซักผ้าโดยบังเอิญอีกด้วย
แล้วงานนี้พี่แมตต์ของเราจะอดเซ็กซ์ได้หรือเปล่าหว่า มารเพียบขนาดนี้ 

คำถามสั้นๆ สำหรับหนังเรื่องนี้คือ อยากดูหนังฮามั้ยครับ ถ้าอยากล่ะนี่เลย มุกลามกเชิงสัปดนล่ะอุดมสมบูรณ์เข้าท่าไม่เลว แต่ก็ไม่ได้หนักหน่วงถึงขึ้นเห็นอวัยวะแบบ Scary Movie หรอกนะครับ คือมันอาจไม่เหมาะกับเยาวชนบ้าง แต่เชื่อเหอะ คนที่จะอยากดูหนังเรื่องนี้มันต้องวัยเราๆ นี่แหละ ตัวดีเลย
ช่วงต้นๆ ของหนังค่อนข้างธรรมดาครับ เหมือนจะไม่มีอะไร แต่พอเข้าเรื่องถือศีลอดเรื่องบ้าๆ ก็เริ่มเพิ่มขึ้น ยิ่งวันหลังๆ ซักวันที่ 30 กว่าๆ นี่ฮากันท้องแข็งแน่นอนครับ อันนี้ยอมรับว่า Hartnett กล้าทุ่มกับบทพอควร มุกฮาบางอันนี่มันก็หนักนะครับ และดาราที่มาเล่นหากใครห่วงภาพพจน์ล่ะเตรียมบอกศาลาโบกมือบ๊ายบายได้เลย อย่างฉากที่ตื่นเช้ามาเจ้าน้องชายก็ของขึ้นตั้งตระหง่าน แค่นี้ก็ฮาสุดๆ แล้วครับ และผมว่าเขาก็เล่นได้ดีด้วย เป็นตัวนำน่ะครับ นำได้ลื่นดี อุ้มหนังอยู่น่ะว่างั้นเถอะ

ส่วนนางเอก Sossamon นั้น ไม่รู้นะ ผมว่าเธอขาดเสน่ห์บางอย่างไป คือมันไม่ใช่เฉพาะเรื่องนี้นะครับ เป็นตั้งแต่ตอนดู A Knight’s Tale แล้วผมว่าเธอดูเรื่อยๆ แต่ยังไม่ค่อยดึงดูดนัก เรื่องที่ว่านั่นเธอเป็นนางเอกแต่ผมดันไปปลื้มนางรองแทน เอาเข้าไป กับเรื่องนี้เธอก็แทบไม่ได้ทำอะไรน่ะครับ เพราะส่วนหนึ่งหนังมันมาเน้นพี่ Hartnett มากด้วย อันนี้ก็เลยไม่ค่อยอยากจะโทษเธอนะ แต่เอาเป็นว่าบทไม่ส่งน่ะ ว่างั้นเถอะ
แต่นอกนั้นเหล่าดาราสมทบก็สบายครับ เรียกเสียงฮาได้ตลอดมากๆๆ ตั้งแต่เพื่อนบ้าที่วันๆ ก็ตั้งโต๊ะพนัน วันดีคืนดีก็เอาของมายั่วให้แมตต์หลุดศีลให้ได้ (เจริญจริงๆ 555) แล้วยังมี 3 สาวโคตรเซ็กซี่ที่จ้องจะขึ้นเตียงกับแมตต์อีก แต่รายที่มาแรงแซงโค้งนี่ต้องยกให้ Griffin Dunne ในบทเจอร์รี่ แอนเดอร์สัน เจ้านายของแมตต์ ท่าทางเซื่องๆ ครับ ตอนแรกเหมือนจะนิ่งๆ เนิ่บๆ แป๊กๆ แต่ขอโทษ น่าจะวันที่ 32 มั้ง พี่แกทำผมฮาตายเลยล่ะครับ ยิ่งฉากในห้องน้ำนี่โคตรฮา คือพี่แกขโมยซีนได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ
ว่าตามจริงหนังดูเอาฮาได้ครับ สนุกตลอดอยู่แล้ว ส่วนเรื่องของสาระหนังมันก็ไม่ได้แทรกอะไรไว้เท่าไหร่หรอกครับ ถ้าจะมีบ้างก็เรื่องมารผจญนิดๆ หน่อยๆ แต่พวกประเด็ยความรักหรือความหมายของชีวิตประเภทว่าการอดเซ็กซ์มันมีความหมายแค่ไหน ก็ไม่ค่อยได้เน้นครับ เล่นฮาอย่างเดียวเลย ซึ่งก็ว่าไม่ได้เพราะหนังมันเน้นฮานี่ครับไม่ใช่หนังอย่าง 2001 มันเลยไม่ได้แฝงปรัชญาอะไรมากมาย
แต่ลึกๆ ผมก็อดความหวังไม่ได้หรอกครับ เพราะคนกำกับน่ะคือ Michael Lehmann เจ้าของผลงานอย่าง The Truth About Cats & Dogs หรือ My Giant ที่แม้เรื่องหลังจะโดนสับจากนักวิจารณ์ แต่ก็พูดได้เต็มปากครับว่ามีสาระดีๆ ในขณะที่เรื่องนี้ออกมาตลกตกขอบอย่างเดียว แต่เรื่องทำหนังตลกนี่ผมไว้ใจเขาได้นะ อันนี้มือเขาแม่นจริงๆ ขนาด Hudson Hawk นี่คนด่ากันมากมาย แต่ก็ยังถือว่าหนังฮาครับ
แต่สาระหากมาคิดต่อยอดมันก็พอพูดได้ว่ามีครับ อย่างการที่แมตต์ดีขึ้นหลังจากอกหักจากแฟนเก่ามันก็มีหลายๆ ส่วนประกอบกัน ไม่ว่าจะการที่เวลามันผ่านไปทำให้แผลใจได้รับการเยียวยา หรือจะการที่แมตต์มามัววุ่นกับเรื่องถือศีลอดเซ็กซ์แล้วก็อะไรต่างๆ ที่มาวุ่นวาย มันก็ช่วยแมตต์ได้เหมือนกันครับ เพราะมันทำให้แมตตืไม่มีเวลาหมกมุ่นคิดเรื่องแฟนเก่า ทำให้เขาลืมไงฮะ พอมีอะไรทำมันก็ลืม เหมือนคนเราพยายามทำงานมากๆ เพื่อให้ลืมเรื่องไม่สบายใจ อาจจะทำงานเพื่อลืมรักเก่าที่ไม่สมหวังอะไรทำนองนั้นเป็นต้น
มันก็พอจะเอาไปใช้ได้ในชีวิตจริงน่ะครับ อย่างเมื่อเราอกหักหรือเจอปัญหาอะไรเบิ้มๆ ก็ให้หาอะไรทำให้มากๆ ไว้ ทำตัวให้ยุ่งๆ ไว้มันก็ช่วยพยุงเราให้ห่างจากเความทุกข์ได้เหมือนกัน แต่โปรดเข้าใจครับ เรื่องแบบนี้มันต้องใช้เวลา และหนึ่งนาทีในใจคนเรามันไม่เท่ากัน (นี่ก็ยืมมาจาก 15 ค่ำน่ะครับ) ดังนั้นสำหรับบางคนเวลาสันวันสองวันก็พอจะเยียวยาแล้ว แต่กับบางคนมันยังน้อยเกินไปครับ ก็ต้องเข้าใจในเรื่องความต่างของคนด้วยล่ะนะฮะ
ครับ อย่างน้อยการดูหนังเรื่องนี้มันก็ได้ความฮามาล่ะครับ สนุกสนานดี แม้ตอนจบจะลงเอยง่ายเกินไปหน่อยก็เถอะ แต่ก็ไม่ต้องคิดมากนี่ครับ หนังตลกสัปดนน่ะ ดูฮาก็โอเคแล้ว และหนังก็ฮาใช้ได้ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้สุดยอดนะครับ พวก American Pie หรือ The 40 Years Old Virgin อันนั้นมันค่อนข้างเต็มเม็ดเต็มหน่วยกว่า
แต่เรื่องนี้แก้ขัดเอาฮาได้สบายๆ และเรื่องรายได้นี่จัดว่าเข้าเป้าเลยครับ โกยไป $95 ล้านจากทั่วโลก จากทุนราว $17 ล้านเท่านั้น กำไรบานล่ะครับ
สองดาวกว่าครับ

(6.5/10)
หมวดหมู่:Comedy, Movie Reviews, Romance, Romance Romance, Romantic Comedy










