ดูเหมือนช่วงนี้ผมจะพิมพ์ตรงแนวหนังแปลกขึ้นเรื่อยๆ แล้วนะครับ แต่กับเรื่องนี้มันเหมาะสมครับ เพราะแนวหนังมันแปลกประหลาดจริงๆ

ชื่อเรื่องก็บอกว่ามันน่ากลัว หน้าปกก็มืดทึม แต่อย่าให้มันหลอกคุณได้ครับ เพราะมันเป็นหนึ่งในหนังเพลงสุดฮาที่น่ารัญจวนใจแบบสุดๆ

หนังเริ่มต้นด้วยการแนะนำ เจเนท ไวสส์ (Susan Sarandon) กับ แบรด เมเจอร์ส (Barry Bostwick) คู่รักหนุ่มสาวที่บังเอิญรถเสียกลางถนนที่แสนจะมืดมิดและน่ากลัว พวกเขาได้เดินมาพบกับปราสาทหลังหนึ่ง ที่นั่น เขาได้พบกับคนแปลกๆ สิ่งแปลกๆ มากมาย ตั้งแต่พ่อบ้านหลังค่อม (Richard O’Brien) แม่บ้านที่มีท่าทางแปลกๆ (Patricia Quinn) และ ดร.แฟรงค์-เอน-ฟาเธอร์ (Tim Curry) เจ้าของปราสาท

แต่นั่นมันแค่เริ่มต้นของคืนที่แสนสนุกและสุดสยองเท่านั้น!!!

ก่อนอื่นขอกราบงามๆ แสดงความนับถือเหล่าผู้สร้างหนังเรื่องนี้เลยนะครับ คือ หนังมันออกมาสนุกและเพี้ยนขนาดนี้ได้ไงหว่า – บอกก่อนว่าหนังเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากละครเวทีที่แสนจะ Cult ครับ เปิดแสดงที่ไหนคนแห่ไปดูกันแน่น และแน่นอนว่าความเพี้ยนก็สุดๆ ไปเลยจริงๆ

เอ้า จะสาธยายให้ฟังเพราะมันเอาบรรยากาศของหนังสยองยุคแรกๆ (พวกปราสาทเก่าๆ และตัวประหลาดน่ะครับ) มาผสมเข้ากับความเป็นหนังเพลงได้ แล้วยังออกมาฮาอีก เออ เอาเข้าไปสิ แต่เขาทำได้จริงๆ นะครับ ถือว่าเป็นหนังแปลกได้เลย เพราะมันผสมทุกแนวที่ผมกล่าวไปนั่นออกมาได้อย่างลงตัวที่สุด เพลงก็เพราะครับ ตลกก็ตลก แต่บรรยากาศยังคงเป็นหนังสยองอยู่ โอย ถ้าไม่แจ๋วจริงคงไม่ออกมาลงตัวอย่างนี้หรอกครับ

การแสดงก็เยี่ยมสุดๆ แต่ละคนดูสุดขั้วมาก อย่างคู่รักของเรื่องก็เล่นได้อินโนเซนต์สุดๆ ตาบ้องแบ้ว เป็นพระเอกนางเอกแบบสุดขีด ส่วนพวกสมาชิกในปราสามก์เพรียนและประหลาดมากๆ ท่าทางน่ากลัวนะครับ แต่จู่ๆ ก็ลุกขึ้นมาเต้นกัน ร้องเพลงมันส์ๆ และโดยเฉพาะ Curry กับบทดร.แฟรงค์-เอน-ฟาเธอร์ ซึ่งพี่แกเป็นเสือไบครับ ไหนจะโหดอีก อืมม์ บ้ากันสุดๆ เลย ส่วนตัวละครที่ดูเหมือนจะเป็นคนปกติอย่าง ดร.เอเวอเรทท์ วอน สก็อต (Jonathan Adams) ก็ยังมีอะไรบ้าๆ ในตอนท้ายอีก

แม้แต่ผู้บรรยายเรื่องที่รับบทโดย Charles Gray เจ้าของบทโบลเฟลด์ในหนัง 007 ตอน Diamonds Are Forever พี่แกก็ดูปกติดีครับ ตอนบรรยายก็ทำหน้าเคร่งขรึมเหมือนเล่าเรื่องผีให้เราฟัง แต่วันดีคืนดีพอตัวละครอื่นเขาเต้นกัน พี่ท่านก็กระโดดขึ้นมาพร้อมบรรยายสอนเต้นท่าเต้นให้ด้วย ทั้งๆ ที่หน้าตายังเคร่งขรึมอยู่นั่นแหละครับ

อย่างที่บอกครับ หนังมันบ้า พวกข้าวของที่ใช้ประกอบฉากส่วนมากก็ยืมมาจากฉากเก่าๆ ของหนังสยองค่าย Hammer films นั่นเอง ตัวหนังมันมีเค้าความน่ากลัวครับ ปราสาทมืดๆ ทึมๆ แต่เรื่องราวดันบ้าสุดขั้ว ไม่ใช่ติงต๊องนะครับ ไม่เหมือนหนังล้อเลียนแบบ Scary Movie เลย ทุกอย่างในเรื่องดูจริงจัง ดังนั้นหนังเรื่องนี้มันแนวเพี้ยนจะถูกกว่าครับ

หนังเรื่องนี้มันแปลกจริงๆ ครับทุกท่าน ผมก็ขอชี้ชวนทุกท่านเลยฮะ ว่าต้องดูเพราะผมเดาไม่ถูกจริงๆ ว่าหนังเหมาะกับคนประเภทไหน (จริงๆ ต้องบอกว่าเหมาะกับคนประเภทผมกับผองเพื่อนน่ะครับ แต่พวกเรามันเพี้ยนนี่ซี่ เลยไม่อยากจะเหมาคนอื่นมาเกลือกกลั้วด้วย) หนังมันเพี้ยน ดูเหมือนจะน่ากลัว แต่ดันสนุกเฮฮา และเพลงก็เพราะมากๆ ครับ ใช่ เพลงดีจริงๆ สนุกและมันส์มากๆ แค่ฟังเพลงก็คุ้มแล้วล่ะครับ

ไม่น่าแปลกใจครับ ว่าทำไมหนังถึงขึ้นชื่อว่าลงโรงฉายยาวนานที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ … ก็มันเพี้ยนและบ้าแบบที่ไม่ค่อยมีหนังเรื่องไหนทำได้น่ะสิครับ

หนังลงทุนไปประมาณ $1.2 ล้าน แต่โกยคืนมาได้ $115 ล้านครับ กำไรขนาดไหนลองพิจารณา!

สองดาวสามส่วนสี่ดวงครับ

(7.5/10)