The Fifth Element กับเรื่องของคอร์เบน ดัลลัส (Bruce Willis) คนขับแท็กซี่ที่จับพลัดจับผลูต้องมาช่วยกอบกู้จักรวาล นั่นคือ การตามหาสิ่งที่เรียกว่า ธาตุที่ 5 ซึ่ง หากไม่มีมัน โลกทั้งใบจะถูกความชั่วร้ายครอบครองไปตลอดกาล กับการผจญภัยครั้งนี้เขาต้องพบกับ ลีลู (Milla Jovovich) สาวต่างดาวที่ถูกส่งมาเพื่อปกป้องธาตุที่ 5 , คุณพ่อวีโต้ คอร์เนเลียส (Ian Holm) นักบวชผู้รับภารกิจปกป้องโลกมาหลายชั่วอายุคน และ ซอร์ก (Gary Oldman) ศัตรูตัวร้ายที่หวังจะครองจักรวาล
หนังกำกับและเขียนบทโดย Luc Besson ครับ (โดยมี Robert Mark Kamen มาช่วยเกลาอีกที) หนังทำได้โม้และเว่อร์สุดๆ แต่ขณะเดียวกันก็มันส์มากๆ ด้วย เรื่องนี้เป็น ไซไฟ – แอ๊คชั่นเต็มตัวครับ สำหรับคอแอ๊คชั่นทั้งหลาย เรื่องนี้น่าจะเข้าทางน่ะนะครับ
งานด้านฉากและอารมณ์ขันค่อนข้างเยอะอยู่ Effect ก็เนี๊ยบดีทีเดียว เป็นหนังที่ดูเอาความบันเทิงได้เลยครับ ดูเอามันส์ได้สบาย ก็น่าทึ่งดีนะครับเพราะผู้กำกับ Besson คิดบทร่างของหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนอยู่ไฮสคูลแล้วล่ะ จากนั้นก็ใฝ่ฝันอยากจะทำมาตลอด จนพี่ท่านได้มาเป็นผู้กำกับใหญ่แห่งฝรั่งเศส จึงได้ทำความฝันให้เป็นจริง ซึ่งความฝันชิ้นนี้ลงทุนประมาณ 93 ล้านดอลล่าร์ครับ และหนังเรื่องนี้ไม่ถือว่าเป็นหนังฮอลลีวู้ดด้วยครับ เพราะจริงๆ แล้วหนังสร้างโดยบริษัทที่ชื่อว่า Gaumont แห่งฝรั่งเศส จึงทำให้นี่กลายเป็นหนังที่ไม่ใช่หนังฮอลลีวู้ดที่ลงทุนสูงที่สุด (ในตอนนั้น)
และงานที่ออกมา ผมว่าคุ้มนะ พวก Effect และเรื่องราวมันโม้และหนุกหนานดีมาก ฉากต่างๆ ก็สีสันสวยดี ดาราก็เยี่ยมทุกคน แต่คนที่ขโมยซีนคงต้องยกให้พี่ Chris Tucker ซึ่งเขาก็คือคู่หูคู่ฮ่าของเฉินหลงใน Rush Hour นั่นแหละครับ มาในบทดีเจจอมพล่ามที่พล่ามได้บ้ามากๆ เอาแค่ตอนแกวิ่งไปกรี๊ดไปนี่ก็ฮาสุดๆ แล้วล่ะครับ
พี่ Bruce ก็ยังคงเป็นพี่ Bruce ครับ มาดเดิมๆ แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร, Jovovich ก็น่ารักแบบแปลกๆ ตามเคย และบทที่เธอรับในหนังนั่นผมว่าไม่ธรรมดาครับ เป็นบทที่มีความสับสนในตัวหลายอย่างมาก แต่เธอก็เล่นได้ถึงทุกอย่าง เอาแค่ตอนที่เธอขอร้องให้ดอร์เบนช่วยเธอด้วยเนี่ย ก็อดจะสงสารไม่ได้แล้วล่ะ
อีกคนที่มาในมาดแปลกๆ อีกก็คือ Oldman ในบทวายร้ายแบบหนังการ์ตูนที่บ้าได้ไม่ผิดหวังครับ คนละคนกับซีเรียส แบล็คใน Harry ภาค 3 เลย
ในแง่รายได้ หนังไปได้ไม่สวยเท่าไรในอเมริกา (ทำไปเพียง $63 ล้าน) แต่ยังดีที่รายได้ทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ $263 ล้าน ก็ถือว่ากำไรนิดหน่อยครับ แต่ไม่ถึงกับถล่มทลายแต่อย่างใด
สรุปว่าหนังแอ๊คชั่นครับ มันส์บวกโม้ ดูเอาเพลิน ไม่มีปัญหาครับ เหมือนดูหนังการ์ตูนฉบับคนแสดง มันเพลินดีจริงๆ ครับ
สองดาวครึ่งครับ
(7.5/10)
หมวดหมู่:Action, Adventure, รีวิวหนัง/ภาพยนตร์, หนังแนะนำ Recommended, Sci-Fi