ตอนแรกผมก็นึกว่าหนังชุด Re-Animator จะจบลงแค่ภาค 2 นะครับ เพราะไม่มีข่าวการสร้างออกมาอีกเลย จนกระทั่งปี พ.ศ. 2546 จู่ๆ ผมก็ดันได้ยินข่าวการสร้างภาค 3 เฉยเลยครับ ตอนแรกนึกว่าข่าวลือ เพราะมันตั้งสิบกว่าปีแล้วน่ะครับ แต่สุดท้ายข่าวดันเป็นจริง ยิ่งไปกว่านั้นหนังยังได้มาเข้าโรงในบ้านเราด้วย (ประมาณเดือนมีนาคมปี 47) ผมก็เลยเดินเข้าไปดูในโรงด้วยความยินดีปรีดาน่ะสิครับ 55555 เพราะตัวอย่างที่โหลดมาดูก็ท่าจะมันส์สยองเอาเรื่องซะด้วย

คราวนี้ ดร.เฮอร์เบิร์ต เวสท์ (Jeffrey Combs เจ้าเก่า) กลับมาอีกครั้ง โดยหนังย้อนไปเล่าเรื่องเมื่อ 13 ปีก่อน (ตอนจบของภาค 2 นั่นเอง) ที่เวสท์ได้ไปทดลองกับศพจนมันออกมาอาละวาดข้างนอก ฆ่าคนไปหลายราย และหนึ่งในนั้นก็คือ เอมิลี่ (Bárbara Elorrieta) เด็กสาวแถวๆ นั้น โดยที่เฮาเวิร์ดน้องชายของเธอเห็นกับตา จากนั้นเวสท์ก็โดนจับไปขังคุกครับ

แล้วก็มาถึงปัจจุบันเวสท์ก็ยังโดนขังอยู่ครับ ส่วนเฮาเวิร์ด (Jason Barry) ก็ได้เป็นแพทย์ และเขาก็มุ่งมั่นตามหาเวสท์ ไม่ใช่เพื่อล้างแค้นนะครับ แต่เพื่อร่วมงานด้วย (ผมแอบคิดในใจเลยว่า “จะบ้าเรอะ” ) คือ เฮาเวิร์ดอยากจะผลิตยาปลุกศพขึ้นมาน่ะครับ แล้วก็นั่นแหละครับ พอเวสท์กับฮาเวิร์ดทำสำเร็จ ศพก็ตื่นสยองมาอีกตามเคย ซึ่งก็เลือดล้างคุกเลยครับงานนี้

ผมก็ยังคิดว่าภาคแรกดีที่สุดครับ ตามมาด้วยภาค 2 ที่ดร็อปลงแต่ก็ยังพอได้ ส่วนภาคนี้ก็จัดว่ามารั้งท้าย ก็คือน่าพอใจนั่นแหละ อันนี้ผู้กำกับ Brian Yuzna ที่เคยทำภาคสองก็มาทำหน้าคุมภาคนี้ได้ดีอยู่ครับ บทใช้ได้ ไม่น่าเบื่อ ความโรคจิตก็มีเยอะ แล้วเรื่องมันยังน่าติดตามเพราะมันน่ารู้น่ะครับว่าเรื่องมันจะไปลงเอยตรงไหน

และก็เหมือนเคยครับ Combs ยังสุดยอดไม่เลิกรา แต่ก็เป็นพี่เวสท์เวอร์ชั่นอายุมากแล้วน่ะฮะ ไม่ได้กระดี้กระด้าตอนศพเดินได้อีกต่อไป คือสองภาคแรกพอเห็นศพเดินได้พี่แกจะดีใจ แววตาท่าทางนี่ออกอาการเลยครับว่าตื่นเต้นแค่ไหน แต่มาภาคนี้พี่ท่านนิ่งครับ ประมาณว่าชินแล้วนั่นแหละ ในขณะที่คนอื่นตกใจตะลึงกัน แต่พี่ท่านทำหน้าประมาณว่า “เออ ตูเคยเห็นมาแล้ว แปลกตรงไหน จะกรี๊ดกันทำไม ไม่เคยเห็นกันเหรอ” ดังนั้นจะเรียกว่ามีพัฒนาการก็ได้ครับ อีกอย่างคือเขาดูสุขุมลุ่มลึกขึ้น (แต่ยังโรคจิตเหมือนเดิม) ในเรื่องเขาจึงครองหนังได้อย่างดี

ดาราคนอื่นก็ดีครับ Barry ก็ไม่ได้เดินตามรอย Bruce Abbott จากภาคก่อนๆ เขาดูเป็นตัวของเขา แต่มันก็น่างงล่ะ ก็พี่แกเคยเห็นพี่สาวโดนศพพวกนั้นฆ่าต่อหน้านะ แต่ทำไมยังอุตส่าห์หาทางผลิตยานี้อีกฟะ อันนี้ออกจะงงๆ หน่อย แต่ตัวหนังทำได้เรื่อยๆ จนเราพอจะลืมเหตุผลไปได้บ้าง

Simón Andreu รับบทผู้คุมแบรนโด รายนี้ก็ชั่วได้ดีครับ ตอนท้ายหน้าตาพี่แกก็ปีศาจเต็มๆ ไปเลย และที่ลืมไมได้คงเป็น Elsa Pataky นางเอกของเรื่องที่สวยและน่ารักแบบสุดๆ เซ็กซี่มากๆ ครับ ก็พอจะทำให้หนุ่มๆ มีความตั้งใจในการดูหนังเรื่องนี้มากขึ้นล่ะน่า (และในเวลาต่อมาเธอคือภรรยาของ Chris Hemsworth ครับ)

สรุปว่าแฟนหนังชุดนี้น่าจะพอใจครับ ผมก็ชอบนะ ดาราดี ดนตรีดี ตอนท้ายก็มันส์และสยองปนโรคจิต ฉากตอนคุกโดนถล่มโดยเหล่าศพก็ออกมาดีครับ

แต่ขอบ่นอย่างหนึ่งนะครับ ตอนผมดูในโรงนั้นน่ะ มีคนพาเด็กไปดูด้วยครับ บางรายเรียกหาแม่ระหว่างดูฉากน่ากลัวก็มี เออ มันก็ไม่ไหวนะครับหนังมันโหดและน่ากลัวเกินไปสำหรับเด็กน่ะ เดี๋ยวคงฝันร้ายแน่ๆ เลย ยังไงก็ขอให้คิดให้ดีน่ะครับก่อนจะพาลูกไปดูหนังอะไรแบบนี้ และประการสำคัญคือมันกวนการดูหนังของคนอื่นน่ะครับ (อันนี้ก็มีแอบเซ็งเหมือนกัน จำได้ตอนนั่งดู Jason X ก็มีเด็กไปดูครับ งงเหมือนกัน ทำไมเด็กๆ ต้องโดนพาไปดูหนังพวกนี้เยอะจัง ในขณะที่พวก The Pink Panther นี่ไม่ยักกะได้ยินเสียงเด็กซักเอะเลยนะครับ)

กลับมาเรื่องหนังนะครับ สำหรับผมมันคุ้มค่าในการดูอยู่ แค่ดูพี่เวทส์โรคจิตไปเรื่อยๆ แล้วก็นางเอกสวยๆ ก็คุ้มแล้วล่ะครับ Effect ก็ดี ตอนจบก็สรุปเรื่องได้น่าสนใจครับ จริงๆ ตอนนั้นก็แอบลุ้นให้มีภาคต่อนะ แล้วก็มีข่าวออกมาอีกว่าอาจมีการทำภาค 4 โดยจะให้เหตุไปเกิดที่ทำเนียบขาว แต่สุดท้ายมันก็ไม่เกิดขึ้นครับ

สองดาวนิดๆ ครับผม

(6/10)