Action

Robin Hood: Prince of Thieves (1991) โรบินฮู้ด เจ้าชายจอมโจร

Robin_hood_1991

Robin Hood: Prince of Thieves หนังดังโคตรของ Kevin Costner ครับ กับการมารับบทเป็นโรบินแห่งล็อกซ์เล่ย์ ลูกผู้ดีมีตระกูลที่พอกลับจากสงครามก็พบว่าบ้านปราสาทและทุกสิ่งของตระกูลล็อกซ์เล่ย์ถูกทำลายไปจนหมด ถูกยึดไปจนสิ้น ซึ่งผู้ที่ทำก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากนายอำเภอแห่งน็อตติ้งแฮม (Alan Rickman) ผู้โหดเหี้ยมและชอบขูดรีดประชาชนจนบ้านเมืองตกต่ำ ชาวบ้านลำบากมากจนต้องไปเป็นโจรก็มี

โรบินเลยกลายมาเป็นผู้นำในการต่อต้านกับอำนาจมิชอบของนายอำเภอ โดยเข้าร่วมกับผองเพื่อนโจรป่าอย่างลิตเติ้ลจอห์น (Nick Brimble), วิลล์ สการ์เลตต์ (Christian Slater) และอาซีม (Morgan Freeman) เพื่อนร่วมตายของโรบิน ทั้งหมดได้ร่วมขบวนกันทำการปล้นคนรวยช่วยคนจนและโค่นคนชั่ว เพื่อความสงบสุข

หนังดังมากสุดๆ ตอนที่ออกฉายครับ เรื่องราวก็สนุกดีครับ มีอืดบ้างในตอนต้นๆ และช่วงกลางๆ นิดหน่อย แต่ผลโดยรวมก็คือความบันเทิงอย่างแท้จริง มีการลงทุนยิ่งใหญ่และฉากแอ็คชั่นตระการตา หนังอาจจะยาวไปหน่อยตั้ง 2 ชั่วโมงครึ่ง ในแง่หนึ่งหากมีการลดทอนบางฉากออกไปบ้างหนังน่าจะลื่นขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็พอเข้าใจครับ เพราะบางฉากที่อาจดูเรื่อยๆ หรือน่าเบื่อนั้นก็คือฉษกที่สอดแทรกเรื่องเชิงดราม่าที่จะมีผลต่ออารมณ์ในช่วงท้ายอยู่เหมือนกัน ส่วนมากมันจะเป็นฉากการพูดคุยนั่นแหละครับ ซึ่งผู้กำกับ Kevin Reynolds นำเสนอฉากเหล่านี้ออกมาอย่างเรื่อยๆ จนเกินไปนิดนึง แต่ถ้าปเ็นในโซนของฉากแอ็คชั่นนั้นถือว่าโอเคครับ ดีทีเดียว

นักแสดงก็ถึงระดับทั้งนั้น นอกจากที่พูดถึงไปแล้วก็ยังมี Mary Elizabeth Mastrantonio ในบทแมเรียน หวานใจของโรบินซึ่งเธอแม้หน้าจะเกินอายุไปนิด แต่ก็แสดงออกทางอารมณ์ได้ดีมากๆ ครับ น่ารักแบบห้าวๆ น่ะ ส่วนรายที่สุดบาทาก็หนีไม่พ้น Rickman ที่หากพูดถึงบทร้ายๆ ล่ะก็ต้องยกให้เลยครับ เล่นได้ร้ายกาจโฉดชั่วจนเกือบจะถึงขั้นเลวทรามต่ำช้าเลยก็ว่าได้ เล่นได้ขนาดนี้ต้องชมกันหน่อยล่ะครับ (นั่นผมชมนะครับ)

อีกคนก็คือ Michael McShane ในบทหลวงพ่อแฟร์ทัค ที่ตอนแรกโดนพวกโรบินจับมาแล้วพี่แกก็โวยวายครับ แต่ต่อมาพี่แกนี่แหละสร้างความฮาได้มากมายมหาศาลจริงๆ

แล้วก็มีเกร็ดหนังมาฝากเช่นเคยครับ สำหรับบทนายอำเภอแห่งน็อตติ้งแฮมนั้นตอนแรก Costner อยากได้ Richard E. Grant มาแสดง แต่พอดีตอนนั้น Grant กำลังถ่ายหนังเรื่อง Hudson Hawk อยู่ แล้วหนังก็เกิดความล่าช้าในการถ่ายทำจนส่งผลให้ Grant ต้องบอกปัดบทนี้ไปครับ แล้วจากนั้นบทก็ถูกเสนอต่อให้ Rickman ซึ่งจริงๆ ตอนแรกนั้นเขาบอกปฏิเสธบทนี้ไปถึง 2 ครั้ง 2 คราครับ เพราะเขามองว่าบทหนังยังไม่โอเคโดยเฉพาะบทในส่วนของตัวนายอำเภอที่เขามองว่ายังดีไม่พอ ไหนจะบทพูดที่ค่อนข้างทื่อและมีเพียงมิติเดียวอีก เขาไม่โอก็เลยบอกปัดไปครับ

แต่แล้วทางผู้สร้างก็เสนอไปใหม่พร้อมบอกว่าจะยินดีให้ Rickman ตีความบทนี้ใหม่ตามแต่ความต้องการของเขาเลย อีกทั้งสามารถเปลี่ยนบทพูดได้ตามที่เขาเห็นสมควร พอได้ยินดังนี้ Rickman ก็เซย์เยสครับ แล้วเขาก็ทุ่มเทให้กับบทนี้มากถึงขั้นนัดเพื่อนพ้องที่เป็นนักแสดงตลกอย่าง Ruby Wax และมือเขียนบท Peter Barnes มาเจอกันที่ร้านพิซซ่าฮัทเพื่อรีไรต์บทพูดใหม่ ซึ่งผู้กำกับ Kevin Reynolds ก็อนุมัติโดยที่ไม่ได้แจ้งกับทางผู้สร้างและทีมงานล่วงหน้า ส่งผลให้บางฉากนั้นทีมงานเกือบกลั้นหัวเราะไม่อยู่ยามที่ Rickman พูดประโยคที่เด็ดๆ และฮาๆ ออกมา

หรืออย่างประโยค “ข้าจะแหวะหัวใจของเจ้าออกมา ด้วยช้อน” ที่เขาพูดตอนโดนโรบินฮู้ดกรีดหน้าในโบสถ์นั่นก็เป็นการด้นสดครับ คิดสดๆ พูดสดๆ ตรงนั้นเลย – แล้วผลแห่งการทุ่มเทก็ทำให้ Rickman คว้ารางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากเวที BAFTA

เกร็ดสนุกๆ ของ Rickman ยังไม่หมดครับ เขาเคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่าในฉากที่เขาฟันดาบสู้กับโรบินในตอนท้ายนั้น เขาทำดาบหักไป 10 กว่าเล่ม และระหว่างการถ่ายทำนั้น Rickman กับ Mastrantonio ได้เป็นเพื่อนบ้านกันครับ ว่ากันว่าบางเวลา Rickman ก็เดินไปขอยืมนมกล่องจากบ้านของ Mastrantonio ด้วย – อีกหนึ่งข่าวลือก็คือ Costner มีการแอบสั่งให้ทีมงานเฉือนบางฉากที่ Rickman ดูเด่นกว่าเขาออกไปด้วยครับ

และบทหนังที่ Pen Densham กับ John Watson เขียนขึ้น (บทที่ Rickman เอาไปแก้นี่แหละ) สตูดิโอซื้อไปในสนนราคา $1.2 ล้าน ซึ่งถือว่าสูงเอาเรื่องสำหรับยุคนั้น

สำหรับบทโรบินฮู้ดนั้น มีการทาบทาม Cary Elwes ให้มาแสดงด้วยครับ แต่เขาก็บอกปัดเพราะรู้สึกว่าบทหนังมันดูประดิษฐ์เกินไปหน่อย แต่แล้วเขาก็ได้เป็นโรบินฮู้ดจนได้ในหนังล้อเลียนเรื่อง Robin Hood: Men in Tights และอีกคนที่ได้รับการติดต่อให้มาเล่นคือ Mel Gibson ครับ แต่พอดีว่าตอนนั้นเขาเพิ่งเสร็จจากงานหนังเรื่อง Hamlet เขาเลยไม่อยากรับงานหนังพีเรียดติดๆ กัน เลยบอกปัดไป

ส่วนบทแมเรียนนั้นเคยมีชื่อของหนังแสดงหญิงเหล่านี้ได้รับการทาบทามครับ ไม่ว่าจะ Elizabeth Hurley, Patsy Kensit, Nicole Kidman, Mathilda May, Amanda Pays, Joely Richardson, Ally Sheedy, Sophie Marceau และรายที่เกือบได้เล่นแล้วคือ Robin Wright แต่พอดีว่าตอนนั้นเธอตั้งครรภ์ลูกคนแรกครับ เลยจำเป็นต้องบอกปัด ในขณะที่ Mastrantonio นั้นได้มาแสดงบทนี้ตอน 4 วันก่อนหนังเริ่มถ่ายทำครับ

ส่วนคนที่เคยได้รับการทาบทามให้รับบทนายอำเภอก็มี Jon Finch, Michael Gambon, John Hurt, Ian McKellen, Oliver Reed และ Patrick Stewart ซึ่งสำหรับรายหลังนี่แม้จะไม่ได้เล่นเรื่องนี้ แต่สุดท้ายก็ได้ไปเล่นริบเชิญใน Robin Hood: Men in Tights

นอกจากนี้ Johnny Depp ยังบอกปัดบทวิลล์ สการ์เล็ต, Richard Griffiths (ลุงเวอร์นอนในหนัง Harry) บอกปัดบทแฟร์ทัค และ Robbie Coltrane (แฮกริดในหนัง Harry) บอกปัดบทลิตเติ้ลจอห์น – รายนี้บอกปัดเพราะตารางเวลาไม่ลงตัวครับ

อีกคนที่จริงๆ ตอนแรกจะมาแสดงเป็นพ่อของโรบินฮู้ดก็คือ Sean Connery ครับ แต่เขาก็บอกปัดไปเพราะช่วงนั้นเขารู้สึกว่าตัวเองเล่นเป็นบทพ่อบ่อยเกินไปแล้ว – แต่ในที่สุดเขาก็ได้ร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้ครับ บทอะไรต้องไปดูกันเอง และบอกได้ว่าบทรับเชิญนี้เขาใช้เวลา 2 วันในการถ่ายทำครับ และรับค่าตัวไป $250,000 โดยเงินทั้งหมด Connery บริจาคให้กับการกุศลครับ

อีกหนังเกร็ดที่ถือว่าสำคัญเหมือนกันคือตลอดการถ่ายทำนั้น Costner และ Reynolds ทะเลาะกันบ่อยครั้งครับเพราะเห็นไม่ตรงกันในหลายๆ เรื่อง จนหลายคนคิดว่าพวกเขาคงไม่ร่วมงานกันอีกแล้ว แต่ในที่สุดก็กลับมาร่วมงานกันใน Waterworld ครับ (และแน่นอนว่าในเรื่องนั้นก็ทะเลาะกันเหมือนกัน)

ตัวหนังประสบความสำเร็จอย่างสวยงามครับ ลงทุนราวๆ $48 ล้าน ได้คืนมา $390 ล้านจากทั่วโลก ฮิตยันเพลงน่ะครับ เพลง Everything I Do (I Do It For You) ที่เป็น Soundtrack หลักของหนังถือเป็นหนึ่งในซิงเกิ้ลที่ประสบความสำเร็จสูงที่สุดในชีวิตของ Bryan Adams ติดอันดับ 1 ของ U.S. Billboard อยู่ 14 สัปดาห์ และฮิตสุดๆ ในอังกฤษ แน่นอนว่ารวมถึงในบ้านเราด้วยครับ

ในปี 1995 มีข่าวเกี่ยวกับภาคต่อออกมาครับ ว่ากันว่า Morgan Creek ผู้สร้างได้จ้าง Tom Reilly และ Hogan Sheffer ให้มาเขียนบทครับ แต่สุดท้ายโปรเจคท์ก็ล่มไป

สรุปว่าดูเอามันส์ครับ กับหนังผจญภัยเพื่อความบันเทิง – คุ้มที่จะดู

สองดาวครึ่งครับ

Star22(7/10)

Untitled03533