นี่เป็นหนังที่สร้างจากการ์ตูนจากปลายปากกาของ Chester Gould กับเรื่องราวของยอดนักสืบ ดิ๊ก เทรซี่ (Warren Beatty) ที่ต้องมาต่อกรกับมาเฟียคู่แค้นอย่าง บิ๊กบอย คาร์ไพรซ์ (Al Pacino) ซึ่งคราวนี้ ดิ๊กต้องมาพบกับ The Blank ศัตรูผู้ลึกลับอีกด้วย
หนังเป็นแนวสืบสวนครับ การเดินเรื่องก็เรื่อยๆ ได้ Warren Beatty มากำกับเอง ซึ่งโดยรวมๆ หนังก็อยู่ในระดับโอเคครับ แต่จุดที่โดดเด่นมากก็คือการเมคอัพหน้าตัวละครซึ่งแต่ละคนก็แปลกๆ ทั้งนั้นล่ะครับ และการใช้สีในสไตล์ที่ใช้ในหนังสือการ์ตูนจริงๆ (มันจะเข้มและสวยงามอย่างน่าประหลาดครับ) และดนตรีสุดทะมึนของ Danny Elfman ที่เสริมอารมณ์ลึกลับของหนังไปได้อีกเพียบ แล้วก็ได้ Madonna มาร่วมแสดงอีกคน ซึ่งฝีมือแสดงอาจไม่่ได้เด่นอะไรมาก แต่เพลงที่เธอร้องนั้นจัดว่าเยี่ยมครับ
การเดินเรื่องมันก็ออกจะเป็นฟิล์มนัวร์แนวอาชญากรรมน่ะนะครับซึ่งออกจะทึมๆ แล้วพอได้สีสันโทนแบบการ์ตูนมาอีก ภาพจึงสวยและทำให้หนังน่าติดตามขึ้น แค่ดูฉากต่างๆ ก็สนุกแล้วล่ะครับ เนื้อหาก็ซับซ้อนพอประมาณ แต่ต้องเข้าใจนะครับว่าเนื้อเรื่องมันไม่ได้เน้นแอ็คชั่น มันเน้นการสืบมากกว่า แต่กระนั้นก็สืบก็ไม่ได้เด็ดอะไรมากครับ แค่พอเพลินๆ เท่านั้น
ก็ขอพูดถึงกว่าจะมาเป็น Dick Tracy นิดนึง ตอนแรกนั้นหนังจะสร้างตั้งแต่ปี 1980 แล้วครับ สิทธิ์ของหนังก็ตกไปอยู่ในมือของ United Artist บทเขียนโดย Tom Mankiewicz (ซึ่งรายนี้เขียนบทร่วมใน Superman อีกทั้งเคยเขียนบทร่างให้โปรเจคท์ Batman ด้วย แต่ก็เจอพี่ Tim Burton เข้ามาแทนพร้อมกับมือเขียนบทนาม Sam Hamm) บทของเขานั้นร่างไว้โดยจะให้มีศัตรูเพียงคนเดียวนั่นคือ The Blank (คนไร้หน้า) โดยฉากเปิดจะให้มีตำรวจคนหนึ่งนอนใกล้ตาย แล้วก็มีตำรวจฝ่ายสเก็ตซ์ภาพกำลังนั่งวาดหน้าคนร้ายตามที่ตำรวจคนนั้นบอก เล่า แล้วกล้องก็ซูมไปให้เห็นว่าภาพที่ตำรวจสเก็ตซ์นั้นคือคนไร้หน้าคนหนึ่ง จากนั้นพอเขาเอาให้ตำรวจที่ใกล้ตายดู เขาก็บอกว่า “นั่นแหละ เขา!” (“That’s him!”) แล้วตำรวจรายนั้นก็เสียชีวิตไป
ว่ากันว่า Chester Gould ผู้ให้กำเนิดการ์ตูนชุดนี้พอใจมากๆ เลยครับ แต่โปรเจคท์กลับไม่ไปไหน จน Gould เสียชีวิตนั่นแหละ ถึงได้เริ่มมีการคิดจะทำเป็นเรื่องเป็นราวซะที โดยคราวนี้ Disney เอาไปทำ และบทของ Mankiewicz ก็โดนทิ้งไปอีกหนตามระเบียบ
ส่วนผู้กำกับนั้นก็มีหลายคนถูกเสนอเข้ามา เช่น John Landis (The Blues Brothers) แต่คนที่น่าสนสุดๆ คือ Tim Burton แต่แล้วเขาก็ไม่สามารถมากำกับได้ เพราะติดคิวกำกับ Edward Scissorhands อยู่ และในที่สุดเรื่องก็มาลงที่ Warren Beatty ด้วยประการละฉะนี้แล
สรุปก็คือ นี่เป็นหนังที่ดูได้เรื่อยๆ ครับ จุดเด่นคือฉากที่มีสีสันสดสวยมากๆ เรื่องหนึ่ง และการแสดงเยี่ยมๆ อีกหนของ Pacino ที่ร้ายได้สะใจจนได้เข้าชิงออสการ์สาขาดาราสมทบยอดเยี่ยมเลยล่ะครับ
ตัวหนังจริงๆ ถือว่าประสบความสำเร็จพอตัวครับ ทำเงินในอเมริกาไป $103 ล้าน ถ้ารวมทั่วโลกก็จะเป็น $162 ล้าน ใขขณะที่ทุนสร้างอยู่ที่ $47 ล้าน ก็จัดว่าหนังทำกำไรครับ แต่ก็กลายเป็นว่ารายได้ยังไม่หนำใจผู้สร้าง – ส่วนหนึ่งเพราะพวกเขาดันมี Batman ที่ทำเงินทั่วโลกกว่า $400 ล้านเป็นหลักไมล์ ก็เลยพากันมองว่าหนังไม่เข้าเป้า (ทั้งๆ ที่มันก็ทำเงิน)
สรุปว่าดูได้เพลินๆ ครับ
สองดาวกว่าๆ ครับผม

หมวดหมู่:Action, Movie Reviews, Superhero












