หนังรักโรแมนติก ที่หลายคนอาจมองว่าเนื้อหามันน้ำเน่า แต่เขาทำออกมาดีและอุดมไปด้วยเพลงเพราะโคตรๆ กับฉากสวยสุดๆ เรื่องนี้คือผลงานของ Baz Luhrmann เจ้าของผลงาน William Shakespeare’s Romeo + Juliet ฉบับปี 1996 ครับ

เรื่องของความรักของหนุ่มนักเขียนไส้แห้ง คริสเตียน (Ewan McGregor) กับนักเต้นสาวดาวของมูแลงรูจ ซาติน (Nicole Kidman) ซึ่งพวกเขาก็ต้องพบกับอุปสรรคความรักมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวร้าย (หรือตัวอิจฉา) อย่างท่านดุ๊ค (Richard Roxburgh) ที่มาชอบซาตินเหมือนกัน งานนี้เลยต้องมีการแย่งชิงเข่นฆ่ากัน ส่วนเรื่องราวจะจบลงอีท่าไหนอันนี้ต้องลองดูกันเอาครับผม แต่ก็อย่างที่หลายคนว่า เรื่องมันลงสูตรน้ำเน่าจริงๆ

ทว่าแม้หนังมันจะน้ำเน่า แต่เราสามารถลืมมันไปได้ครับ เพราะหนังมีเพลงเยี่ยมๆ เพราะๆ ความหมายดีๆ รวมไปถึงฉากที่โคตรตระการตาตลอดทั้งเรื่อง อีกทั้งนักแสดงก็ดีๆ ทั้งนั้นครับ ไม่ว่าจะ McGregor, Kidman และ พี่ Roxburgh ของผม เรื่องนี้พี่แกขี้หลีได้ถึงใจแท้ๆ เลยครับ นักแสดงแต่ละรายมาเป็นสีสันให้กับหนังที่เต็มไปด้วยสีสันเรื่องนี้ได้อย่างดีจริงๆ

ต้องยอมรับครับว่า McGregor กับ Kidman เข้าคู่กันได้อย่างดีและลงตัวสุดๆ  – ว่ากันว่าตอนแรกมีการทาบทามให้ Catherine Zeta-Jones กับ Heath Ledger มาคู่กันครับ แต่สุดท้ายก็มาลงเอยที่คู่นี้ และพวกเขาก็ร้องเพลงกันเองด้วย ยอดจริงๆ ครับ

บทคริสเตียนของ McGregor นี่ มีหลายรายมาจ่อกันเลยล่ะครับ นอกจาก Ledger แล้วยังมี Jake Gyllenhaal คนที่เล่นเป็นลูกของ Dennis Quaid ใน The Day After Tomorrow น่ะครับ แต่ทีมงานก็เห็นว่าเขาดูเด็กเกินไปที่จะเข้าคู่กับ Kidman และพี่ Ronan Keating ก็เคยมีชื่อโผล่มาในลิสต์ของตัวเลือกด้วยล่ะครับ (อืมม์ ถ้าจริงมันจะเป็นยังไงนะนี่)

ตัวหนังออกมางดงาม นักแสดงยอดเยี่ยม เพลงเพราะทุกเพลงครับ โดยเฉพาะเพลงนำอย่าง Come What May ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีเพลงนี้ ถูกแต่งไว้สำหรับ Romeo + Juliet ปี 96 นะครับ แต่ก็ไม่ได้ใช้ (ก็พอเข้าใจได้ครับ เพราะเฉพาะเพลงที่มีในหนังเรื่องนั้นนั่นก็เพียบแล้วล่ะ) เลยมีการเอามาดัดแปลงลงกับเรื่องนี้แทน ซึ่งก็ดีทั้งความหมายและทำนองเลยล่ะครับผม

Baz Luhrmann เคยมีความต้องการจะทำหนังชุดไตรภาคที่เรียกว่า Red Curtain ซึ่งนี่ก็คือเรื่องที่สามในไตรภาคที่ว่านี่แหละครับ (เรื่องแรกคือ Strictly Ballroom ในปี 1992 และเรื่องที่สอง Romeo + Juliet นั่นเอง)

สรุปว่าเป็นหนังเพลงที่เจ๋งครับ เนื้อเรื่องคุณไม่ต้องใส่ใจหรอก เพราะตอนคุณดูนะครับ ผมว่าคุณจะตื่นตากับฉากเยี่ยมๆ เพลงดีๆ และการแสดงที่น่าจดจำ

หนังน้ำเน่านั้น ทำให้ดีก็ได้นี่ครับ มันสามารถใส่ความแปลกใหม่ลงไปได้อยู่แล้วล่ะ ไม่ใช่ทำกี่ทีก็ย่ำอยู่กับที่ … นี่ผมไม่ได้ว่าใครนะเนี่ย 555

สองดาวครึ่งฮะ

(7.5/10)