
ผมเลือกดู Jolt แบบแบลงค์ๆ ครับ คือไม่ได้คิดและไม่ได้หวังอะไรเลย ดูไปแบบแบลงค์ๆ ครั้นดูจบก็รู้สึกแบลงค์ๆ อีกเหมือนกัน
ผมเลือกดู Jolt แบบแบลงค์ๆ ครับ คือไม่ได้คิดและไม่ได้หวังอะไรเลย ดูไปแบบแบลงค์ๆ ครั้นดูจบก็รู้สึกแบลงค์ๆ อีกเหมือนกัน
จริงๆ แล้วนี่คือหนังที่ฟอร์มดีมากๆ นะครับ เพราะรวมดาราระดับออสการ์มากันคับคั่ง ไม่ว่าจะ Kevin Kline, Rod Steiger, and Susan Sarandon (3 คนนี้ได้ออสการ์) Mary Elizabeth Mastrantonio, Harvey Keitel, Danny Aiello (ส่วน 3 คนนี้ได้ชิงออสการ์) และ Alan Rickman ที่รายนี้แม้ไม่เคยชิงออสการ์ แต่ฝีไม้ลายมือก็ไม่เป็นสองรองใคร
Tammy หนังฮาตามสไตล์เจ๊ Melissa McCarthy ที่จะว่าไปแล้วผลงานเธอทำเงินทำทองเกือบทุกเรื่องเลยนะครับ เพราะยอมรับเลยว่าคาแรคเตอร์ของเจ๊แกแน่จริงๆ มักจะทำให้หนังฮาแบบไม่เลอะ แล้ววันดีคืนดีก็จะมีดราม่าเล็กๆ แทรกลงไป ตามด้วยสาระสอนชีวิตแบบเล็กๆ น้อยๆ ผสมลงไปด้วย
หนังดราม่าผสมตลกที่ตอนแรกผมนึกว่าจะเป็นสไตล์ “แม่ๆ ลูก” แต่เอาเข้าจริงแล้วหนังมาเน้นที่ตัวคุณแม่ครับ ส่วนคุณลูกออกแนวบทสมทบเสริมเรื่องราวมากกว่า
บางทีหากเราดูหนังโดยรู้ว่าคนกำกับคือใคร เราก็อาจรู้สึกต่อหนังลึกกว่าที่ตาเห็น
ตัวหนังไม่ทำเงิน คำชมก็ไม่มาก อะไรทั้งหลายเหล่านี้เลยกลายเป็นเครื่องลดความคาดหวังที่ผมมีต่อหนังไปโดยปริยาย
หนังเก่าที่ดูสนุกในความทรงจำของผมอีกเรื่องครับ ว่าด้วย 3 สาวเพื่อนซี้แห่งเมืองอีสต์วิค อันประกอบด้วย อเล็กซานดร้า (Cher), เจน (Susan Sarandon) และ ซูกี้ (Michelle Pfeiffer) ที่กำลังเปลี่ยวเหงาขั้นรุนแรงครับ เพราะเมืองๆ นี้ก็ดูนิ่งๆ ไร้ชีวิตชีวา ผู้ชายดีๆ ที่มีเสน่ห์ก็ไม่ใคร่จะมีสักเท่าไร
นี่คือหนังแนวสืบสวนสร้างจากนิยายของ John Grisham เจ้าพ่อนิยายแนวขึ้นศาลและกฎหมายชื่อดัง หลังจากผมเอา The Pelican Brief และ The Chamber มาแนะนำแล้ว ก็ขอตามทบด้วยเรื่องนี้ ที่จัดว่าสนุก เข้มข้น น่าติดตามกำลังดีกว่าสองเรื่องก่อนที่ผมพูดถึงไป
ชื่อเรื่องก็บอกว่ามันน่ากลัว หน้าปกก็มืดทึม แต่อย่าให้มันหลอกคุณได้ครับ เพราะมันเป็นหนึ่งในหนังเพลงสุดฮาที่น่ารัญจวนใจแบบสุดๆ