ก่อนอื่น เราต้องมีการทำความเข้าใจกันก่อนนะครับ นี่เป็นเรื่องสำคัญมาก ก็คือ นี่ไม่ใช่หนังแอ๊คชั่นมันส์หมัดสไตล์เฉินหลงแต่อย่างใด คือไอ้มีมันก็มีครับไอ้บู๊แบบเฮียฉินน่ะ แต่มีเพียง 20% เท่านั้น นอกนั้นอีก 40% จะไปเน้นเรื่องความรักในอดีตชาติระหว่างแม่ทพสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้กับพระสนม และอีก 40% จะไปเน้นตรงเรื่องการผจญภัยตามหาสุสานจิ๋นซีมากกว่า
มาดูที่เนื้อเรื่องก่อนนะครับ เรื่องเริ่มตรงแจ๊ค (เฮียเฉินของเรา) นักโบราณคดีหนุ่มที่มักฝันเป็นตุเป็นตะเกี่ยวกับเหตุการณ์ในยุคสมัยจิ๋นซี ฝันว่าเขานั้นเป็นแม่ทัพเอกในยุคนั้น ซึ่งได้เกิดความรักต้องห้ามกับ อ๊ก ซู (คิมฮีซอน) พระสนมผู้อ่อนโยนและงดงาม ด้วยเรื่องนี้เองได้สร้างคำถามมากมายครับว่าทำไมเขาจึงฝันเช่นนี้ แล้วอีกด้านหนึ่ง เพื่อนซี้ของเขา วิลเลี่ยม (เหลียงเจียฮุย) ก็ได้มาชักชวนเขาไปค้นหาความลับเกี่ยวกับตำนานการลอยตัว การสามารถต้นแรงโน้มถ่วงของโลกได้ แล้วพวกเขาก็นำตัวเขาเข้าไปสู่เรื่องราวการผจญภัยค้นหาความลับของสุสานจิ๋นซีที่แท้จริง และเหนือื่นใด สำหรับแจ๊คแล้ว เขาต้องการคำตอบว่าทำไมเขาจึงฝันวันเวียนแต่เรื่องนี้
… นี่ผมเล่าโดยสรุปนะครับ เพราะตามความจริงแล้ว ในหนังมันเล่าได้แบบจับฉ่ายมากๆ ช่วงแรกเปิดมาโอเคครับ เข้าใจเลยที่แจ๊คแกฝันถึงอดีต เราก็พอเดาได้แล้วครับว่า “อ้า พี่แกต้องเกี่ยวพันกับความฝันนั้นแน่ๆ” อาจจะเป็นชาติก่อนหรืออะไรก็ว่าไป แต่จากนั้นหนังก็พลิกไปเรื่องการตามหาความลับของการลอยตัวเฉยเลย ซึ่งหนังก็นำพาเราไปถึงเมืองดาศาร์ (ประมาณอินเดียนะคับ) นี่จู่ๆ ก็ไปแขกเฉยเลย แล้วหนังก็ป้วนเปี้ยนอยู่พักใหญ่ๆ ก่อนจะกลับมาผูกเรื่องในฝันอีก แล้วจู่ๆ หนังมันดันมาเกี่ยวกับขุมทรัพย์จักรพรรดิจิ๋นซีได้ไงก็ไม่ทราบ แล้วช่วงท้ายก็กลายเป็นการตามหาทางเข้าสุสานที่แท้จริงซะอีก
คือ ต้องขอบอกตามตรงว่าผมออกจะเฉยและธรรรมดามากกับหนังเรื่องนี้เลยครับ เพราะทิศทางของหนังมันแหม่งๆ ยังไงก็ไม่รู้สิ
จริงๆ เนื้อเรื่องออกมาเจ๋งนะครับ พล็อตน่าสนมาก เอาแค่ประเด็นที่ว่า “สุสานของจิ๋นซี อาจจะมีซุกซ่อนไว้อีกแห่งหนึ่ง” แค่อันนี้อันเดียวนี่ก็กระตุ้นต่อมอยากรู้ของคอหนังผจญภัยและผู้ที่ชอบเรื่องประวัติศาสตร์ได้แล้วล่ะครับ เพราะว่ากันว่าเคยมีตำนานของจิ๋นซีเรื่องนึง ว่าจิ๋นซีประสงค์จะมีชีวิตอมตะจึงได้มีการคิดค้นยาอายุวัฒนะมากมายขึ้น และพระองค์เองก็ได้ทำการสร้างพระราชวังขึ้นเพื่อที่ตนเองจะได้ไปประทับที่นั่นหลังจากได้เป็นอมตะแล้ว (แต่ก็ไม่มีหลักฐานครับ จนหลายคนคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องเล่ามากกว่า)
และหนังเรื่องนี้ก็จับประเด็นนี้มาเล่น ซึ่งมันเป็นอะไรที่เฉียบมากนะครับ อารมณ์เดียวกับการตามล่าจอกกาลิซ หรือหีบบรรจุบัญญัติ 10 ประการของหนัง Indiana Jones เลยทีเดียว เพราะมันเป็นเรื่องปรัมปราน่ะครับ มีจริงหรือไม่ก็ไม่รู้ และเรื่องแบบนี้มันน่าค้นหาอยู่แล้ว ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้สร้างจะสามารถวาดภาพและนำเสนอมันออกมาได้ถึงใจแค่ไหน
แต่เชื่อไหมครับ ว่ากว่าหนังจะเอาเรื่องมาผูกเกี่ยวกับสุสานจิ๋นซีที่ว่านี่ก็ปาเข้าไปเกือบจบแล้วอ้ะครับ ดีไม่ดีบางคนยังงงเลยว่า ไอ้ที่เห็นอลังการในตอนท้ายนั่นคือสุสานลึกลับของจิ๋นซีเหรอเนี่ย เพราะหนังแทบไม่ได้กล่าวถึงเลยครับ หนังพูดแต่เรื่องความฝันของแจ๊ค แล้วก็ไปเรื่องหินที่สามารถทำให้คนลอยได้ แล้วก็ผจญภัยแบบจับฉ่ายไปพักหนึ่ง ก่อนจะวกเข้าเรื่องสุสาน
ในความเห็นผมนะครับ (ไม่ต้องเชื่อก็ได้นะครับ) ผมว่าหนังมันน่าจะเปิดปมควบคู่สองอย่างพร้อมกัน ไอ้เรื่องโรแมนติกระหส่างแม่ทัพกับพระสนมนั้นหนังทำได้ชัดเจนอยู่แล้วครับ แต่อีกปมที่หนังลืมเปิดคือ “สุสานลับจิ๋นซี” เพราะถ้าให้บอกตรงๆ ไอ้ตอนที่แจ๊คกับวิลเลี่ยมไปผจญภัยน่ะ ผมยังงงเลยครับว่าตกลงพวกเอ็งไปตามหาอะไร ตามหาสิ่งใด เพื่ออะไร หนังไม่บอกอะไรเท่าไหร่ครับ เหมือนกับว่าหนังมันปล่อยให้มีสถานการณ์แต่ละอย่างแค่จะนำพาไปสู่ฉากตีกันแบบเฉินหลงเท่านั้น (ซึ่งมีอยู่น้อยครับ และแทบไม่มีน่าจดจำเลย ที่ค่อนข้างใช้ได้คือตอนตีกันในโรงงานกาวดักหนูน่ะครับ ฉากเดียวเท่านั้นที่ทั้งฮาและสนุก)
หนังมันออกจะเมาๆ น่ะครับ ผจญภัยจริง แต่ผจญภัยไปเพื่ออะไร แม้แต่ตัวพี่เฉินเองยังทำหน้าเมาๆ ครับ เพราะไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ก็ขนาดพี่ยังงแล้วคนดูจะไหวเหรอพี่ โธ่
ผมว่าหนังสามารถทำได้สนุกและมันส์ไม่แพ้ Indiana Jones ได้เลยนะครับ เพราะสิ่งที่พวกเขาค้นหาเนี่ยมันปเ้นสถานที่ในตำนานและน่าสนใจมากสำหรับตำนานชาวจีน แต่หนังเหมือนกับจะไปเน้นเรื่องความรักต้องห้ามมากกว่า ซึ่งถ้าพูดถึงประเด็นนี้ หนังก็ทำได้แบบเรื่อยๆ ครับ ไม่ได้ซาบซึ้งกินใจเท่าใดนัก แม้หนังจะมีการให้ทั้งสองได้แสดงความรักต่อกันหลายอย่างก็ตาม เช่น พระสนมยอมเสี่ยงต่อเกียรติของผู้หญิงเพื่อให้ไออุ่นกับแม่ทัพ (เพราะทางโน้นเขาถือมากครับ เรื่องการใกล้ชิดของหญิงชาย) แต่ถึงกระนั้นไอ้ส่วนความโรแมนติกของทั้งสองก็ไม่ได้มากมายเท่าไหร่
ส่วนการผจญภัยก็อย่างที่บกอครับ เอ็งตามหาอะไรกันแน่ก็ไม่บอก แต่ตรงสุสานลับจิ๋นซีผมว่าดีเลยนะครับ ทำได้น่าสนใจมาก แต่ทำไงได้ล่ะคับ ในเมื่อตัวหนังกว่า 80% ก่อนหน้านั้นดันทำเป็นหนังชีวิตซะมากกว่าอ้ะ ดังนั้นจู่ๆ มันพลิกมากลายเป็นผจญภัยเต็มตัวมันก็เลยอดจะอิหลักอิเหลื่อไม่ได้
ก็เหมือนคุณนั่งดู Titanic ดูแจ๊คกับโรสสวีทกันอยู่ดีๆ แต่ช่วงท้ายดันกลายเป็นว่ามันแล่นเข้าไปในสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าน่ะครับ อารมณ์มันจะกลมกล่อมได้มั้ยล่ะนั่น
เนี่ยแหละครับ ผมว่าทีมงานยังมือไม่แม่นพอ คือจับปลาหลายมือเกินเหตุครับ จะเอาโรแมนติกด้วย เอาย้อนยุคด้วย เอาประวัติศาสตร์จิ๋นใส่มาด้วยนะครับ (มีฉากการรบด้วยคิดดู) แล้วก็เอาผจญภัยสไตล์ Indiana Jones มาใส่อีก แล้วก็เอาแอ๊คชั่นพี่เฉินมาอีก ผมว่ามันมากไปครับ … โอเค อาจมีครับ อาจมีใครสักคนที่สามารถยำเรื่องเหล่านี้เข้ากันได้อย่างกลมกล่อม แต่ไม่ใช่กับหนังเรื่องนี้และไม่ใช่กับพี่ Stanley Tong แน่นอน ขานี้แอ๊คชั่นยังพอทำเนาครับ แต่ถ้าแนวอื่นนี่ยังไม่ประทับใจเท่าไหร่ (จำตอนทำ Mr.Magoo ได้มั้ยล่ะครับ ผมไปดูในโรงด้วย นั่นน่ะ) ซึ่งผู้กำกับรายที่พอจะจับฉ่ายหนังพวกนี้ให้ลงตัวได้ ในเกาะฮ่องกงผมยังนึกชื่อไม่ออกจริงๆ ครับ แม้แต่หยวนหวู่ปิง (So Close) หรือพี่หวังจิ้ง (คนตัดคน 3 ภาค) ก็เถอะ เก่งทุกแนวแต่ผมก็ยังไม่แน่ใจ … อ้า ถ้าเป็นเฮียโจวซิงฉือล่ะไม่แน่ครับ อาจจะทำได้นะฮะ
ด้านนักแสดงนั้น เฮียเฉินก็ไม่เลวครับ ทำได้โอเค แต่ยังไม่ดีนัก, เหลียงเจียฮุยก็พอจะลื่นไปได้เรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่เต็มที่นัก, คิมฮีซอนก็สวยครับ สง่าดี แววตาสื่อความซึ้งได้ดี แต่บทมันไม่ค่อยเอื้อน่ะสิครับ เน้นส่งความซึ้งและโศกอย่างเดียว ตอนหน้ามีความสุขนี่แทบไม่เจอเลย นอกนั้นดาราคนอื่นก็ไม่มีอะไรครับ แค่เรื่อยๆ … อ้อ มีมัลลิกา เชราวัต ดาราอินเดียมารับบทสมทบอยู่ด้วยกลางเรื่อง เป็นสาวที่คอยช่วยแจ๊คตอนอยู่ที่ดาศาร์ เธอดูดีครับ แต่บทก็ไม่มีอะไรมากเช่นกัน (ท่าทางคนที่จะแสดงคู่กับเฮียเฉินโดยไม่โดนเฮียแกกลืนไปนั้น ในโลกนี้คงมีแค่สองรายครับ คนแรกคือ Chris Tucker คนที่สองคือ Owen Wilson)
สรุปนะครับ ผมอาจจะเรื่องมากไปบ้าง (ผมไม่เคยเรื่องน้อยกับใครเขาเสียที) แต่หนังมันออกมาจับฉ่ายครับ ไม่ถึงซักทาง แล้วยังยาวตั้งสองชั่วโมง โอยไม่ไหวม้างครับ เนื้อเรื่องมันก็ไม่ได้เร่งเร้าชวนตามเท่าไหร่ด้วย อีกทั้งบทสรุปมันก็ชวนหงุดหงิดไม่ใช่น้อยเลย เพราะมันจบแบบพระเอกไม่รู้จะไปค้นหาเรื่องพวกนี้ทำไมครับ จบแบบว่างเปล่า ไม่ได้ว่างเปล่าแบบประทับใจนะครับ มันจบแบบ … เอ็งจะไปตามหาตั้งนานทำไมวะ ไม่ได้ก่ออะไรขึ้นมาเล้ย
แต่คนที่รักเฮียเฉิน ก็ลองดูครับ อาจจะชอบก็ได้ รอบทีผ่มดูนั้นก็เห็นหลายคนหัวเราะคิกคักอยู่ตอนพี่เฉินอีกหมัดน่ะ แสดงว่าสำหรับคนที่ชอบเฮียเฉินอาจจะพอรับได้ … แต่ผมนี่ก็เป็นแฟนพันธุ์แท้เฮียแกเลยนะครับ ไหงเฉยๆ ขนาดนี้ว่ะเนี่ย … คงเพราะตัวหนังด้วยน่ะแหละครับที่มันออกมาไม่ค่อยได้รสเท่าไหร่
ผมว่าพี่เฉินแกคงพยายามหาความแปลกใหม่น่ะครับ ประมาณว่าอยากจะมีอะไรที่มากกว่าแอ๊คชั่นบ้าง ก็เป็นเจตนาที่ดีนะครับ เพียงแต่คงต้องมือแม่นกว่านี้หน่อย อย่างน้อยเอาแอ๊คชั่นให้มันไหลลื่นเป็นพื้นก่อนดีกว่าครับ หรือถ้าจะริเริ่มอะไรใหม่ๆ ก็เอาทีละอย่างดีกว่าครับเฮีย เล่นล่อซะหมดทุกแนวแบบนี้มันเป็นการออกตัวที่เร็วไปหน่อยนาผมว่า
ครับ ยังอยู่ในแถบสองดาว แต่ไม่ประทับใจครับ
สองดาวลบครับ
(6/10)