เรื่องของกษัตริย์อาเธอร์ ดาบเอ๊กซ์คาลิเบอร์ และอัศวันโต๊ะกลมนี่คาดว่าเราๆ น่าจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วอ้ะนะคับ ซึ่งก็เป็นตำนานที่ผมชอบมากๆ เรื่องหนึ่ง ซึ่งเมื่อต้นปี 80 Rospo Pallenberg ก็ได้ดัดแปลงจากหนังสือ Le Morte d’Arthur ของ Sir Thomas Malory มาเป็นภาพยนตร์ โดยได้ John Boorman มากำกับครับ หนังก็เล่าเรื่องราวตั้งแต่การปรากฎของดาบเอ๊กซ์คาลิเบอร์ การขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์อาเธอร์ (Nigel Terry) เรื่อยมาจนถึงการก่อตั้งสมาพันธ์อัศวินโต๊ะกลม ซึ่งก็แน่ละครับว่าต้องมีตัวละครอย่าง แลนเซอล็อต (Nicholas Clay), พ่อมดเมอร์ลิน (Nicol Williamson) และกวิเนเวียร์ (Cherie Lunghi) แล้วหนังก็ร่ายยาวไปถึงตำนานการตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ (ก็อันเดียวกับจอกกาลิซใน Indiana Jones And The Last Crusade น่ะแหละครับ) และก็ไปจบตรงตำนานสุดท้ายของดาบ
หนังได้รับคำชมไปเยอะนะครับ ทำเงินพอสมควร
ตัวหนังนั้นเล่าเหมือนเล่าจริงๆ ไม่มีการเพิ่มความสนุกลงมาเลย เหมือนผมนั่งฟังคนเล่านิทานให้ฟังธรรมดา ระหว่างดูในใจผมก็คิดว่า ภาพที่ปรากฏในหนังมันควรจะอลังการกว่านั้น หนังมันอืดๆ เอื่อยๆ การผจญภัยไม่เร้าใจ การเดินเรื่องก็ไม่มีอะไรมาก ความตื่นเต้นนี่ผมไม่รู้สึกเลยครับ ไม่น่าติดตามเท่าที่ควร
แต่โอเคครับ เครื่องแต่งกายดี นักแสดงก็คุณภาพทั้งนั้น (เราอาจไม่คุ้นหน้านะครับ แต่ผมว่าก็แสดงได้ดี) พวกฉากและโลเคชั่นทั้งหลายต้องเรียกว่าถึงใจมากๆ ฉากไหนเป็นป่านี่ก็เขียวแบบสาแก่ใจกันไปเลย คือไม่มีใครแย้งว่ามันไม่ใช่ป่าอ้ะคับ แล้วบรรยากาศมันยังผสมกันได้ดีระหว่างโลกแห่งความจริงและโลกนิยาย คือดูแล้วมันก็รู้ว่ามีอยู่จริงในโลกน่ะครับ และขณะเดียวกันมันก็ให้กลิ่นอายของนิยายเพิ่มมาด้วย แต่หนังมันกลับไม่ค่อยเร้าอารมณ์หรือออกรสเท่าไหร่
จริงๆ ผมเข้าใจครับ เพราะเจตนาของผู้กำกับ John Boorman เขานะฮะ คือพี่แกเคยบอกไว้ว่า เขาต้องการจะทำหนังแบบเน้นที่เนื้อเรื่อง แต่จะไม่เน้นที่นักแสดงอะไร ซึ่งผมว่าพี่แกทำได้ครับ คือถ้าคุณจะเอาเนื้อเรื่องรายละเอียดเกี่ยวกับตำนานแห่งกษัตริย์อาเธอร์และ ดาบเอ๊กซ์คาลิเบอร์นี่มีครบครับ เอาไปเป็นสื่อการสอนยังได้อ้ะ เพราะสาระสำคัญมันครบจริงๆ แต่ทว่านี่มันหนังอ้ะคับ คือถ้ามันเป็นสารคดีทาง Discovery Channel ก็จะไม่ว่าเลย แต่นี่มันหนังนะครับ คือ มันต้องมีบ้างอ้ะ การทำเพื่อให้คนดูคล้อยตามอารมณ์ของตัวละคร หรือการโม้เพื่อให้เกิดความสนุกสนานบ้าง แต่นี่นิ่งครับ ซึ่งผมก็คงว่าไมไ่ด้อฮะ เพราะนี่เป็นเจตนาของพี่ Boorman เขาและก็ทำออกมาแล้วด้วย ก็ต้องรับอย่างที่เป็นนี่แหละครับ
ไม่ได้แปลว่าหนังไม่ดีนะครับ เพราะทุกอย่างถึงฟอร์ม ดาราก็ดีครับ (เพียงแต่ไม่ค่อยมีโอกาสแสดงฝีมือ เพราะหนังไม่เน้นส่วนนี้ครับ) รายละเอียดตำนานครบ แต่ก็ขาดไปในเรื่องอารมณ์ควาเป็นหนังผจญภัยอย่างที่บอกน่ะแหละครับ ยิ่งไอ้ตอนตามหาจอกนี่มันนิ่งมากๆ เลยครับ เหมือนเดินหาตามสวนจตุจักร แล้วเผอิญมีคนนึงเข้าถูกโครงการเลยหาเจอพอดีอ้ะ (มันไม่เร้าใดๆ ครับ แต่ฉากนั้น Effect ดีมากๆ เลยครับ)
ถ้าให้ว่าตามจริงคือเสียดายครับ เพราะถ้ามันมีความเป็นหนังมากกว่านี้คงจะสุดยอดมาก เพราะหายากที่จะมีหนังเก็บรายละเอียดของตำนานได้ครบขนาดนี้ แต่พร่องไปในเรื่องความสนุกน่ะ
เอาเป็นว่าอย่าเชื่อผมมากไปแล้วกัน ครับ ผมไม่อยากปิดกั้นโอกาสเกินไป ก็ถ้าใครชอบตำนานกษัตริย์อาเธอร์เป็นทุนอยู่แล้ว เรื่องนี้ผมแนะนำแล้วกันครับ แต่ถ้าคุณชอบหนังแนวผจญภัยสนุกๆ ล่ะก็ ขอให้ปรับนิดนึงนะครับ เพราะมันไม่ไ่ด้เอาสนุกและไม่ได้เน้นการผจญภัยอะไร ความลุ้นไม่มีครับ มันออกจะเป็นเชิงหนังสารคดีมากกว่าน่ะฮะ
รู้มั้ยครับว่า แรกเริ่มเดิมทีแล้ว ผู้กำกับ Boorman แกเล็งจะเอา The Lord of the Rings มาทำ แต่เผอิญไม่ได้ลิขสิทธิ์มาครับ เลยเปลี่ยนมาทำอันนี้แทน… นี่ถ้าแกทำ Lord ออกมาแบบนี้เนี่ย ผลจะเป็นไงหนอ … และใช่คับ พี่ Boorman คือผู้กำกับ Exorcist II: The Heretic นั่นเองฮะ
สองดาวกว่าๆ น่ะครับ
หมวดหมู่:Action, Adventure, รีวิวหนัง/ภาพยนตร์, Treasure Hunting Movies