
My Best Friend’s Wedding คือหนังที่ P.J. Hogan กำกับต่อจาก Muriel’s Wedding เรื่องราวก็เกี่ยวกับความรักและการแต่งงานอีกตามเคยครับ โดยได้ Julia Roberts มารับบทนำเป็น จูเลียน พอตเตอร์ นักชิมอาหารชื่อดังที่เพิ่งรู้สึกตัวว่า เธอหลงรักไมเคิล โอนีล (Dermot Mulroney) เพื่อนสมัยเรียนเข้าให้ แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่ ไมเคิลกำลังจะแต่งงานกับ คิมเบอลี่ วอลเลซ (Cameron Diaz) สาวน้อยน่ารักไร้เดียงสาอีกคน งานนี้จูเลียนจึงลงทุนเต็มที่ทุกวิถีทางที่จะทำให้ไมเคิลกับมาชอบเธอให้ได้
เจ๊ Julia กลับมาเกิดใหม่เต็มๆ ตัวจากหนังเรื่องนี้ครับ และบทก็ช่างส่งแบบสุดๆ หนังไม่ได้มีแต่ความตลกเท่านั้นนะครับ เรายังจะได้พบกับเหล่าดาราที่ฉายเสน่ห์กันทั้งเรื่อง Cameron Diaz น่ารักครับ ติงต๊องแต่น่ารัก น่าทะนุถนอมแบบสุดๆ นี่ก็ฉายเสน่ห์ตัดกับ Julia ตอลดทั้งเรื่องเหมือนกัน แต่ที่เด่นจัดๆ ต้องยกให้กับ Rupert Everett กับบท จอร์จ ที่หล่อ เท่ห์ เกย์สายอบอุ่น เป็นบทที่น่ารักและเรียกเสียงฮาได้มากๆ อีกคนหนึ่ง เป็นจอมขโมยซีนอีกรายหนึ่งที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยมมากที่สุดครับ ส่วน Mulroney แม้ไม่เด่นนัก แต่ความหล่อก็น่าจะพอใจสาวๆ ล่ะนะฮะ
หนังตลก และสนุกครับ ดูเพลิน จะว่าไปคอนเซปต์ของหนังเรื่องนี้มันก็คล้ายๆ กับ Muriel’s Wedding อยู่เหมือนกัน ในเรื่องนั้นมิวเรียลคิดว่าการแต่งงานคือที่สุดของชีวิต แต่มันใช่แน่หรือ? เช่นเดียวกันครับ เรื่องนี้จูเลียนก็พยายามทุกวิถีทางที่จะได้ใจของไมเคิลมา เพราะไมเคิลคือที่สุด แต่มันใช่แน่หรือ? มันเป็นทุกสิ่งที่มีค่าที่สุดจริงๆ หรือ? นี่คือคำถามที่หนังตั้งใส่เรา เพียงแต่อันนี้เป็นหนังฮอลลีวู้ดน่ะครับ เราต้องทำใจที่หนังไม่สามารถลึกได้ถึงขนาด Muriel ได้ ใน My Best Friend’s นั้นถือว่าแค่ทำได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น แต่เท่าที่เป็นอยู่ หนังเด่นมากครับในเรื่องความบันเทิง สาระก็มี เพียงแต่มันน่าจะมากกว่านี้น่ะ แต่ก็ไม่เป็นไรครับ ออกมาเท่านี้ก็พอคำอยู่น่ะ
ดาราดีหมด Hogan ก็กำกับได้ดีตามเคยครับ เพลงดีทั้งนั้น ฉากที่มีการร้องเพลงในร้านอาหารนั่นหลายคนอาจมองว่าเชยอยู่หน่อย แต่ออกมาน่ารักครับ คนที่มาแสดงเป็นญาติๆ ของไมเคิลและคิมเบอลี่ก็น่ารัก เฮฮาสุดๆ เป็นส่วนที่ช่วยเพิ่มอารมณ์อบอุ่นให้กับหนังได้พอสมควร และมีฉากสุดท้ายที่ลงตัวดีมากครับ ดีกว่าฉากจบแบบเก่าเยอะทีเดียว
********** สปอยล์นะจ๊ะ จะบอกให้ +++++
คือ งี้ครับ ฉากจบของหนัง แรกเริ่มแล้ว จะให้จูเลียนได้เจอกับหนุ่มหล่อซักคน แล้วเธอก็ตกหลุมรักเขา และมีการเต้นรำกันเป็นการปิดท้ายเรื่อง กล่าวคือมันจบแบบ Happy น่ะครับ แต่ตอนฉายรอบทดลองคนดูไม่ถูกใจ ทีมงานเลยเปลี่ยนใหม่ให้จบโดยการที่จอร์จลงมาเต้นรำกับเธอแทน
ซึ่งโดยส่วนตัวผมว่าเป็นการจบที่ลงตัวมากครับ ไม่ Happy เกินไป แต่ก็ไม่ได้ Sad จนเกินไป แต่เป็นการจบลงอย่างมีความหมาย และน่าประทับใจสุดๆ เพราะมันสื่อน่ะครับ สื่ออะไรมากมายหลายอย่าง ตั้งแต่ว่าชีวิตไม่ได้มีแต่การสมหวังอย่างเดียว และต่อให้เราผิดหวังในเรื่องความรักมากแค่ไหนก็ตาม แต่หากเรายังมีเพื่อนหรือใครซักคน (ที่ไม่ใช่แฟน) ห่วงใย เอาใจใส่อยู่เคียงข้าง ก็บอกได้เลยครับว่าเราไม่ได้โชคร้ายอย่างสุดๆ หรอกฮะลองว่ายังมีมิตรภาพที่สวยงามแบบเนี้ย
***************************************
สนุก ลงตัว น่ารัก มีอะไรให้น่าคิดตามเกี่ยวกับชีวิตและความรัก ซึ่งหนังประสบความสำเร็จอย่างสวยงามครับ ทำเงินไป $299 ล้านจากทั่วโลก ในขณะที่ทุนอยู่ที่ $38 ล้านครับ กำไรงดงามจริงๆ
สองดาวครึ่งครับสำหรับเรื่องนี้

(7/10)

หมวดหมู่:Comedy, Movie Reviews, Recommended Movies, Romance, Romance Romance, Romantic Comedy










